มติกพช.ให้ปตท.แยกธุรกิจท่อก๊าซฯ

มติกพช.ให้ปตท.แยกธุรกิจท่อก๊าซฯ

"อารีพงศ์" เผยมติกพช.ให้ ปตท. แยกธุรกิจท่อก๊าซฯตั้งเป็นบริษัทใหม่-ลดจำนวนถือหุ้นในโรงกลั่น

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธาน มีมติให้ บมจ.ปตท.(PTT) แยกธุรกิจท่อก๊าซฯออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ เพื่อให้ธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติมีการแข่งขันที่เป็นธรรมในอนาคต และให้บุคคลที่ 3 สามารถเข้ามาใช้บริการท่อส่งก๊าซธรรมชาติได้ โดยคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในมิ.ย.58 ขณะเดียวกัน กพช.ยังเห็นชอบให้ PTT ปรับโครงสร้างธุรกิจโรงกลั่น โดยการลดจำนวนโรงกลั่นที่ PTT ถือหุ้นลงภายในกลางปี 58 ด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุม กพช.เห็นชอบให้ PTT ดำเนินการแยกกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติออกจากกิจการจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติในลักษณะการแบ่งแยกตามกฎหมายออกไปในรูปบริษัทจำกัด โดยให้ PTT ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.58 ในช่วงแรกโดยไม่มีการแปรรูปพร้อมให้กระทรวงการคลังพิจารณาเข้าไปถือหุ้นตามสัดส่วนต่อไป และเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเว้นภาษีต่างๆ และค่าธรรมเนียมในการโอนทรัพย์สินจาก PTT ให้แก่บริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่

"เบื้องต้นจะให้ปตท.จะถือหุ้นในบริษัทท่อก๊าซดังกล่าว 100% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2558 และหลังจากนั้นให้กระทรวงการคลังเข้าไปถือหุ้นแทนในสัดส่วน 25% และยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้จะไม่มีการแปรรูปบริษัทท่อก๊าซดังกล่าวอย่างแน่นอน" นายอารีพงศ์ กล่าว

นายอารีพงศ์ กล่าวด้วยว่า กพช.ยังได้พิจารณาเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของ บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง(SPRC) โดยเห็นชอบ(ร่าง)สัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) "สัญญาจัดสร้างและประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม" ระหว่างกระทรวงพลังงานกับ SPRCเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการแข่งขันของธุรกิจการกลั่นน้ำมันโดยเสรี โดยให้ ปตท.ลดสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการโรงกลั่นน้ำมัน SPRC ลง เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนไม่น้อยกว่า 30% ของทุนจดทะเบียน และให้ SPRC จำหน่ายหุ้นให้กับประชาชนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 2/58 หรือภายใน 6 เดือนภายหลังจากวันที่ลงนามในสัญญาฯ

"ที่ประชุมกพช.ยังได้ให้บริษัท ปตท.ลดสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการโรงกลั่นน้ำมัน SPRC เพื่อให้ธุรกิจน้ำมันมีการแข่งขันการมากขึ้น ซึ่งกระบวนการทาง SPRC จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประมาณกลางปีหน้า และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถือหุ้น 36% และอีก 64% ให้บริษัทเชฟร่อนเจ้าของ SPRC เป็นผู้ถือหุ้น" นายอารีพงศ์ กล่าว