"ShopSpot" ช้อปสนุกบนมือถือ

"ShopSpot" ช้อปสนุกบนมือถือ

ShopSpot ประสบการณ์ช้อปสนุกบนมือถือ ที่เปิดโอกาสให้พ่อค้าและขาช้อป ได้มามีหน้าร้าน สื่อสาร พูดคุย ซื้อขายสินค้ากันได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา

ผู้คนมากมายเลือกขายสินค้าผ่าน Social Network อาทิ Facebook หรือ Instagram เพราะเป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่ช่วยให้ขายสินค้าและสื่อสารกันได้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

แต่จุดอ่อนของเครื่องมือเหล่านี้ คือ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็น Mobile Shopping Platform โดยเฉพาะ เรียกว่าหน้าที่ของพวกมันไม่ได้มีไว้เพื่อการซื้อขาย จึงไม่ตอบโจทย์การค้าขายบนมือถือได้อย่างเต็มร้อย

นี่คือที่มาของ “ShopSpot” แอพพลิเคชั่นสำหรับเปิดหน้าร้านขายสินค้าบนสมาร์ทโฟน ที่เน้นประสบการณ์บนมือถือเป็นหลัก โดยฟีเจอร์ต่างๆ ที่สร้างขึ้น มีเป้าหมายก็เพื่อ ช่วยให้ร้านค้า และผู้ซื้อ ได้พบปะ พูดคุย ซื้อขายสินค้ากันได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดเพียงแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น

“ShopSpot สร้างมาเพื่อการซื้อขายบนมือถือโดยเฉพาะ ไม่เหมือน Facebook หรือ Instagram ที่ในระยะยาวไม่เหมาะกับการซื้อขาย ซึ่งปัจจุบันเรามีผู้ใช้รวมแล้วหลักแสนราย มีผู้ค้าอยู่ประมาณหมื่นราย ยอดการใช้เติบโตทุกเดือน เดือนละ 10-20%”

“ปอ-นัฏฐ์สกล เกียรติสุรนนท์” CEO ShopSpot วัย 28 ปี บอกความน่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นกับแอพพลิเคชั่นเพื่อการชอปปิง "ShopSpot" ธุรกิจจากการรวมตัวกันของเหล่าเพื่อนสมัยมัธยมและมหาวิทยาลัย โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้รางวัลรองชนะเลิศจากโครงการ AIS Startup Weekend ก่อนเข้าร่วมโครงการบูตแคมป์ของ JFDI (Joyful Frog Digital Incubator) ที่ประเทศสิงคโปร์ และใช้เวลาเพียง 100 วัน ตามโจทย์ของการแข่งขัน สามารถสร้างธุรกิจสตาร์ตอัพและโพรดักส์ที่ใช้งานจริงขึ้นมาได้

“เราทำงานกันค่อนข้างเร็วมาก โดยสามารถออกโพรดักส์มาได้ก่อนคนอื่น คือแค่ประมาณเดือนแรกก็ออกเวอร์ชั่นหนึ่งมาได้แล้ว และยังคงพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ”

ความสำเร็จของแอพที่รู้ใจทั้งคนซื้อและคนขาย บนการรับรู้ที่ใครหลายคนนิยามว่า ‘ความง่าย และสะดวกในการชอปปิงบนมือถือ’ มีส่วนผสมของความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคนี้ ทำให้ธุรกิจเล็กๆ "เข้าตา" นักลงทุน จนสามารถระดมทุนได้ถึงประมาณ 20 ล้านบาท จาก SingTel Innov8 บริษัทในเครือ SingTel และ Jungle Ventures ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลสิงคโปร์ ตลอดจนทุนสนับสนุนจากนักลงทุนคนไทย จนสามารถเปิดตัวธุรกิจคูลๆ ขึ้นได้ที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคม ปี พ.ศ.2555 ที่ผ่านมา

“ทุนที่ได้รับ เป็นทั้งรางวัลและเงินทุน จากนักลงทุนที่สนใจในโพรดักส์ของพวกเรา ส่วนหนึ่งเพราะเรามีทีมที่แข็งแกร่ง มีประสบการณ์ทำงานร่วมกันมานาน ตลอดจนจุดเด่นของตัวแอพ ที่เขามองว่าสามารถทำตลาดได้ทั่วเอเชีย”

