รถบรรทุกเชื่อปี58ตลาดฟื้น

รถบรรทุกเชื่อปี58ตลาดฟื้น

รถบรรทุกเชื่อปี58ตลาดฟื้น รายใหม่'ไอวีโก้-ทาทา'รุกลงทุน

ช่วงปี 2555-2556 ตลาดรถบรรทุกคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายอย่าง ทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโต รวมไปถึงการคาดหวังของผู้ประกอบการเกี่ยวกับโครงการลงทุนภาครัฐ โดยปี 2555 ตลาดรวมทำได้ 3.8 หมื่นคัน ส่วนปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4 หมื่นคัน แม้ว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง 2556 ทิศทางตลาดรถบรรทุกก็ไม่ดีนัก แต่เป็นเพราะช่วงครึ่งปีแรกสามารถสะสมยอดขายไว้ได้มาก ด้วยอัตราเติบโต 40%

การที่ช่วงครึ่งปีหลังปีที่แล้ว ตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เป็นผลมาจากเศรษฐกิจชะลอตัว และธุรกิจบางอย่างที่ซบเซาลงไป เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ การนำเข้า-ส่งออก ทำให้ความต้องการใช้รถในการขนส่งลดน้อยลงตามไปด้วย ขณะที่โครงการภาครัฐ ทั้งการบริหารจัดการน้ำก็ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ส่วนโครงการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทก็ไม่เกิดขึ้น แต่ยังได้แรงส่งจากรถที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น รถดั๊มพ์ รถมิกเซอร์

การขยายตัวของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในตลาด ทั้งการขยายการลงทุน การเข้ามาของค่ายรถรายใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะค่ายรถจากจีนหลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ไซโน ทรัค, ซีเอเอ็มซี, โฟตอน, เอฟเอดับบลิว, ดายุน, ดีเอฟ, แชคแมน หรือว่า ไบเบน เป็นต้น

การนำเข้ารถบรรทุกจีนบางยี่ห้ออาจจะมีผู้ทำตลาดมากกว่า 1 ราย และมีทั้งการนำเข้าโดยผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งเอง หรือนำเข้ามาจำหน่าย

จุดขายที่ทำให้รถจีนสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้ไม่น้อย มาจาก 2 เหตุผลหลักคือ ราคาที่ถูกกว่ารถญี่ปุ่น และอีกจุดหนึ่งก็คือ การอาศัยช่องว่างในช่วงที่ตลาดมีความต้องการสูง แต่รถญี่ปุ่นส่งมอบได้ล่าช้า แต่รถจีน สามารถส่งมอบได้ทันที ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่สามารถรอรถได้ ตัดสินใจซื้อรถจีนมากขึ้น

แหล่งข่าวในวงการรถบรรทุกกล่าวว่า ด้วยจุดขายดังกล่าว ทำให้วันนี้รถจีนเริ่มประสบปัญหา จากการที่เศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดรถบรรทุกลดลงจุดขายคือความเร็วในการส่งมอบไม่มีความจำเป็น

ทั้งนี้ในช่วง ม.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดรถบรรทุกมียอด 1.4 หมื่นคัน ลดลง 50% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และคาดว่าปีนี้ยอดรวมไม่น่าจะเกิน 2.5 หมื่นคัน

แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการหลายค่ายยังคงเชื่อมั่นในอนาคต เช่นปี 2558 ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว มีการลงทุนภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เป็นรูปเป็นร่าง จะทำให้ตลาดกลับมายืนในระดับ 4 หมื่นคันได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมองถึงโอกาสที่จะได้จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแบบเต็มตัว ซึ่งจะทำให้เกิดการค้าขาย ขนส่ง และเดินทางระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งก็จะผลักดันให้ตลาดรถบรรทุก รถโดยสารขยายตัวเช่นกัน ทำให้ช่วงนี้แม้ตลาดจะหดตัวรุนแรง แต่ก็มีการลงทุนเพิ่ม รวมไปถึงการเข้ามาเปิดตลาดของค่ายใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

ค่ายที่ขยับตัวขยายงานชัดเจน เช่น วอลโว่ ซึ่งเป็นรถในตลาดบน ซึ่งยังมีสถานการณ์การตลาดที่ดี โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นกลุ่ม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหมืองแร่ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น และเมื่อมองถึงโอกาสจากเออีซี วอลโว่ ก็เดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการรองรับเส้นทางขนส่งทั้งเหนือ-ใต้ และ ตะวันออก-ตะวันตก

หรือว่าสแกนเนีย ซึ่งเป็นรถในตลาดบนเช่นกันก็พยายามขยายตลาด ด้วยการเข้าไปสู่รถกิจกรรมพิเศษมากขึ้น เช่น รถดับเพลิงเป็นต้น

และล่าสุดค่ายรถจากอิตาลี ไอวีโก้ ก็ตัดสินใจเข้ามาเปิดตลาดในไทยอย่างเป็นทางการพร้อมกับตั้งเป้าการขายในปีนี้ 200 คัน ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 800 คันในปีหน้า

นายสุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.เอส. เค.กรุ๊ป เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ผู้แทนจำหน่าย กล่าวว่า การมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย จะใช้จุดขายความเป็นรถยุโรป แต่ราคาระดับรถญี่ปุ่น มี 4 รุ่น คือเครื่องยนต์ดีเซล 290 แรงม้า 360 แรงม้า 380 แรงม้า และ 420 แรงม้า ส่วนปีหน้าการตั้งเป้า 800 คัน จะมาจากการขยายตลาดไปสู่เครื่องยนต์ ซีเอ็นจี ซึ่งเชื่อว่าจะทำยอดขายได้ 400 คัน

“ไอวีโก้ เป็นรถจากอิตาลีคู่แข่งจึงเป็นค่ายยุโรปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวอลโว่ และสแกนเนีย ส่วนราคาจำหน่ายนั้นจะเทียบเท่ากับค่ายญี่ปุ่น คือประมาณ 3 ล้านบาท และยังมีการรับประกันหลังการขาย 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง”

ส่วนแนวทางการตลาดและส่งเสริมการขาย จะมีทั้งการเร่งขยายตัวแทนจำหน่ายให้ได้ 10 แห่งทั่วประเทศภายในปีหน้า การจัดกิจกรรมอบรมผู้ขับขี่ให้ขับประหยัด เป็นต้น

นอกจากไอวีโก้แล้ว ตลาดรถบรรทุกไทย ก็ยังจะมีรายใหม่เข้ามาเพิ่มเติมช่วงปลายปี ก็คือ ทาทา ที่จะเปิดตลาดรถ 6 ล้อ และหัวลาก โดยคาดว่าจะเปิดตัวในงาน บัสแอนด์ทรัค ซึ่งจะมีขึ้นช่วง 6-8 พ.ย.นี้

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจ ตลาดผันผวน มักจะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป โอกาสธุรกิจจึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองถูกมากกว่ากันเท่านั้น