PakaPrich Adventure ระหว่างสองเราคือการผจญภัย

PakaPrich Adventure ระหว่างสองเราคือการผจญภัย

คู่รักเจ้าของหนังสือ "A Long Way Home 71 วัน ปลายทางคือบ้าน ระหว่างทางคือเรา" จากที่ไม่คิดว่าตัวเองจะรักการเดินทาง แต่เมื่อได้ลองออกไปเห็นโลก พวกเขาก็เริ่มเดินทางเข้าสู่โลกแห่งการผจญภัยแบบโหดขึ้นเรื่อยๆ

เย็นวันหนึ่ง ระหว่างที่กำลังเลื่อนฟีดบนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเองอยู่นั้น พลันก็มาสะดุดกับคลิปว่าด้วยวิธีสะพายเป้ยังไงให้ไม่ปวดไหล่ปวดหลัง!?!? ด้วยความอยากรู้ว่าใครกันหนอเป็นผู้ทำคลิปนี้ จึงคลิกต่อไปยังต้นทาง เมื่อเห็นฉันก็ได้แค่อุทานว่า โอ้โห!! คนทำเพจนี้ท่องเที่ยวโหดมาก อยากคุยด้วยจัง...

พวกเขาคือ PakaPrich คู่รักที่ยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง กับการ Adventure ไปในสถานที่โหดหินต่าง ๆ ของโลก

Paka + Prich = Lovers

Paka มาจากชื่อของ โบ๊ท-ภควัต ทองเจริญ และ Prich มาจากชื่อของ ฝ้าย-ปริชญา สุทธิเวทย์ คู่รักนักเดินทางคู่นี้ พวกเขาทั้งสองเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่แล้วโลกก็เหวี่ยงคนทั้งคู่ให้ไปเจอกันในการเรียนระดับปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ฝ้ายเล่าให้ฟังว่าจริงแล้วไลฟ์สไตล์ของเธอกับโบ๊ท ไม่ใช่คนชอบเที่ยวเลย

(ซ้าย) ฝ้าย-ปริชญา และโบ๊ท ภควัต (1)

"โบ๊ทเป็นคนชอบถ่ายรูป แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องออกไปเที่ยวไปถ่ายรูปที่ไหนค่ะ ส่วนฝ้ายเป็นคนชอบอยู่บ้าน ไม่ค่อยเปิดโลกเท่าไหร่ มีงานอดิเรกคือชอบออกกำลังกาย" โบ๊ทเสริมต่อว่าในระหว่างเรียนอยู่ประเทศอังกฤษก็มีเที่ยวด้วยกันบ้าง แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเที่ยวจริง ๆ  คือการได้ไปกับครอบครัว

"จุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเที่ยวจริงๆ คือเป็นตอนที่อยู่ที่อังกฤษ ตอนนั้นที่บ้านมาเยี่ยมก็มี Road Trip คุณพ่อขับรถไปเที่ยวที่สก็อตแลนด์ แล้วพอเราไปสก็อตแลนด์ ได้ไปเห็นธรรมชาติที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนบนโลกนี้ ไม่เหมือนที่เราเคยเจอมาก่อน ก็เลยคิดว่าขนาดประเทศอังกฤษที่เราอยู่มาตั้งเกือบปียังมีอะไรแปลกประหลาดขนาดนี้ มันก็น่าจะมีที่อื่นบนโลกที่มีอะไรพิเศษมากๆ อีก ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ค้นหาข้อมูลสถานที่ต่างๆ และเราก็ออกไปเที่ยวกันครับ"

(ซ้าย) ฝ้าย-ปริชญา และโบ๊ท ภควัต (3)

