'ทศ จิราธิวัฒน์'ความท้าทายบทใหม่'โค้ชชิ่ง'

'ทศ จิราธิวัฒน์'ความท้าทายบทใหม่'โค้ชชิ่ง'

'ทศ จิราธิวัฒน์'ผ่านบทพิสูจน์ความสำเร็จนำเซ็นทรัล รีเทลฯประกาศศักดาในยุโรปติดท็อป5ห้างระดับโลก โจทย์ท้าทายบทใหม่'โค้ชชิ่ง'คือข้อสอบรอบไฟนอล

อีเมลเปิดผนึกแจ้งข่าวจากเครือเซ็นทรัล ถึงการปรับทัพทีมบริหารครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้รับรู้อย่างเป็นทางการทั่วกันว่า "ทศ จิราธิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRC) คือทายาทผู้ถูกเลือกให้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวขบวนผู้บริหาร นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด แทน สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ซึ่งเกษียณอายุในปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา

ไม่น่ากังขากับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำในครั้งนี้ เมื่อผลงานของเขาเป็นที่ปรากฏ ถึงวิวัฒนาการของเซ็นทรัล รีเทลฯ ในการสยายปีกธุรกิจจากเมืองหลวง ออกไปยึดหัวหาดภูธร

โดดเด่นที่สุดคือการสร้างประวัติศาสตร์ค้าปลีกคนไทย บินไปซื้อกิจการห้างหรูในยุโรปใน 2 เมืองใหญ่ คือ ห้าง ลา รีนาเซนเต ห้างเก่าแก่อายุ 150 ปี กลางเมืองแฟชั่นโลกมิลาน อิตาลี ด้วยมูลค่าเงิน 260 ล้านเหรียญยูโร (ราว 10,000 ล้านบาท) ต่อด้วยการซื้อกิจการห้างอิลลุม ในเดนมาร์ก เก่าแก่อายุเกินกว่า 120 ปี

ทำให้ชื่อของเซ็นทรัลเข้าไปติด "ท็อป 5" ห้างค้าปลีกโลก

บริบทสำคัญยิ่งยวด ต่อชื่อชั้นค้าปลีกคนไทยข้ามฟากจากเอเชีย ไปเปล่งรัศมีเป็นหนึ่ง "บิ๊กเพลย์เยอร์" บนรันเวย์โลก กุมเครือข่ายซัพพลายเออร์สินค้าแบรนด์เนม หนึ่งหมากสร้างยอดขายให้เซ็นทรัลรีเทลฯในยุโรปให้เติบโตก้าวกระโดด "เท่าตัว" ในอีก 4 ปีจากนี้

นอกจากนี้ ยังมีแผนรุกตลาดอาเซียน อย่างจริงจิง ด้วยการเตรียมเปิดตัวห้างเซ็นทรัลในเวียดนาม และอินโดนีเซีย
ก้าวย่างสำคัญที่ทำให้เซ็นทรัลรีเทลฯ เติบโต 20% ในปีที่ผ่านมา สวนกระแสกำลังซื้อซบเซา ยังเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญของทศ

ทว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 49 กะรัต แตะเส้นชัยในวงการห้างสรรพสินค้า (Department store industry) ทำให้เขากลับมาคิดใคร่ครวญต่อไปว่า

เมื่อธุรกิจค้าปลีกบินสูงติดลมบน ความท้าทาย "บทใหม่" ของเขาคืออะไร ??

“ผมตั้งใจมาทำงานค้าปลีกตั้งแต่เรียนจบ ทำงานอย่างตั้งใจพร้อมกำหนดทิศทางที่จะเดินไป (Direction) ให้ถึงเส้นชัย (Achieve) ก็ต้องมาถามตัวเองว่าแล้วไงต่อ” ทศ เล่า

อาจจะดูเร็วไปถ้าหนุ่มใหญ่จะชิงเกษียณตัวเอง เพียงเพราะเริ่มอิ่มกับความสำเร็จในธุรกิจค้าปลีก ในเมื่อสุขภาพยัง "ฟิต แอนด์ เฟิร์ม"

