Chir Chir ไก่ทอดกับเบียร์สไตล์เกาหลี

มาเปิดบริการที่เมืองไทยแล้ว  Chir Chir Fusion Chicken Factory (เชอร์ เชอร์ ฟิวชั่น ชิกเก้น แฟคทอรี่) อีกหนึ่งตำรับไก่ทอดจากประเทศเกาหลีใต้ ร้านเริ่มเปิดบริการต้อนรับนักชิมชาวไทยเดือนมิถุนายน 2561 และเพิ่งแกรนด์โอเพนนิงไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ร้านไก่ทอดเชอร์เชอร์ในเกาหลีใต้ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 8 ปีก่อน ปัจจุบันขายแฟรนไชส์ไปได้ 80 สาขาในเกาหลีใต้, 20 สาขาในประเทศจีน, 4 สาขาในสิงคโปร์, 1 สาขาในมาเลเซีย, 7 สาขาในอินโดนีเซีย

ร้าน ‘เชอร์เชอร์’ ตั้งชื่อตามเสียง ‘ชิ-รือ ชิ-รือ’ ที่ชาวเกาหลีได้ยินเวลาจุ่มชิ้นไก่ลงทอดในน้ำมันที่กำลังเดือด มร.ดาร์เรน ตัน (Darren Tan) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชอร์ เชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นักธุรกิจรุ่นใหม่ชาวสิงคโปร์ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไก่ทอดเชอร์เชอร์มาเปิดในเมืองไทย กล่าวถึงที่มาของชื่อร้าน

บรรยากาศในร้านตกแต่งด้วยลายเส้นน่ารักรูปไก่ตัวน้อย

ร้านโทนสีน้ำตาลอ่อนจากเปลือกไข่ไก่ที่นำมาตกแต่ง

ไก่ไม่มีกระดูกซอสกระเทียม 6 ชิ้น (Garlicky Chicken Tenders) กับ Chir Cream Beer

เชอร์เชอร์มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากไก่ทอดเกาหลีร้านอื่นๆ ตรงนำเสนอวัฒนธรรมการกินไก่ทอดกับเบียร์ อย่างที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่า Chimaek (ชิแม็ก) เกิดจากการรวมคำว่า Chi (ชิ) หมายถึง ‘ไก่’ กับคำว่า Maek (แม็ก) ที่ย่อมาจากคำว่า Maekju (แม็กจู) แปลว่า ‘เบียร์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของชาวเกาหลี 

มร.ดาร์เรน กล่าวว่า จุดเด่นของไก่ทอดเชอร์เชอร์ คือการเลือกใช้เนื้อไก่คุณภาพดี สด-ใหม่วันต่อวันเท่านั้น โดยไม่ผ่านการแช่แข็ง เขาจึงใช้ไก่ในเมืองไทย คัดเฉพาะน้ำหนัก 1.1 ถึง 1.3 กิโลกรัม/ตัว ให้เนื้อไก่ที่ยังมีความนุ่ม-ฉ่ำหลังจากปรุงด้วยการทอดและย่าง ใช้ไก่ทุกส่วน (ยกเว้นคอไก่) ตัดเป็นส่วนๆ อาทิ ปีกบน ปีกกลาง และแบบไร้กระดูก

รสชาติไก่ทอดซิกเนเจอร์ของ ‘เชอร์เชอร์’ มีให้เลือก 3 แบบ คือ รสชาติแบบ ทอดกรอบ (Crispy), รสซอส กระเทียม (Garlicky) และรส เผ็ด (Spicy) แต่ละรสชาติเกิดจากการคลุกเคล้ากับ ‘ซอส’ หรือไม่ก็ ‘เครื่องเทศสูตรเฉพาะ’ ของเชอร์เชอร์ที่นำเข้าจากเกาหลีใต้

เมื่อเลือกรสชาติได้แล้ว ก็เลือกต่อว่าจะให้ปรุงด้วยไก่ส่วนไหน ระหว่าง ไก่ไม่มีกระดูก(tenders), ปีกบน (drumlets) หรือ ปีกกลาง (winglets) ราคา 129-149 บาท/6 ชิ้น หรือสั่งแบบ ไก่ครึ่งตัว ราคาอยู่ระหว่าง 240-260 บาท ไก่ทั้งตัว ราคา 460-490 บาท

กันปงคิง(Khan Pung King)

เมนูซิกเนเจอร์ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งในหมู่นักชิมชาวไทย กันปงคิง (Khan Pung King) ไก่ไม่มีกระดูกทอดกรอบ เคล้าซอสเผ็ดและซอสหวาน จิ้มกับซอสครีม ซอสเกาหลีถ้าเขียนว่าเผ็ด(spicy) คือเผ็ดจริงแบบเกาหลี คือไม่เผ็ดร้อนปาก แต่ก็เผ็ด จานนี้กินง่าย รสชาติคนไทยคุ้นเคย ต่างกันตรงเขาทอดไก่ได้กรอบนอก เนื้อไก่ข้างในนุ่ม-ฉ่ำ ไม่แห้งแข็ง จานนี้สั่งแบบไก่ครึ่งตัว 260 บาท ไก่ทั้งตัว 490 บาท

