พระองค์หญิงจบที่ 10 บังคับม้า

ด้าน"น้องเพชร" วิภาวี ดีคาบาเลส โชว์ฟอร์มเฉียบปั่นคว้าทองเสือภูเขา ดาวน์ฮิลล์หญิง ขณะที่ทีมนักฟาดลูกพลาสติกหนุ่ม-สาว ประเดิมชัย "กมล ตันกิมหงษ์" สุดฉุนเปาอิเหนาตัดสินเอียง ยื่นประท้วงสำเร็จ หน.ผู้ตัดสินสั่งงดเป่าคู่ไทยอีก

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นักกีฬาไทยแยกย้ายกันทำศึกในแต่ละชนิดกีฬา กระทั่งทัพไทยได้เหรียญทองเพิ่มจาก "จักรยาน" ด้วยฝีเท้าของ "น้องเพชร" วิภาวี ดีคาบาเลส ที่ปั่นขึ้นแท่นเหรียญทอง เสือภูเขา ดาวน์ฮิลล์หญิง ด้านตะกร้อทีมเดี่ยวประเดิมชัยนัดแรกได้ทั้งชายและหญิง

ดาวน์ฮิลล์สาวปั่นผงาดทอง

จักรยาน ชิง 2 ทอง เสือภูเขา ดาวน์ฮิลล์หญิง ระยะทาง 1.5 กม. โดยรายการนี้มีนักปั่นสาวไทยลงแข่งขัน 2 คนคือ "น้องเพชร" วิภาวี ดีคาบาเลส และ สัตยานันท์ อัลดุลการี ปรากฏว่า วิภาวี ที่ออกสตาร์ตเป็นคนสุดท้าย ออกตัวจากแท่นสตาร์ทก่อนเร่งสปีดปั่นสองล้อคู่ใจ ทะยานเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก ด้วยเวลา 2.37.191 นาที หลังจากเบียดชนะ ริซ่า ซูเซียนตี้ คู่ปรับเก่าและแชมป์เก่าจากอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองมาครอง นับเป็นเหรียญทองที่ 2 ของทีมจักรยานไทย ส่วนเหรียญเงิน ริซ่า เวลา 2.38.707 นาที ขณะที่ สัตยานันท์ คว้าเหรียญทองแดง เวลา 2.42.635 นาที

ด้านเสือภูเขา ดาวน์ฮิลล์ชาย ระยะทาง 1.5 กม. ไทยส่งสองน่องเหล็กหนุ่ม สืบสกุล สุขจรรยา และ ขวัญชัย ถานกระโทก ลงสนาม ปรากฎว่า สืบสกุลคว้าเหรียญทองแดงให้ทัพไทยเพิ่ม ด้วยเวลา 2.24.125 นาที, เหรียญทอง ฮิลดัน อาฟอสมา จากอินโดนีเซีย 2.22.324 นาที และ เหรียญเงินปอร์โนโม่ ปอร์โนโม่ จากอินโดนีเซีย เวลา 2.22.999 นาที

รับอัดฉีดครึ่งล้านไว้เรียน

"น้องเพชร" วิภาวี กล่าวหลังการแข่งขันว่า สำหรับเหรียญทองที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะฝึกซ้อมมา 5 เดือนเต็ม ส่วนเงินรางวัลที่จะได้จาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 2 แสนบาท และจะได้รับจาก นายเอกชัย เศวตสมภพ ผู้จัดการทีม ที่ประกาศอัดฉีดเหรียญทอง จำนวน 3 แสนบาทนั้น จะนำไปมอบให้แม่ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นทุนการศึกษาและใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น

ด้าน "เสธ.หมึก" พล.ท.เดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยาน กล่าวว่า ก่อนการแข่งขัน สมาคมจักรยานได้ตั้งเป้าไว้ที่ 3 ทอง ตอนนี้ทำได้แล้ว 2 ทอง ยังเหลืออีก 1 เหรียญ ซึ่งมีลุ้นจากประเภทไทม์ไทรอัล บุคคลหญิงจาก จันทร์เพ็ง นนทะสิน นอกจากนี้ ยังมีลุ้นจากประเภทไทม์ไทรอัล บุคคลชาย ถ้าทำได้ทั้งสองทอง ถือว่าผลงานทะลุเป้า

