เศรษฐกิจนิวซีแลนด์โตแซงหน้าทั่วโลก

เศรษฐกิจนิวซีแลนด์โตแซงหน้าทั่วโลก

"โออีซีดี"เผยเศรษฐกิจนิวซีแลนด์โตแซงหน้าทั่วโลก มีเศรษฐกิจขยายตัว 3.5% มากกว่าประเทศพัฒนาแล้วแห่งอื่น ๆ

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาหรือโออีซีดีระบุว่า ไตรมาสสามของปี 2556 นิวซีแลนด์ซึ่งมีประชากรราว 4.5 ล้านคน มีเศรษฐกิจขยายตัว 3.5% มากกว่าประเทศพัฒนาแล้วแห่งอื่น ๆ รวมทั้งเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลีย

โออีซีดีคาดว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจนิวซีแลนด์จะเติบโต 3.3% เทียบกับสหรัฐที่ถูกประเมินว่าน่าจะเติบโต 2.9% และยูโรโซนที่น่าจะโตเพียง 1%

ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์มีทั้งอุตสาหกรรมนมที่ป้อนตลาดส่วนใหญ่ของเอเชีย และธุรกิจการก่อสร้างที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้แรงหนุนจากความจำเป็นในการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้งเมื่อเกือบสี่ปีก่อน

จากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างดีของนิวซีแลนด์ นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนนี้ ทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศแรกที่ใช้นโยบายการเงินตึงตัวขึ้นหลังจากที่บริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายในปี 2551 จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์มีโคนม 6.6 ล้านตัวและแกะ 30.9 ล้านตัว มากกว่าประชากรของประเทศ การที่ผู้บริโภคชาวเอเชียหันมาสนใจอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจออสเตรเลียกำลังซบเซา เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตของจีนเริ่มอ่อนแรง

นิวซีแลนด์ได้ฉายา "ซาอุดีอาระเบียแห่งน้ำนม" เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกนมอันดับ 3 ของโลก นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังได้ประโยชน์จากราคาผลิตภัณฑ์นมที่สูงขึ้น 48% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการค้าของนิวซีแลนด์สูงสุดในรอบ 40 ปี

ขณะเดียวกันการฟื้นฟูเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศอย่าง "ไครส์เชิร์ช" มูลค่ากว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2554 ก่อให้เกิดกิจกรรมภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจก็แตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ขณะที่จำนวนผู้อพยพเข้าเมืองและการจ้างงานก็เพิ่มมากขึ้น