เขาบอกโอกาสของธุรกิจน้องใหม่ ที่ยังมีช่องทางเติบโตอีกมหาศาลในอนาคต นักลงทุนเลยยินดีให้ทุนสนับสนุนแก่พวกเขา และการสนับสนุนจากนักลงทุน ไม่ได้มีแค่ “เงิน” เท่านั้น ทว่ายังรวมถึง "เครือข่าย" ตลอดจน "ที่ปรึกษา" ที่ดี มาช่วยปิดจุดอ่อนคนด้อยประสบการณ์ให้สามารถตั้งไข่ธุรกิจขึ้นมาได้

ขณะที่โจทย์สำคัญของพวกเขา และดูจะเป็นพันธสัญญาที่มีต่อนักลงทุน คือ การคิดวิธี “หาเงิน” กลับสู่ธุรกิจ

“ตอนนี้การใช้งานเรายังฟรีอยู่ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่ต้องเสียอะไร มาขายได้ฟรี เพื่อให้มีคนเข้ามาใช้งานกันเยอะๆ แต่ในอนาคตจะค่อยๆ หาวิธีเก็บเงิน อย่างการที่ให้คนมาโพสต์ขายฟรี แต่หากเกิดการซื้อขายขึ้น ก็จะเก็บค่าคอมมิสชั่นจากการซื้อขายที่เกิดขึ้นนั้น หากขายไม่ได้ก็ไม่เก็บ เขาจึงไม่มีความเสี่ยงอะไร ขณะที่คนซื้อก็ไม่ต้องเสียอะไรทั้งสิ้น”

นั่นคืออนาคตสร้างดอกผลให้กับธุรกิจของพวกเขา ก่อนบอกว่า ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อสินค้าใน ShopSpot ใช้จ่ายอยู่ ประมาณ 500-1,000 บาท ต่อครั้ง โดยการจ่ายเงินยังใช้ระบบโอนเงินผ่านธนาคารเป็นหลัก ซึ่งในอนาคตก็จะทำให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น อาทิ สามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้ จึงจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที

"นัฏฐ์สกล" สะท้อนความเชื่อมั่นว่า การชอปปิงออนไลน์ผ่านมือถือยังมีอนาคต จากจำนวนผู้ใช้มือถือที่เติบโตขึ้นเท่าทวี ขณะที่การช้อปปิ้งออนไลน์ก็เติบโตขึ้นมาก จนพร้อมที่จะเป็นธุรกิจ "จริง" ได้ ไม่เพียงแค่ในไทยหรือสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน

โอกาสสยายปีกธุรกิจของพวกเขาไปยังน่านน้ำใหม่ๆ อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม เหล่านี้ต่อไปในอนาคต

“การออกไปต่างประเทศของ ShopSpot มีความยากพอสมควร เพราะว่าสินค้า หรือบริการในแต่ละประเทศ ตลอดจนความต้องการของผู้ใช้งานไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ของที่ขายดีในไทยอาจจะขายไม่ดีที่สิงคโปร์ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องทำความเข้าใจผู้ใช้งานในแต่ละประเทศให้ดีเสียก่อน แล้วก็หาร้านค้ามาร่วมกับเรา เรียกว่า ต้องค่อยๆ ศึกษาไป จนแน่ใจว่าพร้อม ก็ค่อยขยายไปยังประเทศนั้น”

ถามถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ พลพรรค ShopSpot บอกเราแค่ว่า..อยากให้เมื่อนึกถึงการชอปปิงบนมือถือ คนจะนึกถึง “ShopSpot” เช่นเดียวกับหากอยากค้นหาข้อมูลออนไลน์ ก็นึกถึง google เหงาๆ ก็เข้า Facebook