ก่อนอีเมลโปรโมทตำแหน่งจะร่อนไปยังหลายสำนักข่าว ทศเคยเปรยไว้ว่า “ผู้ใหญ่ในครอบครัวมอบหมายโจทย์ใหม่มาให้อีก หากทุกคนอยากให้ทำต่อไปก็ต้องทำต่อไป” ทศ ทายาทรุ่น 3 ทิ้งปริศนาไว้แค่นั้น ก่อนจะมาเฉลยจากอีเมลที่ได้รับ

เขายังบอกว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความเป็นซีอีโอ ตามศาสตร์การบริหารองค์กรคือการ "โค้ชชิ่ง" หรือแนะแนวความคิด ชี้นำเส้นทางสู่ความสำเร็จให้กับบรรดาผู้บริหารรุ่นถัดไป "ปลุกพลัง" ให้เขาสร้างโมเดลล่าชัยชนะแบบเดียวกับที่เขาเดินไปถึงใน 14 BU (หน่วยธุรกิจ) ในซีอาร์ซี ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ,ลา รีนาเซนเต,อิลลุม,โรบินสัน ,เซน ,ท็อป ,พาวเวอร์บาย ,เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ,ซูเปอร์สปอร์ต,ไทวัสดุ,โฮมเวิร์ค ,เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่, ออฟฟิศเมท และแฟมมิลี่มาร์ท โดยในแต่ละ BU

“ดีที่สุดคือให้ซีอีโอในแต่ละ BU บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเราจะได้ไม่ต้องทำอะไร” ทศเล่าแบบติดตลก เพราะรู้ว่าเมื่อแผนงานของเขาบรรลุเป้าหมาย จะมีงานใหญ่รออยู่ นั่นคือการนำอีก 4 กลุ่มธุรกิจในเครือ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ซีพีเอ็น) , กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (ซีเอ็มจี) , กลุ่มธุรกิจโรงแรม (ซีเอชอาร์) และกลุ่มธุรกิจอาหาร (ซีอาร์จี) ไปปักธงบุกตลาดโลก

ภารกิจของเขาคือโค้ชชิ่งผู้นำเพื่อไล่ล่าประตูชัยในเวทีโลก เพราะทศเพียงคนเดียวคงไม่สามารถพาทั้งเครือแตะเส้นชัยได้พร้อมกัน

ทศ เล่าว่า ตัวเขามี "อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นต้นแบบ เจ้าของผลงานยอดเยี่ยมและเกียรติประวัติผู้จัดการทีมผู้นำทีมคว้าแชมป์สูงสุด พรีเมียร์เลีก 12 สมัย แชมป์เปี้ยนลีก 2 สมัย และเอฟเอคัพอีก 5 สมัย ศาสตร์อันน่าทึ่งของการกระตุ้นลูกทีมให้ระเบิดฟอร์มการเล่นอย่างเต็มเหนี่ยวในสนาม

มิติความสำเร็จคือการสร้างผู้นำ ผู้เล่นที่เก่งกาจ ฝีมือปราดเปรื่องกุมขบวน BU ของตัวเองให้อยู่หมัด

“อยากเป็นโค้ชชิ่ง (Coaching) ในรุ่นต่อๆไป เหมือน อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ไม่ใช่เพียงเป็นผู้เล่น (Player) ลงเตะในสนามด้วยตัวเอง แต่จะต้องเป็นโค้ชที่ดี เพราะต่อไปธุรกิจที่กว้างใหญ่ทั้งในอาเซียน อย่างเวียดนาม และอิตาลี รวมถึงเดนมาร์ค ที่บริหารงานทั้งหมดไม่ได้อยู่แค่เพียงซีอีโอสูงสุดเพียงคนเดียวที่ต้องลงลึกไปเล่นเอง บริหารเองทั้งหมดคงไม่ไหว จึงต้องทำหน้าที่เป็นโค้ช” ทศ บอกถึงจุดสูงสุดของยอดซีอีโอ

สูตรความสำเร็จที่ทศ ลากเส้นทางความคิดฉบับทายาทเซ็นทรัล ถูกปลูกฝังมา 3 กลไกไขประตูสู่ความสำเร็จ คือ แรงปรารถนา (passion) ,เสพติดงาน (work addict) และวัฒนธรรมเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ (New Culture)

