ศาลปค.ไม่คุ้มครองชั่วคราวครม.ขึ้นราคาLPG

ศาลปค.ไม่คุ้มครองชั่วคราวครม.ขึ้นราคาLPG

ศาลปกครองไม่คุ้มครองชั่วคราวครม.ขึ้นราคาLPG ชี้ไม่ร้ายแรงจนยากแก่การเยียวยา ระบุกระทรวงพลังงานยังมีโครงการบรรเทาผลกระทบ

นายไพโรจน์ มินเด็น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา ในคดีที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลปกครองเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีกรณีให้ปรับขึ้นราคาค่าก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากในชั้นไต่สวนมูลฟ้องยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ศาลเห็นได้ว่ามติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย

อีกทั้งการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท ต่อกิโลกรัม จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 13 เดือน และกระทรวงพลังงานก็ได้มีโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน โดยครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน และร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร สามารถส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อลงทะเบียนการซื้อก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนในราคาเดิม ดังนั้น การปรับขึ้นราคาขายปลีกแม้จะมีผลกระทบต่อประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงบางส่วน และเป็นผลกระทบที่ไม่ถึงขนาดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันของสภาวะทางเศรษฐกิจแก่ประชาชน กรณีจึงมิใช่ความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง

นอกจากนี้ การที่ศาลจะมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติ กพช. ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวอาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ เพราะจะเกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ใช้น้ำมันจากการที่รัฐต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนผู้ใช้ก๊าซ LPG ให้ได้ใช้ในราคาที่ถูก ทำให้ราคาน้ำมันสูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเกิดการลักลอบนำก๊าซ LPG ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากราคาก๊าซ LPG ในประเทศมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการลักลอบนำก๊าซ LPG ไปใช้ผิดประเภทด้วย