หุ้นไอพีโอร้อนแซงพื้นฐาน-แนะรอจังหวะซื้อ

หุ้นไอพีโอร้อนแซงพื้นฐาน-แนะรอจังหวะซื้อ

ศรีสวัสดิ์ครองแชมป์หุ้นไอพีโอร้อนแรง ทะลุ 110.14% พบหลายหลักทรัพย์ราคาหุ้นวิ่งเกินพื้นฐาน โบรกมองตลาดหุ้นซบหนุนหุ้นไอพีโอ

แม้ภาวะตลาดหุ้นจะผันผวน แต่หุ้นน้องใหม่ยังเข้าทำการซื้อขายต่อเนื่อง ซึ่งหลายตัวปรับขึ้นร้อนแรงเกินคาด และจากการสำรวจหุ้นที่เข้าทำการซื้อขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 30 พ.ค. พบว่า มี หุ้น 3 บริษัท จาก 9 บริษัท ปรับขึ้นมากสุด โดยหุ้นบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 เพิ่มขึ้นสูงสุดจากราคาจองซื้อ 6.90 บาทต่อหุ้น มาอยู่ที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 110.14 % อันดับ 2 บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จองซื้อ 13.00 บาท มาอยู่ที่ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 85.38% และอันดับ 3 หุ้นบริษัท สุธากัญ จองซื้อ 3.70 บาท ปัจจุบันอยู่ที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 67.57%

จากการสำรวจบทวิเคราะห์ มูลค่าพื้นฐานของหุ้นพบว่า 2 ใน 3 อันดับแรก ราคาหุ้นสูงกว่าราคาที่เหมาะสม โดยบริษัท สุธากัญ บล.เอเซียพลัส ให้ราคาเหมาะสมที่ 4.80 บาท บล.ฟินันเซีย ไซรัส 4.70 บาท บล.เคเคเทรด 4.44 บาทต่อหุ้น และราคาหุ้นของอิชิตัน บล.กรุงศรี ประเมินราคาพื้นฐานที่ 17.00 บาท บล.ซีไอเอ็มบี 22 บาท บล.ทิสโก้ 19.80 บาท มีบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ เพียงรายเดียวที่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเหมาะสม โดยบล.เอเซียพลัสประเมินไว้ 16.80 บาทต่อหุ้น

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้นไอพีโอร้อนแรงช่วงที่ผ่านมา เพราะตลาดหุ้นไม่เอื้อกับการลงทุน ทำให้หุ้นไอพีโอที่ถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ได้รับความสนใจ

หากหุ้นไอพีโอตัวไหนมีพื้นฐานบริษัทดี มีกำไรต่อเนื่อง ภาพลักษณ์ผู้บริหารดี ทำประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในหุ้นนั้นๆ รวมไปถึงกลยุทธ์การลดราคาหุ้นให้กับผู้จองซื้อ เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุน จากการสังเกตจะพบว่ายิ่งเป็นหุ้นที่มีขนาดเล็กจะปรับตัวขึ้นดีกว่า เพราะราคาจะตอบสนองกับแรงซื้อได้เร็ว จนหุ้นบางตัวราคาหุ้นไปเกินมูลค่าพื้นฐานหลายเท่า แต่ท้ายที่สุดราคาหุ้นจะกลับมาสู่พื้นฐานระดับเดียวกับหุ้นตัวอื่นๆ ในอุตสาหกรรม

การลงทุนหุ้นไอพีโอยังลงทุนได้ หากหุ้นมีพื้นฐานดี มีราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ไม่สูงนัก ในระยะต่อไปมองว่า หุ้นไอพีโอจะน่าสนใจน้อยลง เพราะตลาดหุ้นเริ่มผ่อนคลาย ทางเลือกการลงทุนมีเยอะขึ้น ซึ่งนักลงทุนควรเลือกหุ้นไอพีโอที่อยู่ในกลุ่มที่จะเติบโตได้ดี ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หรือกลุ่มค้าปลีก

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กระแสหุ้นไอพีโอ ได้รับการตอบรับดี แม้ตลาดหุ้นจะซบเซา ปัจจัยหลักมาจากพื้นฐานของหุ้นแข็งแกร่ง และไม่อยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัว ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน