แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้สร้างที่อยู่ช้างดีที่สุด 1 ใน 10 ของโลก

แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้สร้างที่อยู่ช้างดีที่สุด 1 ใน 10 ของโลก

ถ้าเป็นเรื่องการช่วยเหลือช้าง นานาชาติยกย่องเธอให้เป็นที่หนึ่ง แต่คนไทยรู้จักเธอน้อยมาก

ผู้หญิงตัวเล็กๆ เล็ก-แสงเดือน ชัยเลิศ คนเหนือที่พ่อเป็นชนเผ่าขมุ มีฐานะยากจน แต่เธอทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทำ คือ ช่วยเหลือช้างป่า ช้างบ้าน ที่ได้รับการทรมานจากการทำงาน จึงมีทั้งช้างพิการ ช้างแก่ ช้างดุร้าย และสัตว์อีกหลายประเภท

ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับช้าง รวมถึง หมา แมว ม้า ควาย และหมูป่า ใครเอามาทิ้งหรือเดือดร้อน เธอรับไว้ในความดูแลที่ Elephant Nature Park หรือศูนย์อภิบาลช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 400 ไร่ มีสัตว์ต้องดูแลกว่า 1,200 ตัว โดยมีช้าง 86 เชือก

การริเริ่มศูนย์บริบาลช้าง เธอทำทุกวิถีทางให้สัตว์เหล่านั้นมีชีวิตที่เป็นอิสระ ถ้ามีบาดแผลทางกาย ก็รักษา หากมีบาดแผลทางใจก็เยียวยา ทั้งร้องเพลง กล่อมช้าง นอนเล่นกับช้าง และอาบน้ำให้ช้าง กว่าจะทำให้มันเชื่อใจ เธอถูกเหวี่ยงด้วยก้อนหินไม่รู้เท่าไหร่ 

ณ วันนี้ แสงเดือน ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ถูกรับเชิญจากผู้นำหลายประเทศ ทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย เพื่อไปบอกเล่าเรื่องการช่วยเหลือช้างและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องช้างป่า ช้างบ้านในหลายประเทศ

นอกจากเธอจะเป็นเจ้าของรางวัล Hero of Asia จากนิตยสาร Time ยังได้รับรางวัลอีกมากมาย และเคยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ศูนย์แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 สถานที่เกี่ยวกับสัตว์่ที่ดีที่สุดในโลก

 ขณะที่คนทั่วโลกรู้จักเธอ แต่คนไทยยังรู้จักเธอน้อยมาก และยังเข้าใจเรื่องช้างไม่มากพอ

และในโอกาสที่เดอะวิสดอม กสิกรไทย พาลูกค้าไปสัมผัสเรื่องราวของศูนย์บริบาลช้าง ทั้งดูช้างเล่นน้ำ ทำอาหารให้ช้าง และเล่นกับช้าง

กิจกรรมดีๆ ที่ทำให้คนกลุ่มนี้และผู้เขียนมีความเข้าใจเรื่องช้างมากขึ้น

"ในเมืองไทย ที่นี่อาจไม่ดังมาก แต่ในอเมริกาดังมาก เพราะแม่แสงเดือนมีเพื่อนที่อเมริกาเยอะมาก เขาเห็นจากสารคดีเรื่อง Love & Bananas: An Elephant Story โดย Ashley Bell ดาราฮอลลีวู้ด ที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ มาถ่ายทำสารคดีที่นี่ เพิ่งฉายเมื่อปีที่แล้ว ที่อเมริกาจะรู้จักเล็ก ชัยเลิศ และน้อยหน่าที่เป็นตัวละครหลัก แต่เมืองไทยไม่ได้รับสิทธิให้ฉาย” ทิพย์สุดา มะสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ เล่า

ลองอ่านเรื่องนี้ให้จบ แล้วจะรู้ว่า คนไทยมีความสามารถและเสียสละระดับนานาชาติมีอยู่ไม่น้อย เล็ก ชัยเลิศ เป็นคนไทยคนหนึ่งที่หลายประเทศยกย่องในฐานะคนทำงานเพื่อช้างและสิ่งแวดล้อม