ตะกร้อเดี่ยวหนุ่ม-สาวไม่พลาด

ตะกร้อ ทีมเดี่ยว รอบแรก ไทย ซึ่งอยู่สาย บี ร่วมกับ พม่า และ เวียดนาม เล่นนัดแรกกับเจ้าภาพ ไทยส่ง ศิริวัฒน์ สาขา, พรชัย เค้าแก้ว และ ภัทรพงศ์ ยุพดี โชว์ฟอร์มเอาชนะ 2-0 เซต 21-14, 21-8 โดยระหว่างเกม กรรมการปล่อยบอลชี้ให้ไทยเตะออกถึง 4 แต้ม ทำให้ นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อชายไทย ออกไปขอความเป็นธรรมหลายครั้ง ก่อนที่นักหวดลูกพลาสติกไทยจะช่วยกันเอาชนะได้ในที่สุด สำหรับเกมต่อไปไทยเจอเวียดนาม วันที่ 15 ธันวาคม ในช่วงเช้า และเล่นรอบรองชนะเลิศ บ่ายวันเดียวกัน ด้านตะกร้อ ทีมเดี่ยวหญิง สุนทรี รูปสูง, แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว, พยอม ศรีหงสา เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต 21-7, 21-8

หวายโวย-แบนเปาอิเหนา

นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อชายไทย กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในนัดนี้ หากไทยจะแพ้เจ้าภาพก็ไม่มีปัญหา แต่ขอให้แพ้เพราะฝีมือไม่ใช่การตัดสินแบบนี้ และยังโดนตั้งแต่ต้นเกม ส่งผลต่อเกมมาก โดยกรรมการชาวอินโดนีเซีย ที่ขานลูกออกของไทย เป็นกรรมการปล่อยบอล ไม่มีหน้าที่ชี้ขาดลูกลงหรือออก ซึ่งเราได้ส่งหนังสือประท้วงไปแล้ว และหัวหน้าผู้ตัดสินยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น และระบุว่าจะไม่ให้ผู้ตัดสินรายดังกล่าวทำหน้าที่ในเกมของไทยอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังประมาทไม่ได้เพราะในรอบชิงชนะเลิศ ไทยมีโอกาสเผชิญหน้ากับพม่าอีกครั้ง และอาจจะมีปัญหาอีกได้

แม่นปืนสาวไทยลั่นไกได้ที่ 4

ที่เมืองย่างกุ้ง ยิงปืน ชิง 2 ทอง จากปืนสั้นอัดลม 10 ม. ทีมหญิง และปืนสั้นอัดลม 10 ม. บุคคล ซึ่งทีมไทย ส่ง กนกกาญจน์ ไชยมงคล, ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์, ชัญญานุช กอบกุลธนชัย ลงแข่งขัน โดยรอบคัดเลือกมี 18 คน เอาอันดับ 1-8 เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย หรือรอบชิงชนะเลิศต่อไป ในประเภทบุคคล กนกกาญจน์ ยิงได้ 376 คะแนน เป็นอันดับ 2 ต่อจาก วาห์ เม โป ของเจ้าถิ่น ที่ยิงได้ 377 คะแนน ผ่านเข้ารอบตามคาด ส่วน ณภัสวรรณ ยิงได้ 368 คะแนน อันดับ 11 และ ชัญญานุช ยิงได้ 360 คะแนน อันดับ 16 ไม่ผ่านรอบคัดเลือกทั้งคู่ และเมื่อนำคะแนนทั้ง 3 คนมารวมกัน ยิงได้ 1,104 คะแนน ได้อันดับ 4 ทำให้พลาดเหรียญในประเภททีม โดยเหรียญทองเป็นของ เวียดนาม, เงิน มาเลเซีย และทองแดง สิงคโปร์

รอบชิงชนะเลิศประเภทบุคคล ปรากฏว่า กนกกาญจน์ ยิงได้ 154.2 คะแนน ติดอันดับ 4 พลาดเหรียญรางวัลอย่างน่าเสียดาย ส่วนเหรียญทอง เป็นของ เวียดนาม 195.6 คะแนน เหรียญเงิน อินโดนีเซีย 194.6 คะแนน และเหรียญทองแดง เวียดนาม 174.8 คะแนน ส่งผลให้ ยิงปืน วันที่ 4 ไทย ไม่มีเหรียญเพิ่ม โดยก่อนหน้า ทีมยิงปืนไทยคว้าไปได้แล้ว 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

พระองค์หญิงได้อันดับ 10

ส่วนการแข่งขันขี่ม้า กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม มีชิง 1 เหรียญทอง จากศิลปะการบังคับม้า ประเภทบุคคล พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฐานะนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ทรงม้าชื่อ เท-คัว ลงแข่งขัน หลังจากเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงบังคับม้า ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของไทย ผ่านเข้ารอบชิงเหรียญดังกล่าว และผลปรากฎว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงทำได้ 53.810 คะแนน ได้อันดับ 10

โดยเหรียญทองเป็นของ ปราวีน นาทาวาน จากมาเลเซีย 67.405 คะแนน เหรียญเงิน วาเลนติโน ลูเมนทา จากอินโดนีเซีย 66.432 คะแนน เหรียญทองแดง เฟอร์รี ฮูดิยันโต้ จากอินโดนีเซีย 64.108 คะแนน ส่วนผลงานของนักกีฬาขี่ม้าไทยอีกรายที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ด้วยคือ เทวินทร์ มานะธัญญา ทำได้ 58.567 คะแนน ได้อันดับ 7

