คืนชีวาลายผ้าอินเดียในสยาม

คืนชีวาลายผ้าอินเดียในสยาม

เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยารุ่งเรือง มีการค้าขายกับชาติยุโรปหลายชาติ แต่ชาติเอเชียอย่าง อินเดีย ก็มีความสำคัญไม่น้อย เห็นได้จาก ผ้าอินเดียในสยาม ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในห้วงเวลานั้น ก่อนที่ความนิยมจะจางหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

วันนี้ผ้าอินเดียในสยามกำลังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อนักวิชาการด้านผ้าอินเดีย ประภัสสร โพธิ์ศรีทอง ชวนผู้ชื่นชอบงานผ้าร่วมกันรื้อฟื้นวิถีแห่งผ้าพิมพ์ลายให้กลับมามีชีวิตชีวา

"จากการค้นคว้าเราพบหลักฐานไทยนำเข้าผ้าพิมพ์ ผ้าเขียน ผ้าพิมพ์ลายของอินเดียมาตั้งแต่อยุธยา ซึ่งระยะแรกผ้าประเภทนี้ใช้ใน‘ราชสำนัก’ลวดลายผ้าอาจเป็นลายใหญ่ลายที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับสถานภาพของพระมหากษัตริย์ หรือลายที่แสดงยศฐาบรรดาศักดิ์ของขุนนาง แต่พอมาในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มมีกระแสวัฒนธรรมตะวันตก ความนิยมของผ้าพิมพ์ลายของอินเดียก็ลดลง...

ต่อมามีผ้าอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นผ้าอินเดียที่เราเรียกว่า เซาดากีรี (Saudagiri) มีนายห้างหลายรายนำเข้าผ้าเหล่านี้มาในสยาม จนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งช่วงที่มีการสู้รบกัน ส่งผลทำให้การขนส่งผ้าจากอินเดียลำบาก คนไทยก็เริ่มผลิตผ้าที่เรียกว่า ‘ลายไทย’ ขึ้นมาแทน ก่อนจะนำไปสู่การผลิตด้วยเครื่องจักรแทนการพิมพ์ผ้าด้วยมือ ซึ่งความรู้และเรื่องราวของผ้าลายตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีความเชื่อมโยงต่อเนื่อง เลยเปิดการอบรมพิมพ์ผ้าด้วย แม่พิมพ์ไม้ ส่วนหนึ่งเกิดจากเราทำงานฟื้นฟูผ้าลายอินเดียสำหรับสยาม เลยแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตผ้าลายอินเดียในสยามแบบดั้งเดิมที่ปัจจุบันหาคนทำยากมาก"

เมื่อความคิดริเริ่มของประภัสสร นำไปสู่การบอกกล่าว ผู้คนที่รู้ข่าวก็นัดแนะกันมาฝึกอบรมทำลวดลายผ้าที่บ้านของเธอ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งในบ้านของประภัสสรเตรียมไว้สำหรับจัดวางอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานผ้าอย่างครบครัน

JDZ_3600

ประภัสสร โพธิ์ศรีทอง

"เนื่องจากศิลปะการพิมพ์ลายด้วย ‘แม่พิมพ์ไม้’ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในสังคมไทยมากนัก เรานำเทคนิคพิมพ์ลายผ้าที่เคยได้รับความนิยมในอดีต มาให้คนที่สนใจได้ทดลองเรียนรู้พื้นฐานงานพิมพ์ลวดลายด้วยสีสมัยใหม่ ลงบนผืนผ้า แล้วเกิดเป็นลวดลาย...

อุปกรณ์ที่เราใช้ มี ‘แม่พิมพ์ไม้’ ทำจากไม้สัก สีพิมพ์ผ้า แล้วใช้เทคนิคที่เรียกว่า ‘แฮนด์ปรินท์’ พิมพ์ลงไปบนผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ใส่สบาย แล้วผ้าฝ้ายก็ยังสัมพันธ์กับผ้าอินเดียที่เราเคยนำเข้าจากสยาม...

JDZ_3561

ส่วนขั้นตอนการพิมพ์ผ้า ข้อแรก เราต้องเตรียมโต๊ะที่มีลักษณะคล้ายกับที่รองรีดผ้ามีความนุ่มและหนาจากผ้ากระสอบบุโต๊ะเป็นชั้นๆ แล้วปิดทับด้วยผ้าฝ้ายรองข้างหน้าอีกที เพื่อกันเปื้อน...

