รายได้'อเมซอน'โตน้อยลง

รายได้'อเมซอน'โตน้อยลง

หุ้นอเมซอนดอทคอมดิ่งลง 6% ในตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะแนวโน้มการเงินไม่ค่อยดี

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดทางอินเทอร์เน็ตรายนี้รายงานกำไรสุทธิมากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะการใช้จ่ายหลายปีที่ผ่านมาเริ่มส่งผล แต่รายได้ที่เติบโตช้าลงและแนวโน้มที่น่าผิดหวัง ทำให้หลายฝ่ายไม่แน่ใจเกี่ยวกับธุรกิจของอเมซอนนอกตลาดสหรัฐ เพราะในยุโรปนั้น อเมซอนเผชิญสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ทั้งยังประสบความสำเร็จไม่สม่ำเสมอในการบุกตลาดเกิดใหม่อย่างจีน ซึ่งต้องเผชิญการแข่งขันจากคู่แข่งอย่างอาลีบาบา

การขยายตัวปีต่อปีของอเมซอน ซึ่งวัดจากจำนวนของที่อเมซอนขายได้ อยู่ที่ 30% เมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลงจาก 49% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นักลงทุนกำลังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานด้านธุรกิจในระยะยาวของอเมซอน ในช่วงที่ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ตรายนี้ซึ่งเคยเชี่ยวชาญด้านการส่งสินค้าภายในเวลาอันรวดเร็ว กำลังพยายามทำอย่างเดียวกันในโลกดิจิตอล อันเป็นภาคส่วนที่ให้กำไรสูงกว่า ส่วนหนึ่งเพราะอีบุค ดนตรี และไฟล์วิดีโอ สามารถส่งทางอิเล็กทรอนิกความเร็วสูงได้

อเมซอนดอทคอมจึงหันมารุุกหารายได้ทางอื่น อย่างคอนเทนต์ดิจิตอล การโฆษณา และธุรกิจคลาวคอมพิวติง ล่าสุดยังถึงขั้นเข้าไปสร้างคอนเทนต์วิดีโอเอง

นักวิเคราะห์แห่งบริษัทแมคควอรีชี้ว่า ในระยะยาวแล้วการเคลื่อนไหวเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มกำไรได้ เพราะไม่ต้องนำสินค้าไปใส่รถบรรทุกและจัดส่ง โดยเมื่อไตรมาสแรกต้นทุนค่าจัดส่งของอเมซอนอยู่ที่ 4.7% ของยอดขาย ลดลงจาก 5.1% ของปีก่อน ทำให้เห็นได้ว่าอเมซอนกำลังได้ประโยชน์จากต้นทุนการจัดส่งที่ลดลง และได้เห็นที่มาของรายได้ที่หลากหลายขึ้น

อย่างไรก็ตาม คู่แข่งที่เป็นร้านค้าก็ไล่ตามอเมซอนมาเช่นกัน โดยร้านค้าปลีกสูญเสียส่วนแบ่งให้อเมซอนน้อยลงเพราะหันมาเพิ่มการขายทางออนไลน์ และตั้งราคาให้ไม่ต่างกันมากนัก ทำให้ร้านเบสต์บาย (Best Buy) และเอชเอชเกรก (HH Gregg) อันเป็นร้านค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแข่งขันของอเมซอน มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าปีนี้