สภาผู้ส่งออกฯ หวั่นเหตุไฟฟ้าดับ5เม.ย.

สภาผู้ส่งออกฯ หวั่นเหตุไฟฟ้าดับ5เม.ย.

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ หวั่นเหตุไฟดับ 5 เมษายน กระทบอุตสาหกรรมส่งออก

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออก มีความกังวลต่อสถานการณ์ในช่วงวันที่ 5-14 เมษายน นี้ ทางจะมีการหยุดจ่ายก๊าซจากพม่า ซึ่งจะกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของไทยทีเป็นโรงไฟฟ้าที่พึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ถึง 70% โดยภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าเป็นสัดส่วนมากที่สุดถึง36% ถือว่าอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ จึงต้องการที่ให้ภาครัฐ ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า ไฟฟ้าจะดับหรือไม่ ถ้ามีโอกาสที่จะเกิดไฟฟ้าดับ พื้นที่ใดที่เป็นจุดเสี่ยง อุตสาหกรรมประเภทใดจะต้องเสียสละ

ทั้งนี้เชื่อว่าด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี่ที่มีอยู่ ทางกระทรวงพลังงานน่าจะชี้แจงให้ผู้ประกอบการทราบได้ เพื่อที่จะได้วางแผนการผลิตและการจัดการระบบโลจิสติกส์ในช่วงดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง และไม่มีผลกระทบ

“ต้องเข้าใจว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกต้องเดินเครื่องจักรในการผลิตตลอดเวลา ให้ทันกับคำสั่งซื้อของลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งหากเกิดไฟฟ้าตกหรือดับ ก็จะกระทบต่อสายการผลิตและระบบโลจิสติกส์ทั้งหมด เพราะแต่ละโรงงานไม่ได้มีเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองเอาไว้ทุกโรง ดังนั้น การชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะวางแผนการผลิตล่วงหน้าได้ โดยที่ผ่านมาข้อมูลที่ผู้ประกอบการได้รับจากทั้งภาครัฐและข่าวที่ออกมาค่อนข้างที่จะทำให้เกิดความสับสน”

นายไพบูลย์ กล่าว นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ไฟฟ้าถือเป็นต้นทุนที่สำคัญในภาคการผลิตดังนั้นในระยะยาว ผู้ประกอบการอย่างจะเห็นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี และมีต้นทุนที่แข่งขันได้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมองว่า การผลิตไฟฟ้าของไทยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในสัดส่วนที่มากเกินไป