เจาะลึกการอารักขาความปลอดภัยศิลปินระดับโลก

เกิดเป็นศิลปินดัง คนรักก็มาก คนชังก็ไม่น้อย เลยทำให้เหล่าดารานักร้องต้องจ้างบอดี้การ์ดมาคอยดูแล หรือไม่ก็ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอดในบ้าน แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวถูกบุกบ้าน หรือถูก stalker ตามติดออกมาให้เราเห็นอยู่ตลอด

            สำหรับเรื่องนี้ คริส โมแฮนดี นายตำรวจและนักนิติจิตวิทยาที่เคยดูแลหน่วยพฤติกรรมศาสตร์ของสำนักงานตำรวจลอสแองเจลีส บอกว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ายิ่งศิลปินมีผู้ติดตาม และแฟนคลับมากเท่าไร ความเป็นไปได้ที่จะมีบุคคลที่ไม่ปรกติรวมอยู่ด้วยก็มากขึ้นเท่านั้น

 

 

            นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าเซเล็บหมดเงินไปกับการรักษาความปลอดภัยไม่น้อย อย่าง กวินเนธ พัลโทรว ซึ่งถูกชายชื่อ Dante Soiu ติดตามมายาวนานถึง 17 ปี ได้ขึ้นให้การในศาลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 ตอนที่มีการพิจารณาคดีของ stalker รายนี้ว่า เธอต้องจ้างทีมรักษาความปลอดภัยมาดูแลที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกจากกองทัพอังกฤษ ติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภัยสุดไฮเทคกับประตูนิรภัยภายในบ้าน แถมยังปล่อยสุนัขจู่โจมพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดไว้รอบบ้านอีกด้วย

            เบซิล สตีเฟนส์ ซีอีโอ Close Range International บริษัทรักษาความปลอดภัยในฮอลลีวู้ดที่เชี่ยวชาญเรื่อง stalking และการข่มขู่ บอกว่า เป็นเรื่องปรกติที่เหล่าป๊อปสตาร์จะใช้เงินปีละ 5 แสนเหรียญหรือหลายล้านดอลลาร์ไปกับการอารักขาตัวเองจากเหล่า stalker โดยปัจจุบันเขามีลูกค้า 5 คนในย่านเบเวอร์ลี ฮิลส์ ที่ต้องส่งการ์ดติดอาวุธไปคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเพราะถูก stalker ข่มขู่

            ด้าน แอรอน โคเฮน อดีตนายทหารจากกองทัพอิสราเอลที่กลายมาเป็นผู้อารักขาความปลอดภัยให้คนดังอย่าง แบรด พิทท์ และ เคที เพอร์รี คิดค่ารักษาความปลอดภัยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 1.5 ล้านดอลลาร์ (กว่า 47 ล้านบาท) โดยในแพ็คเกจนี้จะรวมถึงการใช้ห้อง 1 ห้องในบ้านเป็นศูนย์บัญชาการซึ่งจะตรวจดูตั้งแต่ถนนทุกสายที่มุ่งมายังบ้าน รวมถึงอาณาบริเวณรายรอบ แล้วยังมีการ์ดติดอาวุธหนึ่งคนที่จะเปลี่ยนเวรกันมาเฝ้า แต่โคเฮนบอกว่าลูกค้าทุกคนของเขาจะมีการ์ด 2 คน เท่ากับว่าค่าจ้างก็จะเพิ่มเป็น 2.5 หรือ 3 ล้านดอลลาร์

 

 

            นอกจากที่บ้านแล้ว ถ้าเหล่าเซเล็บต้องการจ้างบอดี้การ์ดไปคอยอารักขายามที่เดินทางไปไหนมาไหนก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีก 7-8 แสนดอลลาร์ต่อปี หรืออาจจะถึงล้านในการจ้างบอดี้การ์ด 2 คนสลับกันมาคอยอารักษา 7 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าศิลปินคนนั้นไม่ได้ออกงานบ่อยก็สามารถจ้างเป็นครั้งคราวได้ อย่างจ้างไปงาน Fashion Week งานหนึ่งจะตกอยู่ที่ 650-1,000 ดอลลาร์ ต่อวัน ขึ้นอยู่กับข้อเรียกร้อง อาทิ ต้องการการ์ดติดอาวุธรึเปล่า มีเด็กเดินทางไปด้วยไหม หรือพกเครื่องประดับมีค่าติดตัวไปด้วยรึเปล่า แล้วถ้าต้องออกไปอีเวนท์นอกเมืองก็จะต้องจ่ายค่าอาหาร ค่าเดินทาง และที่พักให้บอดี้การ์ดด้วย

            แต่ถ้าเป็นเคสของการทัวร์คอนเสิร์ต แอนโทนี เดวิส จาก AD Entertainment Services ที่เคยทำงานกับนักร้องตระกูล Osbournes วง Fleetwood Mac บิลลี ไอดอล แล้วก็อีกหลายวง บอกว่า จะคิดค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,500-5,000 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ บวกค่าเบี้ยเลี้ยงแล้วก็ค่าเดินทาง

            แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวเลขคร่าว ๆ เพราะเซเล็บแต่ละคนมีข้อเรียกร้องในการรักษาความปลอดภัยไม่เหมือนกันเลย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับโลเคชั่น วิธีเดินทาง ไลฟ์สไตล์ จำนวนสมาชิกในครอบครัวแล้วก็ของมีค่าที่พกติดตัวไปด้วย

 

 

            สำหรับปาปาราซซีที่เราเห็นตามติดศิลปินดังเป็นเงาตามตัวนั้น น่าประหลาดใจที่ในมุมมองของบอดี้การ์ดแล้วคนพวกนี้ไม่ค่อยจะเป็นอันตรายต่อศิลปิน

            “ปาปาราซซีเป็นส่วนจำเป็น อย่างครอบครัวคาร์ดาเชียน ปาปาราซซีเป็นส่วนหนึ่งในโมเดลธุรกิจของพวกเขา ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยจะต้องทำในขอบเขตที่ว่าคนพวกนี้ทำมาหากินยังไง แล้วก็ปล่อยให้ทำได้ตราบเท่าที่คุณรู้ว่าอะไรคือเส้นที่ขีดไว้ให้พวกปาปาราซซี” โคเฮนกล่าว

 

 

            เทคนิคการอารักขาคนดังของโคเฮนยังรวมถึงการส่งคนปลอมตัวไปเป็นปาปาราซซีเพื่อหาข้อมูลวงใน แล้วก็ส่งคนไปนั่งอูเบอร์ทำให้สามารถเปลี่ยนรถได้ถึง 10 ครั้งต่อวัน แล้วยังสั่งให้ขับไปตามเส้นทางที่ต้องการได้ อีกวิธีหนึ่งก็คือขอให้ลูกค้าโพสต์ข้อมูลหลอก ๆ ลงโซเชียลมีเดียเพื่อล่อผู้ที่ไม่ประสงค์ดีออกไป

            แต่สำหรับคนธรรมดาที่ไม่มีเงินจ้างบอดี้การ์ดมาคอยอารักขาแบบเหล่าคนดัง ผู้เชี่ยวชาญอย่างสตีเฟนส์แนะนำว่าให้ลงทุนติดตั้งระบบเตือนภัยที่มีคุณภาพดีหน่อย แล้วติดประตูรักษาความปลอดภัยในบ้าน ไม่ก็ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดสมัยใหม่ที่ราคาไม่แพง แถมยังส่งภาพเข้าโทรศัพท์มือถือของคุณได้ทุกเวลาอีกด้วย