 

ได้ยินมาว่า ศูนย์แห่งนี้มีค่าใช้จ่ายเดือนละกว่าสามล้านบาท แล้วบริหารจัดการยังไง

รามีรายได้พอกับรายจ่าย ดิฉันทำงานหนักมาก ทั้งดีไซน์จิวเวอรี่ วาดรูป ถ่ายภาพช้างขาย แล้วเอาไปประมูลขาย หนังสือก็ทำขาย เวลาไปพูดที่ไหนในต่างประเทศ แทนที่จะบริจาคเงินก็ซื้อหนังสือ

      เรามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หัวละ 2,500 บาทต่อวัน พวกเขามาถ่ายรูป ป้อนอาหารช้าง ดูช้างอาบน้ำ มีอาหารให้ทานหนึ่งมื้อ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเข้ามาไม่เก็บเงิน แต่ไม่ค่อยมา เพราะคนไทยอยากดูช้างวาดรูป ช้างเต้นระบำ อยากให้เด็กนักเรียนมาเที่ยว แต่ครูมักถามว่า มีช้างวาดรูปไหม เราก็เลยยกทีมไปให้ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน มีทูตช้างที่เป็นดารา เพื่่อให้เด็กๆ รักและเมตตาสัตว์ 

ถ้าเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ชาวต่างชาติเสียคนละ 400 ดอลล่าร์ (มีอาหารมังสวิรัติ 3มือและที่พัก 7 วัน) มาทำงานดูแลช้าง เก็บขี้ช้าง มีสมัครเข้ามาทำงานทุกสัปดาห์ และพวกฝรั่งเป็นนักสืบสวน พวกเขาเข้ามาดูว่า ดิฉันเอาเงินไปทำอะไร ทุกวันนี้เราอยู่ได้ด้วยแรงศรัทธา บางคนกลับมาอีกรวมๆ 20 กว่าครั้ง พร้อมยาเต็มกระเป๋า

      และอีกส่วนที่ดิฉันทำคือ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เราต้องให้เขาเป็นเครือข่ายเรา เพราะสถานที่ตรงนี้ เคยเป็นแหล่งตัดไม้เถื่อน ยาบ้าชุกชุม เราก็สร้างโมเดลธุรกิจโฮมสเตย์ ถ้าพวกเขาเอานักท่องเที่ยวมา เราให้โควต้าชาวบ้าน 50 คนฟรี ซึ่งเขาสามารถอยู่ได้

เงินบริจาคมีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ อีกส่วนมาจากขายเมล็ดกาแฟเพื่อสิ่งแวดล้อม ใต้ร่มไม้จากชาวเขา ขายให้ต่างประเทศ และมีคนถามดิฉันว่า ทำกระดาษขี้ช้างไหม...ไม่ทำ เพราะทำลายสิ่งแวดล้อม หรือขายกาแฟขี้ช้างไหม...ไม่ทำ เพราะช้างไม่ได้กินเมล็ดกาแฟ ต้องหลอกช้าง โดยเอาน้ำอ้อย น้ำตาล มาผสมให้ช้างกิน และไม่เป็นผลดีต่อช้าง เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องเงิน เราต้องเมตตาสัตว์และไม่สมควรทำ

 

การฝึกให้ช้างวาดรูป ทรมานสัตว์อย่างไร

     ช้างเป็นสัตว์ป่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกให้วาดรูป เรามีคลิปเบื้องหลังการฝึกเยอะ แม้กระทั่งให้ช้างเล่นลูกบอล เต้นระบำ คนส่วนใหญ่ไม่รู้เบื้องหลังการฝึกช้าง อย่างเด็กนานาชาติหลายโรงเรียน เราก็ไปบรรยายพูดคุยให้เด็กๆ ฟัง ครูเชิญมาไปหมด เพราะเราเชื่อว่า การศึกษากลิ้งโลกได้

 

มาเที่ยวที่นี่ ไม่ควรลูบหรือสัมผัสช้าง?

