สั่งเอาผิดเจ้าของบ่อขยะ

สั่งดำเนินคดีผู้บริหารบ่อขยะแพรกษา ชี้เป็นบ่อเก่า-ใบอนุญาตหมดอายุ กรมโรงงานเอาผิดคดีแรกตามกฎหมายโรงงาน พร้อมเร่งตรวจย้อนหลังอีก 1 สัปดาห์ รู้ผลการลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรม ด้านกนอ.คาดใช้เวลาดับไฟอีก 1 สัปดาห์ ขณะดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่สอบ เตรียมพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะที่สมุทรปราการ หลังเกิดเพลิงไหม้เข้าสู่วันที่สาม โดยคาดว่าจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะสามารถดับไฟที่ลุกไหม้ได้หมดในบ่อขยะพื้นที่ประมาณ 150 ไร่ และความลึก 10 เมตร

ผลกระทบควันไฟจากไฟไหม้บ่อขยะภายในซอยแพรกษา ซอย 8 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมบางปู ยังคงกระจายไปทั่วบริเวณตามทิศทางลม แม้ว่าสถานการณ์หมอกควันจะลดความรุนแรงเมื่อเทียบกับวันก่อน แต่ยังถือว่าเป็น "วิกฤติหมอกควัน" เพราะว่ามีฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ตรวจสอบว่าการทิ้งขยะอุตสาหกรรมหรือไม่ โดยหากพบผิดจริงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

"ในเบื้องต้นพบว่าเดิมเป็นบ่อดินเก่าที่ขุดหน้าดินไปขาย และต่อมาได้รับทิ้งขยะชุมชนมาหลายปี ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่ามีขยะอันตรายมาทิ้งหรือไม่ โดยสื่อมวลชนรายงานว่า น่าจะมีขยะจากนิคมอุตสาหกรรมบางปูเข้ามาด้วย หากเป็นจริงจะส่งผลกระทบต่อประชาชน"

สำหรับการทิ้งขยะอุตสาหกรรม จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 73 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรมปี 2535

ทั้งนี้ บ่อขยะที่แพรกษา ได้รับรายงานจากอุตสาหกรรมจังหวัดว่าเป็นของบุคคลธรรมดา คือ นายกรมย์พล สมุทรสาคร ที่เช่าพื้นที่บ่อดินเดิม เพื่อประกอบการรับทิ้งขยะจากชุมชนตามที่ได้รับอนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา ซึ่งใบอนุญาตหมดอายุไปแล้วเมื่อปี 2554

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดดูแลพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่มาก เช่น จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี และ ระยอง โดยดำเนินการให้โรงงานเข้าใจกฎหมายควบคุมขยะอันตราย และหากพบการลักลอบนำขยะอันตรายไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้องจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

กรมโรงงานสั่งเอาผิดผู้บริหารบ่อขยะ

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า บ่อขยะแหล่งนี้ เป็นบ่อขยะชุมชนเก่า ซึ่งเดิมไม่ต้องขออนุญาต แต่ต่อมากฎหมายเปลี่ยนแปลงต้องขออนุญาต บ่อนี้ได้ขอใบอนุญาตและได้รับอนุญาตจาก อบต.แพรกษา แต่ใบอนุญาตหมดอายุ และไม่ได้รับการต่อใบอนุญาต เนื่องจากชุมชนไม่ยอมรับ

ขณะนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บตัวอย่างขยะเพื่อนำไปตรวจสอบแล้ว โดยในเบื้องต้น ผู้บริหารบ่อขยะทำผิด พ.ร.บ.โรงงานปี 2535 หากผลตรวจสอบขยะพบว่าเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายปี 2535 อีกด้วย

"การดำเนินคดีกับนายกรมย์พล ในขณะนี้ ดำเนินคดีเฉพาะความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานปี 2535 ก่อน"

ตรวจสอบขยะย้อนหลัง คาดรู้ใน 1 สัปดาห์

นายณัฐพล กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม จะตรวจสอบย้อนกลับไปว่าขยะอุตสาหกรรมและกากอุตสาหกรรม ที่พบในบ่อขยะต้นตอมาจากโรงงานแห่งใด คาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเจ้าของโรงงานจะต้องถูกดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานและ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายปี 2535 ด้วย

