“รุ่ง” เพราะ “ลบ” เทพิน อริยปิติพันธ์

“รุ่ง” เพราะ “ลบ” เทพิน อริยปิติพันธ์

เมื่อส่วนผสมของความสำเร็จไม่ได้มีสูตรตายตัว และทุกคนล้วนมี “จุดเปลี่ยน” ของตัวเอง

เส้นทางหลายคนอาจจะปูพรมแดงมาตั้งแต่ต้น ขณะที่อีกหลายคนความสำเร็จก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นักบริหารสาวอย่าง เทพิน อริยปิติพันธ์ แห่ง ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ ก็เหมือนกัน

S__4562981 (1)

ดีกรีปริญญาโทตั้งแต่อายุ 21 ปี อาจฟังดูเหมือนแต้มต่อในชีวิต และต้นทุนที่ดี แต่การเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกนั้น ผลก็คือ “ล้มไม่เป็นท่า” หากแต่ความล้มเหลวในครั้งนั้นผลักดันให้เธอเป็นเจ้าของธุรกิจด้านการจัดคอนเสิร์ตชั้นนำอีกแห่งของวงการที่มีผลงานฝากไว้เป็นกระแส อาทิ เฉลียง หรือเทศกาลดนตรี Season of Love Song รวมถึงธุรกิจด้าน Holistic Marketing Agency ไม่ว่าจะเป็นอีเวนต์ ประชาสัมพันธ์ วิจัยตลาดด้านการท่องเที่ยว ทีมผลิตสื่ออย่าง The PEOPLE และ Craft'n Roll เป็นต้น 

“เราก็รู้สึกว่าชีวิตวัยรุ่นมันหายไปเหมือนกันนะ” เทพินเปิดใจถึงก้าวแรกที่ตัวเองเริ่มเดินตั้งแต่เรียนจบ 

ด้วยแรกผลักดันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจสักอย่างจึงทำให้เธอตั้งใจเรียนจนจบปริญญาโทตั้งแต่อายุ 21 และเริ่มทำงาน ขณะที่เพื่อนๆ ยังได้ใช้เวลาไปกับชีวิตวัยรุ่น ในมุมหนึ่ง เสียงสะท้อนจากคนรอบตัวที่มองว่า “โชคดีที่ได้เริ่มต้นก่อนคนอื่น” ก็ถือเป็นแต้มต่อในความรู้สึกเหมือนกัน เพราะเธอเชื่อว่า "การเริ่มต้นก่อนย่อมได้เปรียบ" 

"พอเรียนจบปริญญาโทที่บ้านก็ให้ทุนมาทำธุรกิจและเป็นครั้งแรกที่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ แล้วเราก็ชวนเพื่อนๆ มาทำนิตยสารชื่อThe Town แต่เปิดได้ไม่ถึง 3 เดือน มันก็เจ๊ง" 

นั่นคือความจริงที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับชีวิตของใครก็ได้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะรับมือกับสิ่งที่ถาโถมเข้ามาอย่างไร สำหรับตัวเทพินเอง เธอยอมรับว่า “เจ็บ” แต่ “ไม่จบ” 

ความล้มเหลวในครั้งนั้นกลับทำให้ได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้ ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งตัวเธอเองก็ยอมรับว่า ถ้าวันนั้นไม่ล้มเหลว คงไม่ทราบว่าจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองอยู่ตรงไหน 

"เมื่อรู้ว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนจุดแข็ง ก็เริ่มต้นธุรกิจใหม่ แต่ที่สำคัญ คือ ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าแพ้ เรายอม เราไม่สู้ มันก็ไม่มีวันนี้ เราเอาความล้มเหลวเหล่านั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังบวก”

หลังจากเจ๊ง เธอก็ตั้งหลักใหม่ รับงานทุกอย่าง ตั้งแต่ราคาหลักพันถึงหลักแสน “ไม่เกี่ยง” 

