'วิลาศ'จับมือ'วัชระ'ปราบโกงลั่นตามติดเข้มข้น

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการทุจริตในรัฐสภาว่า ช่วงรอยต่อของการมีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ซึ่งควรจะต้องติดตามกันอย่างเข้มข้น เช่นกรณีการจัดสัมมนานอกสถานที่ของรัฐสภา ที่จัดกันเป็นประจำและเกือบทุกครั้งมีการจัดกันที่โรงแรมพูลแมน ตนเห็นว่าบางเรื่องควรจัดได้ภายในรัฐสภา เพราะห้องว่างจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติว่าหากเรื่องใดให้จัดสัมมนาในห้องที่รัฐสภา ยกเว้นหากไม่มีห้องว่าง จึงจะออกไปจัดนอกสถาน

ทั้งนี้เมื่อมีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการรัฐสภา จากนายสุวิจักร นาควัชระชัย มาเป็น นายจเร พันธุ์เปรื่อง ได้มีการกำหนดนโยบายว่า การจัดสัมมนาจะต้องจัดกันที่รัฐสภา แต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมามีการจัดสัมมนาในหัวข้อ เรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิเทศสัมพันธ์ ระหว่างหน่วยงาน : การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปีงบประมาณ 2557 กันอีกครั้งที่โรงแรงพูลแมน และพบว่ามีค่าใช้จ่ายแพงกว่าปกติแพงกว่า 3-4 เท่า อีกทั้งพบว่าในการสัมมนาครั้งนี้มีชื่อของนายจเร เลขาการรัฐสภาคนปัจจุบันเข้าร่วมสัมมนาด้วย

อดีตประธานที่ปรึกษากรรมาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า ข้าราชการหลายคนในรัฐสภา ที่เกี่ยวข้องและมีเครือข่ายในการทำทุจริต วันนี้ยังพบว่ายังมีความเป็นอยู่สุขสบาย เช่น บางคนใช้ facebook ด่าทอนำข้อมูลไปเปิดเผย ว่าเป็นคนทำลายระบบรัฐสภา จึงเห็นควรให้ตั้งกรรมการสอบสวน และยังมีการว่ากล่าว ก่อนสอบสวนควรนำตัวมากระทืบ ตรงนี้ก็มีเอกสารหลักฐานโดยเฉพาะข้อมูลหน้า facebook ซึ่งคนเหล่านี้ยังได้รับการแต่งตั้ง เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนและผลักดันการปฏิบัติการ ตามประมวลจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา ไม่ได้ถูกโยกย้าย

“ในวันนี้เรื่องที่ผมกับนายวัชระ (เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์) ไปยื่นที่ ป.ป.ช. ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการป.ป.ช.ขึ้นมาไต่สวน 8 เรื่อง และผมก็ร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งหมด 20 กว่า เรื่อง ซึ่งมั่นใจว่าทุกเรื่องที่ร้องไปนั้นมีการทุจริตจริงและต่อจากนี้ผมจะเริ่มทยอย ร้องเรียนในเรื่องที่มีการทุจริต เพื่อให้มีการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบทุกคณะ เหตุที่ต้องทำเพราะยังไม่มีการนำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ” นายวิลาศ กล่าว

นายวิลาศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ยื่นร้องเรียน เรื่องการจัดซื้อนาฬิกาดิจิตอล ที่ติดภายในอาคารรัฐสภา ปรากฏว่าทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ชี้มูลมาแล้ว และแจ้งผลการสอบสวนมาที่รัฐสภามาแล้วว่า ให้ดำเนินคดีอาญากับใครบ้าง และสอบสวนทางวินัยข้าราชการจำนวน 11 คน

“เรื่องทุจริตในสภาไม่ได้โยงเฉพาะข้าราชการประจำ วันนี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมไต่สวนอดีตเลขารัฐสภา และอดีตประธานสภารวมถึงผู้บริหารของทางสภาอีกหลายคน โดยผมจะเข้าไปให้ปากคำกับป.ช.ช.เป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ผมมองเห็นว่าก่อนที่จะไปตรวจสอบหน่วยงานอื่น เราควรที่จะตรวจสอบหน่วยงานตัวเองเสียก่อน และเป็นที่หน้าแปลกว่ารัฐสภาเป็นหน่วยงานเดียวที่ สตง. และป.ป.ช. ไม่เคยเข้ามาแตะเลย เพราะเขาคิดว่าหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานตรวจสอบ และเป็นหน่วยงานที่ให้งบประมาณ จึงไม่อยากเข้ามายุ่ง แต่เมื่อมีการตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นหน่วยงานที่มีการทุจริตเป็นจำนวนมาก” นายวิลาศ กล่าว