สำหรับขยะหากมีความจำเป็นต้องขนย้ายออกไปกำจัดอย่างถูกต้อง กรมโรงงานก็จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยมีโรงงานบำบัดกากอุตสาหกรรมอันตราย 3 แห่ง และโรงงานบำบัดกากอุตสาหกรรมทั่วไป 20 โรง เตาเผาขยะอุตสาหกรรมทั่วไป 15 โรง ในจำนวนนี้เป็นเตาเผาขยะอันตราย 1 โรง

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากจำเป็นต้องขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกไปกำจัดอย่างถูกต้อง เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มจากจังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นเจ้าภาพ จะมีงบดำเนินการ และหากจำเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมจะตั้งเรื่องขออนุมัติงบกลางเพื่อนำมาใช้ดำเนินการต่อไป

ดีเอสไอลงพื้นที่สอบขยะพิษ

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเพลิงไหม้บ่อขยะ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยมีชาวบ้านมาร้องเรียนให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบหลังพบมีการลักลอบนำกากขยะพิษมาทิ้งส่งกลิ่นเหม็นและก่อมลภาวะ โดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แพรกษา เคยเรียกผู้ประกอบการที่ลักลอบทิ้งขยะพิษลงโทษปรับ

"แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จนส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ข้างเคียง ดีเอสไอจึงลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากคดีการลักลอบทิ้งกากขยะพิษเป็นความผิดแนบท้ายพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีประเด็นต้องตรวจสอบว่ากากขยะดังกล่าวมีที่มาอย่างไรและมีวัตถุอันตรายปนเปื้อนถูกนำมาลักลอบทิ้งหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบทางเทคนิคของกรมควบคุมมลพิษ ระหว่างนี้ดีเอสไอจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องคู่ขนานไปกับการตรวจสอบทางเทคนิค"

กนอ.คาดอีก1สัปดาห์บ่อขยะไฟดับ

ด้าน นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า บ่อขยะที่แพรกษาห่างจากนิคมอุตสาหกรรมบางปูออกไปทางทิศตะวันตก 1 กิโลเมตร ขณะนี้สามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ไฟยังติดอยู่และมีควันไฟสีขาวจากบ่อขยะลอยขึ้นฟ้าและลมพัดไปทางทิศใต้ไปยังทิศเหนือถึงคลองสามวา กรุงเทพมหานคร (กทม.) คาดว่าการดับไฟจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะบ่อมีความลึกถึง 10 เมตร

สำหรับการช่วยเหลือ ทาง กนอ. ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงร่วมจัดการปัญหา โดยส่งรถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่ 2 คัน และเตรียมพร้อม 4 คัน หากได้รับการร้องขอ นอกจากนี้ ยังส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเข้ามาในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู และจะส่งไปในพื้นที่เหมาะสม และจะพิจารณาส่งเข้าไปในพื้นที่ชุมชนเพื่อเตือนภัยระดับมลพิษต่อไป

นอกจากนี้ กนอ.ยังสนับสนุนพื้นที่พักพิงแก่ชุมชนที่ต้องการพื้นที่สำหรับพักพิง

สั่งอุตฯสมุทรปราการดำเนินคดี

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า สั่งให้ กนอ.ตรวจสอบขยะอุตสาหกรรมในบ่อขยะแล้ว หากพบให้ดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด

สำหรับโรงงานที่ตั้งอยู่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมและมีกากอุตสาหกรรมที่อยู่ในข่ายต้องดูแลทั่วประเทศนั้น ขณะนี้ มี 2,452 โรงงาน มีกากอุตสาหกรรม ปีละ 1.4 ล้านตัน เริ่มดำเนินการควบคุมอย่างใกล้ชิดเดือนเม.ย. 2556 ซึ่ง กนอ.ไม่หนักใจการดูแลโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม แต่ห่วงขยะทั่วไปที่หากกำจัดไม่ถูกต้องอาจเกิดปัญหาอย่างที่บ่อขยะแพรกษาได้จะสร้างความรำคาญต่อสุขภาพของประชาชนและต้องใช้เวลาดำเนินการแก้ไข

นายสุรพล ชามาตย์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ่อขยะที่แพรกษา พบขยะอุตสาหกรรมผสมอยู่ เช่น จาระบี กากอุตสาหกรรมจากโรงงานผลิตรองเท้าและหลายๆ อย่าง อาจมีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปฝัง ซึ่งสาเหตุเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากก๊าซมีเทนที่มีมากและผลจากอากาศที่ร้อน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงแจ้งให้อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารบ่อขยะแล้ว