ม.เกษตรค้านนิรโทษกรรมเหตุฝืนนิติรัฐ

ม.เกษตรค้านนิรโทษกรรมเหตุฝืนนิติรัฐ

องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค้านร่างนิรโทษกรรม ชี้ร่างกฎหมายฝ่าฝืนหลักนิติรัฐ นิติธรรม สร้างมาตรฐานไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานหน้าอาคารเทพศาสตร์สถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นิสิต คณาจารย์ บุคลากร และศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จำนวนมาก รวมตัวกันชุมนุมเพื่อคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และมีการตั้งโต๊ะลงทะเบียนลงชื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีนิสิตนักศึกษาร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมาก โดยในเวลา 18.00 น. ได้มีการจุดเทียนและปฏิญาณร่วมกันว่าจะคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด

ทั้งนี้ องค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมีเนื้อหาว่า 1.ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฝ่าฝืนหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทางการเมืองอย่างรุนแรง เนื่องจากมีเนื้อหาเพื่อล้มล้างคำตัดสินของศาลของศาล 2.สร้างมาตรฐานที่ไม่ถูกต้องโดยการลบล้างความผิด ทั้งการฆ่า การคอร์รัปชั่น 3.ละเลยข้อเท็จจริง อันเป็นพื้นฐานในการสร้างความปรองดอง ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้สว. ลงมติไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ในการพิจารณา วันที่ 11 พ.ย.นี้

นายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวที พร้อมระบุว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวไม่ได้ทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างที่รัฐบาลบอก แต่จะนำประเทศเดินไปสู่หน้าผาสูงแทน เพราะมีการบิดเบือนข้อกฎหมาย และยังคิดว่าที่พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องย้อนหลังไปถึงปี2547 มีหลักการสำคัญเพียงเพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นผิดจากคดีการสังหารหมู่ที่มัสยิดกรือเซะ และที่ อ.ตากใบ เท่านั้น ทั้งนี้ คิดว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และคนโกงจะต้องชดใช้ เพราะฉะนั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องรวมกันสู้ต่อไป เพื่อให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ได้

ขณะที่ นางอุทัยรัตน์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจนักศึกษาและบุคลากรทุกคนที่ร่วมเวทีในวันนี้ และคิดว่าทุกคนกำลังต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทุกคนพร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นเต็มที่

นายกษิพัฒน์ สุภาพึ่ง นักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า กฎหมายนี้สะท้อนชัดว่ารัฐบาลต้องการเอาเปรียบประชาชน เห็นได้ชัดจากการผ่านวาระที่ 3 ตอนตีสี่ ซึ่งสะท้อนความไร้สติชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องกระตุ้นให้ทุกคนมีสติ ตาสว่าง และตระหนักรู้ว่าอะไรคือของปลอม คือของจริง ถ้าคนผิด แต่กฎหมายทำให้ไม่ผิด ก็ไม่ทราบว่าจะมีกฎหมายไปเพื่ออะไร ถ้าประเทศไม่รู้ว่ามีกฎหมายไปเพื่ออะไร ประเทศก็อยู่ไม่ได้

นอกจากนี้ ยังได้มีนักวิชาการและผู้บริหารคณะขึ้นเวทีปราศรัยจำนวนมาก อาทิ นางนุชนาถ มั่งคั่ง คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ นายสุดเขตต์ นาคะเสถียร รองคณบดีคณะเกษตร เป็นต้น