2บริษัทใหญ่ประมูลสนามฟุตซอล เตรียมเข้าให้ข้อมูลสตง.

นายธีระศักดิ์ วิริยะกมลพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่การดำเนินการตรวจสอบการทุจริตสนามฟุตซอลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เลือกให้ในพื้นที่อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ที่ได้รับงบประมาณแปรญัตติในการปรับปรุงซ้อมแซมสนามกีฬา เป็นจำนวนทั้งสิ้น 16 โรงเรียน เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท ในการเป็นโมเดลของการดำเนินการตรวจสอบในโครงการอื่นๆในแต่ละพื้นที่ ล่าสุด ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ของแผ่นยางสังเคราะห์ที่ได้ส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ

อีกทั้งก็จะต้องรอผลการนำเครื่องแรงรับแรงอัด และเครื่องแสกนที่ทางสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ได้ประสานไปยังสำนักงานโยธาและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา ในการลงพื้นที่ตรวจสอบความหนาแน่นของพื้นคอนกรีตที่ได้มีการดำเนินก่อสร้างเป็นพื้นสนามฟุตซอล ว่าได้ตามมาฐานหรือไม่ อีกทั้งก็จะต้องนำเครื่องแสกน ทำการแสกนเพื่อตรวจหาโครงเหล็กของการดำเนินการก่อสร้างว่าเป็นเหล็กที่ได้มาตรฐานและมีการวางเหล็กเส้นที่ได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งทั้ง 16 โรงเรียนในพื้นที่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อนำผลการตรวจสอบที่ได้มานั้นนำไปประกอบกับพยานหลักฐานเดิมที่มีอยู่ให้มีให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น

ขณะที่การประสานเข้าให้ข้อมูลของบริษัทเอกชนที่ได้เกี่ยวข้องกับประมูลโครงการสร้างสนามฟุตซอล ล่าสุดได้มี 2 บริษัทที่ประสานเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง สำนักตรวจสอบพิเศษภาค4 แล้ว จากเดิมที่เคยมี 1 บริษัทติดต่อขอเข้าให้ข้อมูลในวันพรุ่งนี้ (24ต.ค.57) ทางสำนักตรวจสอบพิเศษภาค4 จึงได้ประสานให้ทั้ง 2 บริษัทเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้า ส่วนอีก 1 บริษัท ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งหนังสือเชิญให้เข้าให้ขอมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่หนังสือได้ถูกตีกลับ ดังนั้นจึงได้ทำหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นฉบับที่2 ซึ่งหากฉบับนี้ถูกตีกลับ ทางสำนักตรวจสอบพิเศษภาค4 ก็จะต้องประสานไปยัง สตง.ในพื้นที่ของบริษัทที่ตั้ง ก็คือกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ในการติดตามและเร่งรัดให้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีบริษัทใดเข้าชี้แจงให้ข้อมูล ทางสำนักตรวจสอบพิเศษภาค4 ก็มีพยานหลักฐานมากพอสมควรที่จะดำเนินการได้แล้ว เพียงแต่ต้องให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงเพียงเท่านั้น นายธีระศักดิ์ฯกล่าว

ขณะที่นายขันเพชร ถาวรพรหม ผู้อำนวยการโงเรียนโนนไทย กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่าทาง สพฐ. จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการทางวินัย กับคณะครูที่เป็นคณะกรรมการโครงการสนามฟุตซอล ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะงบประมาณที่จัดสรรเข้ามาเป็นความประสงค์ของทางโรงเรียนที่ต้องการจะได้มา เพื่อพัฒนาโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมแซมอาคารเรียน หรือรั่วโรงเรียน ส่วนในเรื่องของสนามฟุตซอลที่ได้มา จากงบประมาณแปรญัตติ ทางโรงเรียนก็พยายามที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้คุ้มกับงบประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินการต่างๆทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบอย่างทุกต้องทุกประการ

ซึ่งตนเองและคณะครูก็ยิ่งรู้สึกเครียดเนื่องจากได้มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบการดำเนินการโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล ซึ่งตนเองยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่ทราบมาก่อนว่าโครงการดังกล่าวนั้นมีความเป็นไปเป็นมาอย่างไร เพียงแต่ต้องการให้นักเรียนได้มีสนามฟุตซอลดีๆใช้อย่างโรงเรียนอื่นๆ ส่วนในกรณีที่หลายฝ่ายมอบดูว่าคะครูในแต่ละโรงเรียนที่เป็นคณะกรรมการนั้นได้เข้าร่วมกับการทุจริตงบประมาณสนามฟุตซอล นั้นตนเองคิดว่าการดำเนินการตามระเบียนทุกขั้นตอนนั้นจะไม่มีขั้นตอนใดที่จะสามารถทำให้ทางโรงเรียนเข้าร่วมกับการทุจริตได้ เพราะขั้นตอนการกำหนดราคาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆนั้นทาง สพฐ เป็นผู้ที่กำหนดมาให้ คณะกรรมการครูที่เซ็นต์รับงานก็ทำได้เพียงตรวจเช็คว่าครบตามจำนวนหรือไม่

ดังนั้นตนเองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดเห็นใจคณะครู ที่ขณะนี้กำลังตกอยู่ในฐานะจำเลยของสังคม เพราะเจตนของคณะครูนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้ามาทำเพื่อให้เกิดการทุจริตและการคอรัปชั่น แต่ทางโรงเรียนต้องการที่จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ให้ลูกศิษย์และชุมชนเพียงเท่านั้น