ช้างต้องการเป็นช้าง ต้องการมีชีวิตอิสระ ฝรั่งบางคนไปลูบหน้าลูบตา จับโน้นจับนี่ จับหาง มันไม่ใช่ ช้างไม่ได้ดีไซน์มาเพื่อมนุษย์ อาสาสมัครที่เข้ามาทุกสัปดาห์ เราสอนให้เขารู้สิทธิในการเคารพผู้อื่น แต่ช้างบางเชือกก็ชอบให้คนลูบและเล่นกับมัน อย่างศรีนวลจะเดินเข้าหาเลย ถ้าคนไม่จับมัน มันเอางวงกระแทก ช้างเชือกนี้จับได้เลย

 ช้างที่นี่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์เป็นช้างแก่ และ 80 เปอร์เซ็นต์มีปัญหาสภาพจิตใจ ช้างทุกเชือกจะไม่ล่ามโซ่  มีช้างหลายเชือกถูกมัดมา ปล่อยให้เป็นอิสระ มันยังคิดว่ามันถูกมัดอยู่ อย่างฟ้าใส เราช่วยมาจากกลุ่มละครเร่ บุรีรัมย์ ตอนที่ไปเจอ โซ่ที่ล่ามกินเข้าไปในเนื้อ มีหนองปกคลุม เวลาควาญช้างจะไขโซ่ มันจะเอางวงฟาด เจ้าของช้างตัดสินใจยกให้ เพราะเอาอาหารให้กินก็เอาเท้าเหยียบ ตาก็เริ่มบอด

 

แล้วคุณบำบัดฟ้าใสยังไง

น้ำตามันไหลมานาน จนเป้าตาหนาเป็นลานน้ำตา มาอยู่กับเราตอนอายุ 4 ขวบครึ่ง ห้าเดือนแรก แม้ขาจะเป็นอิสระแล้ว มันก็ยังวิ่งเหมือนมีโซ่มัด เวลาพาไปเล่นโคลน ก็เล่นไม่เป็น เพราะถูกแยกจากแม่ตั้งแต่เด็ก ฟ้าใสไม่ยอมวิ่ง ทั้งๆ ที่มันวิ่งได้ จะใช้สองขาขยับตัวไปข้างหน้า

ฟ้าใสจะเกลียดคนมาก เมื่อก่อนยืนระยะห่าง 20 เมตรยังไม่ได้ เอาก้อนหินขว้าง แต่เวลานี้จากช้างที่ดุร้ายมาก กลายเป็นน่ารักมาก เราก็ทำทุกวิถีทางให้ฟ้าใสจิตใจอ่อนโยน บางทียืนร้องเพลงหลังต้นไม้ มันก็ยังใช้งวงจับก้อนหินขว้าง ควาญช้างยังบอกว่า แม่แสงเดือนเหมือนผีบ้า จนวันหนึ่งฟ้าใสยอมให้ลูบงวง กอดงวง จริงๆ แล้วเราไม่ได้มีวัตถุประสงค์ร้องเพลงให้ช้างหลับ เพราะไม่จำเป็น แต่เพื่อลดความดุร้าย ตอนนี้ก็ยังกล่อมฟ้าใสด้วยเสียงเพลง และกล่อมช้างทั้งโขลงให้หลับ

ฟ้าใสไม่เคยอยู่กับแม่ หย่านมตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้มันดีขึ้น เวลามีช้างคลอดใหม่ มันจะไม่ไปไหนจะช่วยดูแลลูกช้าง เป็นพี่เลี้ยงพาลูกช้างไปกินนม มันจะใช้งวงรองน้ำนมจากลูกช้างเอามาดูดทำเสียงจุ๊บๆ เหมือนดูดนมแม่ มันคงโหยหาความรัก หรือเวลาช่วยเหลือช้างเชือกอื่นมา มันจะเข้าไปกอดและอยู่กับช้างเชือกนั้นทั้งวัน ดูเหมือนว่าฟ้าใสจะซึมซับความรู้สึกของช้างเชือกอื่นได้ กลายเป็นว่าฟ้าใสช่วยเยี่ยวยาช้างเชือกอื่นๆ ด้วย 

 

อยากให้คุณวิเคราะห์ปัญหาช้างป่าในบ้านเราสักนิด ?

