กอน.เคาะอ้อยขั้นต้น900บาท/ตัน

กอน.เคาะอ้อยขั้นต้น900บาท/ตัน

กอน.เคาะอ้อยขั้นต้น900บาท/ตัน หลังภัยแล้งฉุดผลผลิต-ค่าความหวานร่วง

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กล่าวว่าที่ประชุม กอน.เมื่อเร็วๆนี้มีมติให้ประกาศเปิดหีบอ้อยฤดูกาลผลิต 2557/2558 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะไปปิดหีบได้ช่วงสิ้นเดือนเม.ย. 2558 คาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 102 ล้านตัน ลดลงจากฤดูกาลก่อนที่มีอ้อยเข้าหีบ 103 ล้านตันอ้อย ส่วนค่าความหวานเฉลี่ยจะลดลงเหลือ 11 ซี.ซี.เอส. ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 12.5 ซี.ซี.เอส.

ส่วนของราคาอ้อยขั้นต้นปีการผลิต 2557/2558 คาดว่าจะเท่ากับฤดูกาลก่อนที่ 900 บาทต่อตัน ส่วนราคาน้ำตาล ในตลาดโลกจะอยู่ที่ 18 เซนต์ต่อปอนด์ และกากน้ำตาล(โมลาส) อยู่ที่ 3,600 บาทต่อตัน

จากการประเมินที่คาดว่าภัยแล้งจะส่งผลต่อปริมาณการผลิตอ้อยนั้น กอน.จึงมีนโยบายให้โรงงานน้ำตาลหันไปเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการหีบทดแทนกับปริมาณอ้อยที่ลดลง เนื่องจากปีที่ผ่านมา ผลผลิตออกจากชาวไร่มีจำนวนมาก โรงงานจึงไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องประสิทธิภาพการหีบมากนัก

ในส่วนของเงินเพิ่มค่าอ้อยจากเงินขั้นต้นที่ 900 บาทต่อตัน ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดูรายละเอียดก่อนเสนอกอน. แต่จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ไม่สูงไปกว่าฤดูกาลก่อนที่จ่ายเงินเพิ่มอยู่ที่ 160 บาทต่อตัน คาดว่าจะกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) มาจ่ายให้แก่ชาวไร่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท และเก็บเงินจากราคาน้ำตาลทรายที่ 5 บาทต่อกิโลกรัมมาชำระหนี้

ส่วนการที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) กู้เงินจาก ธกส. ทุกปีมาเพื่อจ่ายเงินเพิ่มค้าอ้อยแก่ชาวไร่ แม้จะมีเงินจากราคาน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 5 บาทมาชำระหนี้ แต่ก็ไม่เพียงพอกับวงเงินกู้ในแต่ละปีทำให้ปัจจุบันหนี้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จากการกู้ ธกส.มาดำเนินโครงการต่างๆ ยังคงค้างอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายปี 2558คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยจะอยู่ที่ 18-20 เซนต์ต่อปอนด์หรือสูงกว่านี้จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 17 เซนต์ต่อออนซ์ เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำตาลทรายที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น บราซิล ออสเตรเลีย และไทย ต่างก็เจอปัญหาภัยแล้ง จนปริมาณผลผลิตอ้อยลดลงทั้งหมด ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ2%