"เรามีคติประจำใจอยู่ว่า “จะไม่หยุด ถ้ายังไม่สำเร็จ” ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เช่น เรานัดคุณแม่ทานข้าวในเย็นวันศุกร์ แต่ถ้าวันนั้นเราทำงานมาทั้งวันและรู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็ต้องไปให้ได้ เพราะคิดว่า ถ้าคิดแล้วไม่ทำ เกิดเราตายขึ้นมา จะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำ"

S__4562980 (1)

ต่อมาเป็นเรื่อง “ทัศนคติเชิงบวก” ซึ่งเทพินคิดว่า ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ภารกิจต่างๆ จบแบบสวยงามหรือล้มเหลว 

"บางครั้งเราพบปัญหา แต่ถ้าเรามองโดยมุมมองด้านบวกแล้วแปลงสถานการณ์นั้นมาเป็นประโยชน์ต่อตัวเองต่อธุรกิจก็ย่อมดีกว่า “เราเชื่อแบบนั้น” ครั้งหนึ่งเคยมีนักธุรกิจรุ่นพี่มาสบประมาทว่า “ผู้หญิงไม่มีทางทำธุรกิจสำเร็จ” ถ้าเป็นบางคนอาจมองแบบลบแล้วถอดใจเลิกทำทุกอย่าง แต่สำหรับเราไม่ใช่แบบนั้น เรานำคำพูดเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดัน และพัฒนาตัวเองจนได้รับผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด"

ผลลัพธ์ที่เธอหมายถึงก็คือ ไลน์ธุรกิจในวันนี้ ที่ขยายธุรกิจสู่ Holistic Marketing Agency โดยมีบริการด้านการจัดอีเวนต์ โรดโชว์ ประชาสัมพันธ์แคมเปญงานต่างๆ การทำวิจัยที่เจาะตลาดด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งมีลูกค้าจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเป็นเอกชน มอบความไว้วางใจให้เราช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้ในหลายๆ โปรเจกต์ 

“นอกจากนี้เรายังผลิตโปรดักส์อื่นๆ อีก เช่น ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ที่มีชื่อว่า “Craft'n Roll” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Thailand Craft Center ที่นำเสนอเทรนด์ด้านไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวและเรื่องราวของงานฝีมือไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุ นำเสนอผ่านเว็บไซต์ สื่อโซเชียล มีเดีย อีเวนต์ ฯลฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ และสร้างสรรค์สินค้าบริการดีๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไป ซึ่งกำลังจะเปิดตัวขึ้นในเร็วๆ นี้”

รวมทั้ง “The PEOPLE” ดิจิทัลแพลตฟอร์มล่าสุดที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ “คน” บนหลักการพื้นฐานของ Journalism และธุรกิจการจัดคอนเสิร์ต ที่ปรึกษา หรือกระทั่ง Co-working Space และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี 

อาณาจักรธุรกิจที่สร้างขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดนี้ เทพินยกเครดิตให้กับการล้มในก้าวแรกเป็นสำคัญ จนกลายเป็นหลักสูตรเฉพาะตัวที่ไม่มีใครได้เรียนเหมือนอย่างเธอ 

“ความล้มเหลวในการเป็นเจ้าของธุรกิจครั้งแรก การเริ่มต้นก่อนใครเพื่อน ย่อมได้เปรียบ และการได้ไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ ผู้มีประสบการณ์ เพราะเหมือนได้ฟังประสบการณ์ชีวิตแบบย่นย่อหรือการได้เรียนลัดนั่นเอง”

อย่างไรก็ตาม เทพินตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องของการล้มแล้วลุก หรือความไม่ยอมแพ้จนกว่าจะประสบผลสำเร็จนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่เริ่มลงมือทำ 

"คือ ถ้าเรามีคติประจำใจแล้ว มีทัศนคติเชิงบวกแล้ว แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำมันก็ไม่มีประโยชน์” เธอทิ้งท้าย