เจ้าหน้าที่รัฐไม่ลงไปฟังความเห็นคนในพื้นที่ เพื่อเอาปัญหามาวิเคราะห์ หลายชั่วอายุคนเกิดสงครามระหว่างคนกับช้างไม่เคยจบ การสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นนับว่ารุนแรง มีการวางยาเบื่อ ตั้งไฟฟ้าช็อตช้าง ก็เป็นภาพไม่ดีสำหรับประเทศไทย ที่ไม่ออกสื่อยังมีอีกเยอะ ทั้งช้างและเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ แล้วจะทำยังไงให้ช้างอยู่ได้ คนอยู่ได้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ไม่กระทำรุนแรงต่อช้าง ไม่เอาระเบิดไปขว้าง ไม่เอาไฟไปเผา

 

หลายคนก็บอกว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ ช้างทั้งโขลงจะบุกรุกพื้นที่ทำกิน?

ปัญหาคนกับช้างไม่ได้มีแค่ประเทศเรา อินเดีย ศรีลังกา อาฟริกา ต่างแก้ปัญหาให้คนกับช้างอยู่ร่วมกันอย่างมีสุข ช้างมีที่อยู่ของมัน เมื่อเศรษฐกิจขยาย คนรุกรานพื้นที่ช้าง ตอนนี้ไม่ต้องมาพูดแล้วว่า พื้นที่ตรงนั้นช้างหรือคนอยู่มาก่อน เราต้องมาคุยว่า จะเปิดช่องว่างให้ช้างเดินในจุดไหน

 

ถ้ามีโอกาสแก้ปัญหาช้างป่า คุณจะวางแผนยังไง

ช้างต้องการที่อยู่ที่ปลอดภัย แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร เราต้องสร้างแหล่งน้ำให้ช้าง จากการศึกษาพื้นที่ ไม่ว่าเขตแก่งกระจาน หรือเขาสอยดาว ไปดูพื้นที่ช้างเดิน ช้างต้องการหาแหล่งน้ำ มันเป็นสัตว์ใหญ่ต้องการน้ำวันละ 300 ลิตร ตรงไหนไม่มีน้ำ มันก็เดินเป็นร้อยๆ กิโลเมตรหาแหล่งน้ำ

ถ้าจะผลักช้างเข้าสู่ป่า ต้องสร้างแหล่งน้ำในป่า เรามีป่าสงวนเยอะแยะ เราไปดูหลายประเทศ บริเวณที่ช้างอยู่ ไม่มีการทำลายป่า ช้างจะอยู่ตามวิถีธรรมชาติ เราแก้ปัญหาไม่ได้เพราะไม่มีพื้นที่ธรรมชาติให้ช้างอยู่ ป่ารอยต่อเรามีเยอะสามหมื่นกว่าไร่ เอาพื้นที่บางส่วนให้ช้างได้ไหม     

เมื่อไม่นาน พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็เรียกไปพบเรื่องช้างป่า เพราะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานไปดูงานที่ศรีลังกา และรู้ว่า เราไปช่วยช้างในศรีลังกา แล้วทำไมไม่ช่วยช้างบ้านเรา ดิฉันเคยตามช้างป่าที่เล็บหลุดบนถนนเข้าป่า มันบาดเจ็บสาหัส ถูกรถชนบนถนนสองตัว อีกตัวหาไม่เจอ อีกตัวบาดเจ็บ ส่วนปัญหาคนที่ถูกช้างทำร้าย เราก็ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต มีคนบอกว่า ขับรถเร็วชนช้างสามตันครึ่งลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วกระแทกลงมาทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นเขตช้างป่า

