Culineur โรงเรียนสอนให้เป็นเชฟมืออาชีพและเจ้าของร้านอาหาร

 

          เรื่องในครัวสำคัญยิ่งนัก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” ประกาศเปิด โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์ (CULINEUR, School of Culinary Arts and Entrepreneurship) ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 5 เพื่อรองรับผู้ที่สนใจด้านการทำอาหาร จนถึงต้องการเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร จัดหลักสูตรเต็มทั้งคนอยากเป็นเชฟมืออาชีพ หรืออยากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหาร

          คุณสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจอาหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บอกว่า “โรงเรียนศิลปะการอาหารฯ คูลิเนอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจด้านการทำอาหารอย่างจริงจัง โดยจัดตั้งขึ้นตามวิสัยทัศน์ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการร้านอาหารและเชฟมืออาชีพของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างเป็นโรงเรียนด้านศิลปะการอาหารที่มีชื่อเสียงในระดับภูมิภาคเอเชีย และต้องการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและผู้ประกอบการที่จะก้าวไปสู่ครัวระดับโลก สร้างเชฟที่เป็นผู้นำและเจ้าของกิจการที่มีคุณภาพ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้และแนวโน้มของตลาดในอนาคตด้วย คูลิเนอร์จึงไม่ใช่เพียงโรงเรียนสอนทำอาหารเท่านั้น หากเป็นโรงเรียนที่ถ่ายทอดความรู้โดยมีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ฝึกให้นักเรียนรู้จักคิด เผชิญปัญหา และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง”

          การทำโรงเรียนสอนทำอาหารให้ได้มาตรฐานสากล จึงต้องมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ โดยคูลิเนอร์ ได้รับการออกแบบจาก Lausanne Hospitality Consulting (LHC) หน่วยงานด้านการศึกษาจาก Ecole Hoteliere de Lausanne (EHL) เมืองโลซานน์ สถาบันสอนการโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ฝึกสอนจึงมีวิธีการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจไปยังนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของตนเองไปพร้อม ๆ กับปลูกฝังแนวคิดอย่างผู้ประกอบการ โดยมี มร.แอนโทนี ออสบอร์น รับหน้าที่ผู้อำนวยการใหญ่โรงเรียนคูลิเนอร์ ที่นำหลักสูตรนานาชาติด้านการอาหารและผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นหลักสูตรเอกลักษณ์ประจำของโรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์ ได้รับการออกแบบและพัฒนาร่วมกับ LHC โดยมุ่งเน้นจะสร้างเชฟมืออาชีพและผู้ประกอบการร้านอาหารครบวงจร ด้วยหลักสูตรที่ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานด้านงานครัว การทำอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภท จนถึงการควบคุมมาตรฐานด้านความปลอดภัย การบริหารบุคลากรและการบริหารจัดการ

          อยากเรียนเต็มหลักสูตร ผู้เรียนต้องใช้เวลาเรียน 2 ปี ด้วยระบบการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษ โดยมี เชฟชัชชญา รักตะกนิษฐ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาของโรงเรียน ให้คำแนะนำแก่ผู้สนใจด้านการปรุงอาหารว่า

           “คูลิเนอร์ยังมีหลักสูตรระยะสั้นอีกหลายหลักสูตรซึ่งสอนเป็นภาษาไทย สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะด้านการปรุงอาหารภายในระยะเวลาที่จำกัด เช่น หลักสูตรอาหารไทย อาหารตะวันตก ขนมอบ ขนมหวาน การออกแบบอาหาร และการจัดการเบื้องต้น แต่ละหลักสูตรออกแบบมาให้เข้ากับความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในอนาคตอีกด้วย”

         

        ห้องเรียนใหม่ อุปกรณ์ใหม่ คุณครูก็คนใหม่ บรรยกาศชวนเข้าครัวเป็นอย่างยิ่ง ผู้อำนวยการคูลิเนอร์ บอกว่า “ปรัชญาของโรงเรียนคือ ทุก ๆ ที่คือห้องเรียน (Everywhere is a Classroom) ซึ่งสะท้อนว่า ความรู้ต้องไม่จำกัดแค่ในห้องเรียนเท่านั้น ดังนั้นทุกพื้นที่ของโรงเรียนจึงมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้วย โดยเริ่มที่ห้องเรียน 4 ห้อง ได้แรงบันดาลใจจากสีของอาหาร เช่น ห้องสีน้ำตาลจากข้าวบาร์เล่ย์ ห้องสีม่วงจากมะเขือม่วง ห้องสีส้มจากส้มสายพันธุ์ไทย และห้องสีเขียวจากสีของกะหล่ำปลี ภายในห้องเรียนแต่ละห้องได้นำสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยมาใช้ เช่น สมาร์ทบอร์ด แท็ปเลต และอีบุ๊คส์ เพื่อให้เกิดการสื่อสารอย่างเข้าใจกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอน โดยผู้เรียนในหลักสูตรนานาชาติด้านอาหารและผู้ประกอบการจะได้รับแท็ปเลตคนละ 1 เครื่อง”