เริ่มต้นจากภายในคือ "แรงปรารถนา" ที่ทศเรียกว่า passion ทุกอณูในตัวเขาจะเต็มไปได้พลังกาย และพลังใจของคนค้าปลีก สิ่งพิเศษเฉพาะของตระกูลที่ส่งมอบให้ทายาทรุ่นที่ 3 รวมถึงทศ ไม่ว่าใครจะไปเรียนต่างประเทศหรือที่ไหนก็แล้วแต่ หลังจบก็กลับมาช่วยขับเคลื่อนกิจการของครอบครัวที่ ณ ขณะนี้องค์กรมีอายุกว่า 6 ทศวรรษ (66 ปี)

ทศยังเล่าความทรงจำในวัยเยาว์ว่า คลุกคลีกับธุรกิจมาตั้งแต่สมัยเรียนจบ แต่ขณะนี้ยังคงสนุกกับงาน เคล็ดลับอยู่ที่การปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็กทุกปิดเทอมตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขาจะถูกส่งเข้ามาเป็นพนักงานรายวันของห้างเซ็นทรัล เข้า-ออกงาน กินข้าวแบบเดียวกันกับพนักงานทั่วไป รวมไปถึงยืนต่อแถวรับเงินรายวันไม่ต่างจากพนักงานคนหนึ่ง

“ผมและพี่น้องมี Passion ในการทำงานในธุรกิจเยอะมาก เพราะถูก Built in มาตั้งแต่เด็กไปเรียนที่ไหนก็ตามไม่รู้ แต่เมื่อจบมาทุกคนต้องมาทำเหมือนกันหมด ในเมื่อเรารู้สึกสนุกกับมันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็จะไม่มีวันเบื่อ”
ว่ากันว่าซีอีโอทศ ฉายความเป็นดาวรุ่งคนค้าปลีกตั้งแต่สมัยแข่งกันทำยอดกับพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกันที่มาฝึกงาน ปรากฏว่า หลายครั้งที่เขาทำยอดได้สูงสุดเกินหน้าเกินตาญาติพี่น้อง

หัวใจสำคัญต่อมาคือ "ชีวิตคืองาน" แบบเสพติดงาน (work addict) ชนิดที่เรียกได้ว่าถ้าไม่มีงาน ชีวิตเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง เพราะจดจำได้เสมอถึงเบื้องหลังความสำเร็จของเครือเซ็นทรัล ที่เกิดขึ้นได้จากการสู้งานหนัก แต่ก็ต้องสนุกกับงาน

หัวใจสำคัญตัวสุดท้าย อยู่ที่การสร้างวัฒนธรรมที่จะไม่หยุดยั้งการพัฒนา เสาะแสวงหาสิ่งใหม่ตลอดเวลา "ไม่หยุดนิ่ง กล้าเปลี่ยนแปลง"

“ทำค้าปลีกจะเชยไม่ได้ จึงต้องเฟรชตัวเองตลอดเวลาไม่ให้ดูแก่" ทศบอกถึงกุญแจความสำเร็จที่สำคัญของห้าง ที่จะต้องเป็น "ผู้นำเทรนด์" อยู่ตลอด

เราจึงเห็นห้างในเครือเซ็นทรัลนับสิบปีก็ไม่เคยเอ้าท์ หรือเก่าแก่ตามอายุโครงสร้างตึก มีการรีโนเวทตกแต่ง ปรับโฉมใหม่ตลอด ใครจะเชื่อว่าเซ็นทรัล ลาดพร้าวเปิดมากว่า 32 ปี (ตั้งแต่ปี 2525) หรือเซ็นทรัล เซ็นทรัลชิดลม เปิดมา 40 ปี ( ปี 2517) เพราะภายใน และนอกตึก ดีไซน์ตกแต่งให้ทันสมัย

แบบไม่ยอมแก่ตามอายุ !!

แนวคิดเช่นนี้ยังมีอิทธิพลมาถึงห้างเก่าแก่นับร้อยปีในยุโรป ที่เซ็นทรัลไปซื้อมาทั้ง ลา รีนาเซนเต อายุ 150 ปี ส่วน อิลลุม ก็ 120 ปี เซ็นทรัลซื้อพร้อมกับรีโนเวทปรับโฉมใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมาสำหรับ ลา รีนาเซนเต ส่วนอิลลุม จะทยอยเปิดปีละชั้นใน 4 ปีข้างหน้า เริ่มต้นจากชั้นแรกเปิดในปี 2557 พร้อมเผยโฉมเต็มรูปแบบในปี 2560