ถ้าเป็นไก่ที่มีกระดูก เช่น ปีกบน ปีกกลาง กัดเข้าไป นอกจากเนื้อไก่นุ่ม กระดูกไก่ยังแทบจะหลุดจากเนื้อเหมือนผ่านการตุ๋น ทั้งๆ ที่ใช้วิธีทอด

โรส ชีส ชิคควีน(Rose Cheese Chiqueen)

คนชอบชีสตัวยง แนะนำให้รู้จักกับ โรส ชีส ชิคควีน (Rose Cheese Chiqueen, ไก่ครึ่งตัว 310 บาท ไก่ทั้งตัว 570 บาท) ไก่ไม่มีกระดูกทอดกรอบ วางมาบนครีมชีสที่มีส่วนผสมของมอสซาเรลลาชีส ฟองดูชีส มันฝรั่งทอดกับชีสและเครื่องเทศ มะเขือเทศราชินี พอยกมาตั้งที่โต๊ะพร้อมเตาที่คอยอุ่นให้ชีสไม่จับตัวเป็นลิ่มแข็ง บริกรจะรินซอสเนยแข็งละลายแล้วที่เตรียมมาอีกหนึ่งถ้วยลงบนชิ้นไก่ เพิ่มความครีมมี่และกลิ่นชีสหอมกรุ่น

อีกหนึ่งจานสำหรับคนชอบชีส ยกให้ เนสต์สโนว์ (Nest Snow, ไก่ครึ่งตัว 310 บาท ไก่ทั้งตัว 570 บาท) ไก่หมักเครื่องเทศคาจัน(cajun) เนื้อนุ่มฉ่ำซอส เสิร์ฟกับครีมซอสเข้มข้น มันฝรั่งบด บร็อกโกลี แต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมสด โรยหน้าอีกทีด้วยชีสขูด

เนสต์สโนว์(Nest Snow)

 ไก่อบซอสบาร์บีคิว (ไก่ครึ่งตัว)

จานนี้ก็ได้รับความนิยม ไก่อบซอสบาร์บีคิว (Spicy BBQ Roasted Chicken,  ไก่ครึ่งตัว 310 บาท ไก่ทั้งตัว 570 บาท) หมักไก่ด้วยซอสบาร์บีคิวสูตรเกาหลี 10 ชั่วโมงก่อนนำเข้าเตาอบ ได้ไก่อบเนื้อนุ่ม เสิร์ฟกับไข่ต้ม มันฝรั่งอบ ซาวร์ครีมและซอสซัลซ่า

อาหารประเภทซุปก็มี ซุปซีฟู้ดรสเผ็ด (Spicy Seafood Soup, 299 บาท) หอยแมลงภู่ กุ้ง ปู หมึก เรียงมาในน้ำซุปรสเผ็ดที่เคี่ยวจากอาหารทะเล

ซุปซีฟู้ดรสเผ็ด

สลัดองุ่นในน้ำผึ้ง

จานสลัดสดชื่นด้วย สลัดองุ่นในน้ำผึ้ง (Honey Grape Salad, 259 บาท) องุ่นเขียวไร้เมล็ด วอลนัท เมล็ดสนญี่ปุ่น อัลมอนด์ ราดด้วยวิปครีมและชีสริคอตต้า แต่งจานด้วยแผ่นแป้งตอร์ติยาอบกับน้ำผึ้งและกระเทียม

เบียร์ที่เสิร์ฟคู่กับการกินไก่ทอดร้านนี้คือ เชอร์ ครีม เบียร์ (Chir Cream Beer) ขนาดแก้ว 350 และ 650 มิลลิลิตร ราคา 169 บาท และ 269 บาท(ตามลำดับ) เป็นเบียร์สด โปะหน้าด้วยวิปครีมปรุงรสนิดหน่อยเพื่อตัดรสขมของเบียร์ เวลายกแก้วขึ้นดื่ม วิปครีมจะติดปลายจมูกหน่อยๆ ให้สนุกกับการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียในสไตล์เกาหลีใต้

Blueberry Sparkling น้ำบลูเบอร์รี่เข้มข้นผสมโซดา (159 บาท)

ม็อคเทล Passion Yellow Tok! Tok!

เครื่องดื่มประเภทม็อคเทลก็เหมาะมากกับการกินไก่ทอด เช่น Passion Yellow Tok! Tok! (239 บาท) น้ำเสาวรสที่มีส่วนผสมของน้ำเบอร์รี น้ำองุ่นเขียว โซดาและไซรัป มีขั้นตอนการเสิร์ฟที่น่าสนุก บริกรนำขวดอัดโซดามาเขย่าให้เข้ากับเครื่องดื่มก่อนเทลงในเหยือกที่รินเสิร์ฟในถ้วยแบ่งขนาดเล็กได้ 6-8 ครั้ง ถ้าเลือกแบบมีแอลกอฮอล์ก็มีส่วนผสมของวอดก้าเพิ่มลงไป (339 บาท)

เนื่องจากไก่ทอดทุกชิ้นไม่มีการทอดรอไว้ล่วงหน้า เชอร์เชอร์ทอดไก่ใหม่จานต่อจานต่อออร์เดอร์ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที ถ้านักชิมเต็มร้านขนาด 100 ที่นั่ง อาจต้องให้เวลาเชฟเป็น 20 นาที

หากต้องรอ..โปรดทำใจเย็นๆ

ร้าน Chir Chir Fusion Chicken Factory ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (ฝั่งเซน)