       ในวันเยี่ยมชมโรงเรียน เชฟเชิญสื่อมวลชนร่วมทำอาหาร ลงมือปฏิบัติจริงกับเมนู Seafood Rice Cazuela คล้าย ๆ ข้าวผัดสเปน แต่กรรมวิธีซับซ้อนกว่า เชฟสาธิตทำให้ดูก่อนแล้วให้นักเรียน (จำแลง) ลงมือคุกกิ้งด้วยตัวเอง เป็นข้าวผัดใส่กุ้ง หอยแมลงภู่ ปลาหมึก ผัดในหม้อใส่พริกปาปริก้า ไวน์ขาว ปรุงรส แล้วนำเข้เตาอบอีกที เสร็จแล้วตกแต่งจาน แล้วลงมือชิม...

       ได้ทดลองทำอาหารแล้วลองสำรวจห้องเรียนต่าง ๆ เช่น ห้องเรียนครัวภาคปฏิบัติ (Demo Kitchen) มี 6 ห้อง แบ่งเป็นห้องสำหรับเบเกอรี่และเพสทรี่ และห้องสำหรับอาหารคาว จุดเด่นคือการนำนวัตกรรมระบบฝ้าดูดควันและระบบระบายอากาศ (Ventilation Ceiling) จากประเทศเนเธอร์แลนด์มาใช้เป็นที่แรกของโรงเรียนสอนทำอาหารในประเทศไทย มีลักษณะเป็นฝ้าสูงทำให้ห้องเรียนดูโปร่งและส่งผลถึงการระบายอากาศที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังมีห้องสำหรับการด้านเครื่องดื่ม (Beverage Tasting Room) โดยเฉพาะ ซึ่งไม่เคยมีในโรงเรียนสอนทำอาหารที่ใดมาก่อน

          เรียนจบหลักสูตรแล้ว นักเรียนก็พร้อมออกทดสอบฝีมือตัวเองในร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ และบาร์เครื่องดื่ม ที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับฝึกการปฏิบัติงานจริง ทั้งด้านการทำอาหาร การบริการ และการบริหารจัดการร้าน ประกอบด้วย ห้องอาหาร การ์นิช (Garnish) ร้านอาหารที่เสนอการบริการเต็มรูปแบบ ห้องอาหาร เฟลเวอร์ (Flavours) ห้องอาหารนานาชาติ ร้านเบเกอรี่และเพสทรี่ เกลซ (Glaze) สำหรับชาวขนมอบเลิฟเวอร์ และ เดอะ บาร์ (The Bar) ให้บริการเครื่องดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มเอกลักษณ์ประจำร้าน

          ส่วนค่าเล่าเรียน ผู้อำนวยการคูลิเนอร์บอกว่า ได้ปรับราคาลงแล้วจึงไม่แพงอย่างที่คิด   (และถูกกว่าในสวิส) โดยหลักสูตรเต็ม 2 ปี แบ่งออกเป็น 4 Module ราคาประมาณ 3 แสนบาท หรือเลือกเรียนเฉพาะหลักสูตรที่สนใจทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น อาหารไทย อาหารตะวันตก เบเกอรี่และเพสทรี่ (5,000 บาทต่อคอร์ส) สอนทำซาลาเปาและอาหารว่างแบบจีน สอนทำไอศกรีม สอนการทำอาหารสไตล์ฟิวชั่น หลักสูตรสำหรับเด็ก หรือมาเรียนคู่แม่กับลูกก็มี เป็นแฟนกันมาเรียนด้วยกันก็ได้

          ผู้หลงเสน่ห์ในอาหาร อยากเป็นเชฟหรือเจ้าของร้านอาหาร...ติดต่อเยี่ยมชมโรงเรียน หรือสอบถามข้อมูลที่โทร.0 2090 2808,  www.culineur.net