ส่วนกระบวนการผสมสี เราใช้ สีเคมี ผสมกับ แป้งพิมพ์ ทำปฏิกิริยาผนวกโมเลกุลของสีเข้าด้วยกัน มีคุณสมบัติคล้ายกับกาวที่ทำให้สีไปติดอยู่บนผิวหน้าของผ้า สีพวกนี้ติดทนนาน

JDZ_3565

ต่อจากนั้นนำมาสู่การตรึงผ้าที่จะพิมพ์ลงบนโต๊ะ แล้วเลือกลายแม่พิมพ์ที่เราทำเป็น ‘ลายไทย’ เกือบทั้งหมด เช่น ลายกุดั่น ลายแก้วชิงดวง ลายนกคาบ ลายเทพพนม ลายก้านแย่ง ซึ่งการสร้างลายผ้าให้ต่อเนื่อง จะต้องมีการเลื่อมลาย ซ้อนลาย มาประกอบลายในจังหวะที่พอดีกับแม่พิมพ์ต้นลาย...

เพราะฉะนั้น เรื่องของสมาธิซึ่งสำคัญมาก การตัดสินใจทุกๆ เรื่อง ณ เวลานั้น ควรเป็นไปอย่างรอบคอบ การที่เรากดแม่พิมพ์ลงไปบนถาดพิมพ์ ถาดสี ต้องเช็คทุกครั้งว่า แม่พิมพ์ติดสีดีหรือเปล่า ต้องมั่นใจว่าสีติดบนแม่พิมพ์ ลวดลายไม่หายไป สีบางส่วนไม่หายไป ในขณะเดียวกันต้องระวังอย่าให้สีเลอะมือเรา ไม่อย่างนั้นสีอาจเลอะเปื้อนผ้าส่วนอื่น...

JDZ_3544

ความสะอาดของชิ้นงาน ก็เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งวัสดุที่เป็นตัวรองรับลวดลายผ้าที่เราเตรียมไว้ให้กับผู้อบรมลองทำ มีตั้งแต่ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ เสื้อยืด กระเป๋า แต่ละอย่างมีวิธีออกแบบลวดลายแตกต่างกัน เพราะเราต้องการให้ผู้ที่มาเรียนได้ฝึกพิมพ์ลวดลายบนรูปทรงผ้าที่หลากหลาย...

บางคนที่ไม่เข้าใจในกระบวนการพิมพ์ที่ชัดเจน หรือว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ตรงนี้อาจพลาดไปแล้ว ครั้งหน้าจะต้องแก้อย่างไร เราก็ให้คำแนะนำ ซึ่งชุดความรู้การพิมพ์ผ้าด้วยแม่พิมพ์ไม้ที่เรานำมาเผยแพร่ ก็อยากให้มีการต่อยอดในอนาคต บางคนอาจมีธุรกิจอยู่แล้วก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป"

JDZ_3593

 

ด้วยความหวังของประภัสสรในการฟื้่นขนบแห่งวิถีผ้าพิมพ์ลายอินเดียให้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เจน-เจนยุภา จันทร์ตรี กับ เป้-สมกัญญา เรืองโรจน์แข สองสาวเพื่อนสนิทก็เห็นข้อดีกับสิ่งนี้ แล้วเล่าว่า ที่ผ่านมา พวกเธอเคยชวนกันไปเวิร์คชอปตามที่ต่างๆ ทั้งทำเซรามิก ตัดเสื้อผ้า อย่างกางเกงที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือของขวัญชิ้นมอบให้คนใกล้ตัวในโอกาสพิเศษ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากความรู้ที่เธอได้รับมาจากการไปฝึกอบรม

JDZ_3608

 เจน-เจนยุภา จันทร์ตรี

 

JDZ_3609

 เป้-สมกัญญา เรืองโรจน์แข

ส่วนการพิมพ์ลายผ้า ถือเป็นการทดลองทำอะไรใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ผ้าที่เป็นสีขาวทั้งผืนจะสร้างลายให้ต่อกันอย่างไร การเลือกโทนสี ให้เหมาะสมกันและเข้ากับยุคสมัยก็ต้องอาศัยการคิดและวางแผนซึ่งความไม่สมบูรณ์ของงานทำมือ

เป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหล ไม่เหมือนใคร 

------------------------------

หมายเหตุ : เซาดากีรี (Saudagiri) หมายถึง ผ้าพิมพ์ไม้ที่ ‘สยาม’ สั่งอินเดียผลิต โดยขัดผ้าฝ้ายให้มันเงาเพื่อแทนลักษณะมันวาวของไหม มีแหล่งผลิตหลักอยู่ที่เมืองอัห์มดาบาด(Ahmedabad) เมืองใหญ่ที่สุดและอดีตเมืองหลวงของรัฐคุชราต(Gujarat)