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานสัมภาษณ์ว่า รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย มีความกังวลหลายเรื่องทั้งม้าและแผนการเล่น ระหว่างการแข่งขันมีช็อตไป ทำให้หัวข้อนั้นทำไม่ได้ จึงพยายามตั้งสติพยายามทำหัวข้ออื่นเพื่อให้ได้คะแนนทดแทน สำหรับม้าตัวนี้สู้มาก แม้จะมีอาการขืนๆ อยู่บ้าง ขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์ ให้กำลังใจทั้งทางอินสตาแกรม เฟซบุ๊ค และชมการถ่ายทอดทางอินเตอร์เน็ต

ในส่วนความประทับใจในซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่เล่นแบดมินตัน และซีเกมส์ครั้งนี้ที่แข่งขันขี่ม้า ขอพูดถึงตัวเองเป็นหลักว่าเป็นกีฬาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะขี่ม้า ประทับใจตอนฝึกซ้อมที่ต้องอดทนและเหนื่อยมากที่ต่างประเทศ จนมาถึงวันแข่งขัน และมีผลงานออกมา จากนี้จะพักก่อน ส่วนการแข่งขันรายการต่อไป แล้วแต่ พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขาธิการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย จะเห็นว่าอย่างไร ส่วนจุดที่ต้องพัฒนาและปรับปรุงในกีฬาขี่ม้า อยู่ที่ประสบการณ์และจำเป็นต้องอยู่กับตัวเองให้มากกว่านี้ แต่ถือว่าทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ดีกว่าตอนตีแบดมินตันที่อารมณ์วัยรุ่นมาก ส่วนขี่ม้าทำให้มีสติที่ดีมาก

พระเจ้าหลานเธอฯ ประทานสัมภาษณ์ว่า สำหรับความประทับใจส่วนพระองค์ คือการไปเรียนขี่ม้าที่ต่างประเทศ ซึ่งเหนื่อยและเครียดมาก มีความกดดันค่อนข้างสูง ทั้งรู้สึกท้อ มีอาการบาดเจ็บ ถูกโค้ชชาวต่างชาติสอนอย่างหนัก จนทำให้ร้องไห้ ซึ่งโค้ชก็บอกว่าน้ำตาไม่ได้ทำให้ใจของเขาอ่อนลง และไม่น่าเชื่อว่าในที่สุดก็จบมาได้ ก่อนจะเข้ามาติดทีมชาติ ก็คิดว่าจะเป็นนักกีฬาหรือเป็นผู้ฝึกสอนดี เพราะเรียนจบแล้ว ก็สามารถเป็นผู้ฝึกสอนได้ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจอยากพิสูจน์ตัวเองว่าฝีมือเป็นอย่างไร และได้ฝึกซ้อม โดยไม่เครียดและไม่หวังอะไรทั้งนั้น ถือเป็นการทดสอบส่วนพระองค์เอง จำได้ว่าตอนเรียนอยู่เมืองนอก เจ็บอยู่หลายเดือน แต่หลังจากที่ฝึกซ้อมมานาน ไม่เจ็บอีกเลย ถือว่ารักษาวินัยของตัวเองได้ดีมาก

มวยหญิงชิง 3 ได้ 2 ทอง

มวยสากลสมัครเล่นกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่อินเดอร์ สเตเดี้ยม มวย เมืองเนปิดอว์ นักชกไทยทั้งชายและหญิงได้ลุ้น 9 เหรียญทองจากที่สั่งแข่งขันทั้งหมด 10 รุ่น ในประเภทหญิง รุ่น 51 กก. "น้องมุก" โสภิดา สะทุมรัมย์ แชมป์เก่าและเจ้าของเหรียญทอง 2 สมัย พบ เหงียน ติ เยน จากเวียดนาม นัดนี้สาวไทยออกแรงเหนื่อยหน่อยแต่ยังเอาชนะไปได้ 2-1 คว้าเหรียญทองแรกให้ทีมเสื้อกล้ามไทย, รุ่น 54 กก. "แสบ" เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม แชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน ดักต่อยจะแจ้งเอาชนะ เอสเตอร์ กาลายัค ของอินโดนีเซีย 3-0 ได้เหรียญทองที่ 2, รุ่น 60 กก. "น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี พลิกพ่าย เดือน ธิ จากเวียดนาม 1-2 ชนิดค้านสายตา ซึ่ง "น้องแต้ว" ที่ได้เหรียญเงิน เปิดเผยว่า ไม่ยอมรับต่อการตัดสินเพราะเชื่อว่าต่อยได้เข้าเป้ามากกว่า