แม้ยังเป็นคนหนุ่ม และยังใหม่ในเวทีธุรกิจ แต่ “นัฏฐ์สกล” ก็ถ่ายทอดความมุ่งมั่นของเขาได้อย่างฉะฉาน คนหนุ่มบอกเราว่า เขาฝันอยากเป็นผู้ประกอบการมาตั้งแต่อายุเพียง 22 ปี และไม่ได้ทำแค่นั่งฝันไปวันๆ แต่เลือกตั้งบริษัท Startup ของตัวเองขึ้นมา ร่วมกับเพื่อนๆ ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากสร้างเว็บไซต์สำหรับการชอปปิง ที่มีความเป็นโซเชียลอยู่ในตัว แล้วรับงานนอก เพื่อหาเลี้ยงบริษัทและความฝันของตัวเองไปด้วย

“เรียนจบมาก็เริ่มทำเลย ผมไม่กลัว ตอนนั้นมีแรงบันดาลใจจาก ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ เขาเรียนอยู่ พอมีความฝันอยากจะทำ เขาลุยเลย ก็คิดว่า แล้วทำไมเราถึงทำอย่างนั้นบ้างไม่ได้ เลยคุยกับเพื่อนๆ แล้วรวบรวมทีมกันขึ้นมา ลองลุยกันดูสักตั้ง”

เขาบอกว่า การทำธุรกิจมีบ้างที่จะเจอกับปัญหา แต่ข้อดีของการทำธุรกิจ Startup หรือ Tech Startup คือ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เยอะมาก และความเป็นเด็กก็ไม่ได้ทำให้เสียเปรียบใคร แต่ทว่าต้องเรียนรู้เร็ว และใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ เพราะองค์ความรู้ การจัดการธุรกิจค่อนข้างใหม่สำหรับพวกเขา และแม้จะมีประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทใหญ่ๆ มาบ้าง ก็อาจประยุกต์เข้ากับการทำงานใน Startup ไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ต้องค่อยๆ เรียนรู้

ส่วนใครที่อยากเลือกวิถี Startup ตอบสนองความฝันลึกๆ ของตัวเอง ทั้งอยากเป็นธุรกิจที่ดีเข้าตานักลงทุน คนหนุ่มบอกเราว่า สูตรสำเร็จของคนที่จะได้รับการสนับสนุน คือ ต้องมีทีมที่แข็งแกร่ง เพราะการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่จะมองที่บุคลากรเป็นหลัก เนื่องจากธุรกิจ Startup มีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นการมี "ทีมที่ดี" จึงเป็นจุกเริ่มต้นที่เยี่ยมยอด ส่วนโพรดักส์ที่จะพัฒนาออกมา ก็ต้องทำในสิ่งที่ตอบโจทย์ตลาด ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลาย และมีโอกาสเติบโตสูง

ขณะที่ตัวคนทำเองก็ต้อง "อดทนสูง" เพราะตลอดการทำงานย่อมเจออุปสรรคมากมายเป็นธรรมดา ผู้ประกอบการจึงต้องพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะการออกแบบสินค้าชิ้นหนึ่ง ต้องอาศัยการพัฒนาไปเรื่อยๆ ผ่านการเรียนรู้จากการใช้งานของผู้ใช้ ที่สำคัญคือต้อง "ไม่ยอมแพ้" เพราะเราอาจทำงานไป 900 วัน โดยที่ความสำเร็จอาจอยู่ในวันที่ 901 ก็เป็นได้..ใครจะรู้

“ผมไม่กลัว เพราะมีคติประจำใจว่า..ถ้าไม่ล้มเลิก ก็ไม่ล้มเหลว”

เขาให้บทสรุปในฐานะหนึ่งธุรกิจ Startup ของเด็กไทย ที่จะไม่ล้มเลิก จนกว่าจะทำมันได้สำเร็จ

....................................

Key to success

โอกาสธุรกิจ “ShopSpot”

๐ ตอบโจทย์การซื้อขายบนมือถือโดยเฉพาะ

๐ เน้นประสบการณ์บนมือถือระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

๐ ใช้งานง่าย สะดวกในการชอปปิง

๐ โพรดักส์ดี ทีมงานแข็งแกร่ง เข้าตานักลงทุน

๐ มีโอกาสในตลาดต่างประเทศ

๐ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด

๐ เชื่อว่า..ถ้าไม่ล้มเลิก ก็ไม่ล้มเหลว