เชฟโรเลต โคโลราโด แรงดี ขับสบาย

เชฟโรเลต โคโลราโด  แรงดี ขับสบาย

กลายเป็นจุดขายหลักไปแล้วสำหรับตลาดปิกอัพบ้านเรา นั่นก็คือ ใหญ่ แรง ถึงขนาดที่ว่ากันว่าก่อนหน้านี้บางค่ายวางแผนเปิดตัวรุ่นใหม่

ยังต้องพับเก็บแผนชั่วคราว เพื่อกลับไปปรับปรุงใหม่ เพราะตลาดต้นแบบที่มีอยู่ กับรถที่ขายในตลาดปัจจุบัน มันคนละเรื่องกัน ปิกอัพเดี๋ยวนี้ ใหญ่โตทำเอาผมยังงุนงงไม่หายว่า เขาทำให้ผ่านกฎเกณฑ์เรื่องน้ำหนักตัว 1.6 ตัน ได้อย่างไร


ปีนี้ คาดว่าตลาดปิกอัพจะแข่งกันอย่างดุเดือด ส่วนหนึ่งเพราะตลาดจะเล็กลง จากผลกระทบหลายอย่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อย่างโครงการรถคันแรก และเกิดขึ้นในช่วงนี้ คือ เศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนพุ่ง การเมืองอึมครึม
และจะยังมีรถใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวอีกหลายรุ่น ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ค่ายที่ทำตลาดด้วยรุ่นเดิม ก็จะต้องมีการปรับตัวรับการแข่งขันที่ว่า

ในส่วนของค่ายเชฟโรเลต ก็เปิดแนวรบใหม่ช่วงปลายปีที่แล้ว ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้น แรงขึ้น ทั้งแรงบิดแรงม้า โดยเฉพาะรุ่น 2.8 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และ แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

เชฟโรเลต นั้น บอกว่า การพัฒนาเครื่องยนต์เพราะว่าสำรวจความต้องการของผู้บริโภคในหลายๆ ประเทศแล้ว พบว่ามีความต้องการเครื่องที่ให้สมรรถนะที่ดีขึ้น โดยเฉพาะแรงบิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฉุดลาก ส่วนแรงบิดนั้นถือเป็นผลพลอยได้

แต่ว่าดูๆแล้ว ในบ้านเราดูเหมือนลูกค้าจะตื่นเต้นกับตัวเลขแรงบิดมากกว่าแรงม้า

เมื่อเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ เชฟโรเลตก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวรถบ้าง ให้มีความสดใหม่มากขึ้น แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

พูดถึงปิกอัพในบ้านเรา แต่ละค่ายก็ดูจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในส่วนของเชฟโรเลต ก็มีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบ ดูอัล พอร์ท สัญลักษณ์โบไทป์ และรูปทรงโดยรวมที่ออกแนวบึกบึน ดุ และเป็นผู้ใหญ่ มากกว่าวัยรุ่นจอมซ่า

ในส่วนของ ซี-แค็บ หรือ รุ่น 4 ประตู ที่อยู่ในมือผมครั้งนี้ ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายหายห่วง นั่ง 5 คน ยังสบาย ไม่เบียด

ภายในดูหรูหรา ตามสมัยนิยมของรถปิกอัพในปัจจุบัน พร้อมกับเพิ่มลูกเล่นใหม่เข้าไปก็คือ มาย ลิงค์ พร้อมกับจอแบบสัมผัส เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และมีฟังก์ชันเชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ และระบบนำทางหรือเนวิเกเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ออนบอร์ด รายงานผลการขับขี่ และรายละเอียดการขับขี่ เช่น ระยะทางที่ยังสามารถวิ่งได้กับน้ำมันที่เหลือในถัง ความเร็วเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย รวมไปถึงกราฟแท่งอัตราสิ้นเปลืองในระยะ 50 กิโลเมตร ที่ผ่านมา เป็นลูกเล่นให้นึกดูว่าทำไมแต่ละช่วงอัตราสิ้นเปลืองมันถึงเหมือน หรือแตกต่างกัน

เกียร์อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้ง 2H 4H และ 4L เลือกเปลี่ยนได้ง่ายด้วยการหมุนปุ่มที่อยู่ใกล้ๆ คันเกียร์ แต่ว่าการขับของผมครั้งนี้ ใช้แค่ 2H ครับ เพราะยังไม่มีเส้นทางที่ถึงกับต้องรบกวนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แม้บางช่วงจะเป็นทางดิน ทางวิบาก แต่ระดับ 500 นิวตันเมตร ก็ไปได้สบายๆ กับขับ 2กำลังของเครื่องยนต์เหลือเฟือครับ ทั้งเส้นทางนอกถนน หรือว่าบนทางราบ ที่สามารถไล่ความเร็วขึ้นไป 150 ได้ไม่ยากเย็น

แต่คันเร่งค่อนข้างตอบสนองช้าเล็กน้อย และมีน้ำหนักพอควร ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ก็ดีไปอย่างครับ แรงบิดขนาด 500 นิวตันเมตร ถ้าคันเร่งเบาๆ ใครเผลอไผลกดแรงๆ ท้ายดิ้นเอาได้ง่ายๆ

แม้จะเป็นรุ่น 4 ประตู ซึ่งเชื่อกันว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อไปใช้เหมือนรถเก๋ง คือเน้นบรรทุกคน ไม่เน้นบรรทุกของ แต่เชฟโรเลต ก็ตั้งช่วงล่างมาค่อนข้างแข็ง เจอทางไม่เรียบ เป็นคลื่นก็กระโดดกระเด้งกันบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นที่คนโดยสารจะบ่นกล่าวแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เด่นก็คือ การเกาะถนนที่ทำออกมาได้ดี ความนิ่งในเส้นทางตรงที่ความเร็วสูง และการนำตัวรถไปในเส้นทางที่ควรจะไปในทางโค้ง ทำได้น่าพอใจ และช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจมากขึ้น

พวงมาลัยมีน้ำหนักพอควร ใช้งานทางไกลได้ดี ช่วยให้มีความมั่นคง และคนขับเหงื่อไม่ออกมือ เพราะต้องเกร็งตลอดทาง จะหลวมๆ สบายๆ

แต่ที่ความเร็วต่ำ ถือว่ามีน้ำหนักพอควร ต้องออกแรงสาวกันสักหน่อย แต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้ว ถือว่าใช้ได้ครับ

ผมขับ โคโลราโด 2.8 แอลทีแซด รวมๆ แล้วกว่า 500 กิโลเมตร ทั้งในเมือง นอกเมือง สิ่งที่รับรู้ได้นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่แล้ว ก็คือ ความรู้สึกในการนั่งที่ค่อนข้างสบาย คงเป็นผลมาจากทั้งเรื่องของเบาะ ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ และมุมมอง ทัศนวิสัยของรถที่ได้ทั้งความสูง และมุมที่เปิดโล่งทั้งหน้า ข้าง หรือว่าด้านหลังครับ