 

คุณไปช่วยเรื่องช้างในศรีลังกายังไง

ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง จนกลายเป็นโมเดลการทำงาน โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมช้าง ให้ช้างกลับเข้าสู่ป่า ช้างเข้ามาที่ทำกินของชาวบ้านเพราะอาหาร ทำให้ชาวบ้านโกรธช้าง ทางเราก็ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ใจบุญ เอาเงินไปซื้ออาหารในหมู่บ้านให้ช้างในป่า และอีกหลายเรื่องที่เราทำ ตอนนี้ช้างไม่ได้เข้ามาในหมู่บ้านแล้ว ปกติจะออกมาเป็นโขลง รัฐบาลต้องสร้างแหล่งน้ำ และไม่ล้ำแดนช้างอยู่ ตอนนี้ช้างกลับเข้าป่า และไม่ต้องให้อาหารแล้ว แต่บ้านเราระเบิดลงช้างทุกคืน      

กว่าดิฉันจะทำเรื่องเหล่านี้ได้ ต้องสู้หลายด่าน  ดิฉันทำงานกับต่างชาติเยอะ ก็รู้ว่าคนไทยมีดีเยอะ แต่มีจุดบอด เวลามีคนสนับสนุนเรื่องงบประมาณ เราไม่ควรคิดเล็กคิดน้อย คิดส่วนต่าง นอกจากเรื่องช้าง ดิฉันทำเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย ในลาวและกัมพูชา ปล่อยให้จีนทำสัญญาเช่าที่ดิน โดยมีคนลาวเป็นลูกจ้าง แม่น้ำทุกสายเต็มไปด้วยสารเคมี และมีทำลายป่าอย่างย่อยยับ

 

เห็นบอกว่า ไปช่วยวางแผนและเป็นที่ปรึกษาเรื่องช้างในประเทศอื่นๆ ด้วย ?

ตอนนี้กำลังทำโครงการช่วยเหลือช้างที่ลาว  700 ไร่ โดยรัฐบาลลาวอนุมัติพื้นที่ให้ และมีโครงการอนุรักษ์ตัวนิ่ม เพราะถูกจับเยอะ รวมถึงช่วยทำงานที่อินโดนีเซีย แก้ปัญหาเรื่องช้างป่า เมื่อเร็วๆ นี้ประธานาธิบดีกาบองเชิญให้ไปดูเรื่องช้างป่าในอาฟริกา แต่จะไปเคนย่าก่อน เพราะมีปัญหาคนฆ่าช้าง ช้างฆ่าคน ซึ่งตอนไปทำงานที่ศรีลังกา เป็นโมเดลที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องช้างป่าได้

 

คนต่างชาติรู้จักคุณมากกว่าคนไทยไหม

 แค่ประกาศในเฟซบุ๊กว่า จะไปประชุมที่อังกฤษ จะมีคนโพสต์ชวนไปนอนที่บ้าน อย่างไปประชุมยูเอ็น ทั้งๆ ที่เขาออกค่าโรงแรมให้ คืนละเป็นหมื่น เราไม่อยากรบกวน เพื่อนที่ไม่รู้จักกันก็ให้ไปนอนที่บ้าน การทำงานของดิฉัน จึงได้คนแปลกหน้าเป็นเพื่อนเยอะมาก เพราะเราทำงานเมตตาคนและสัตว์ และคนรู้จักเราจากหนังสารคดี ข่าวต่างๆ ที่มาสัมภาษณ์จากบีบีซี เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิค และดิฉันเพิ่งให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นที่นิวยอร์ค พวกเขาแวะมาที่ศูนย์บริบาลช้างเราด้วย

...................

ดูรายละเอียดได้ที่เว็บ www.saveelephant.org ,เพจ lek.chailert หรือติดต่อเบอร์ 053 272 855