ด้านฝ้ายก็เล่าให้ฟังต่อด้วยน้ำเสียงสนุกว่า "ตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่า ชอบการเดินทางขนาดนั้นแต่ว่ามันเป็นปกติที่คนที่มาเรียนอังกฤษจะต้องเที่ยวก่อนกลับไทย ซึ่งเราก็อยากไปนะ อยากไปยุโรป อยากไปใกล้ๆ อังกฤษในโซนเดียวกัน แต่พอคุยไปคุยมา รัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่านี่นา หรือเราจะไปรัสเซียด้วยดี ไปมองโกเลียด้วยดี และตอนนั้นน้องสาวของโบ๊ทเรียนอยู่ที่ประเทศจีน เราก็คิดหรือจะแวะไปหาน้องด้วยดีไหม จนกลายเป็นทริปใหญ่ เป็นทริปนั่งรถไฟจากอังกฤษกลับประเทศไทยไปเลย และก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชอบการเดินทางค่ะ"

ทริปใหญ่ทริปแรกที่เขาและเธอออกเดินทาง จากเดิมคิดเที่ยวใกล้ๆ กลายเป็นการเที่ยวหลายประเทศ และใช้เวลากว่า 70 วัน ซึ่งเขาและเธอก็ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในครั้งนั้นในชื่อหนังสือ A Long Way Home 71 วัน ปลายทางคือบ้าน ระหว่างทางคือเรา ให้อ่านกันแล้วนั่นเอง  

Paka + Prich = Adventure

เห็นจากหน้าเพจ PakaPrich Adventure สถานที่แต่ละแห่งมีความยากในการเดินทางไป และท่องเที่ยวอยู่มาก ทำให้ฝ้ายได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความ Adventure เส้นทางโหดหินแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้ให้ฟังว่า

01 (1)

“ที่มาความ Adventure แบบโหดเหี้ยมอย่างนี้มันมาจากไหน คือพอเรานั่งรถไฟจากอังกฤษกลับมาประเทศไทย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบเดินทาง หรือชอบท่องเที่ยวกันในลักษณะแบบไหน แต่พอไปทริปนั้นเรารู้สึกว่าเข้าโบสถ์กันจนเบื่อมาก พอเดินทางกันไปเรื่อยๆ จนถึงประเทศมองโกเลียซึ่งก็อยู่ในทริป 71 วันที่นั่งรถไฟกลับนะคะ เราได้ไปทัวร์ทะเลทรายโกบี ได้เห็นว่าที่นี่เป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก และเหมือนที่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ฝ้ายได้เห็นทางช้างเผือก เรารู้สึกเลยว่าเราสนุกมาก ทำให้รู้ตัวแล้วว่าเราชอบเดินทางชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ

01 (5)

หลังจากกลับมาก็ไปทำงานประจำกันใช่ไหมคะ ซึ่งพวกเราก็เริ่มๆ เข้าสู่สายเดินเขาอะไรแบบนี้แล้วแต่ยังเป็นเส้นทางง่าย ๆ ที่ใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน หลังจากนั้นพอเราลาออกจากงาน ก็มีความคิดว่า เราควรไปเห็นเอเวอเรสต์สักครั้งในชีวิต ไปเทรกกิ้งที่เนปาลในตอนที่ยังมีแรงยังไปไหว และฉันจะไม่ไปอีกแล้ว

"ก่อนไปฝ้ายก็เห็นรีวิวของพี่คนหนึ่งที่เขาเทรกกิ้งเป็นวงกลมแบบไม่ซ้ำทางเดิน มันจะใช้เวลานานกว่าเดินเส้นปกติ แต่ตอนนั้นคิดแล้วว่าฉันจะไปเส้นทางนี้ ไปทีเดียวเอาให้คุ้ม เอาให้ครบ แต่พอไปถึงเอเวอเรสต์แล้ว บ่นอยากกลับบ้านกันทุกวัน (หัวเราะ) ทางมันหินมาก บอกกับโบ๊ทว่าไม่ไหวแล้วจะกลับดีไหม แต่ระหว่างที่บอกจะกลับดีไหม เราก็เดินจนครบทั้งเส้นตามที่วางแผนไว้ในครั้งแรกค่ะ และพอกลับมาเมืองไทยมันเหมือนเราลืมความเหนื่อยล้า ความยากลำบากต่าง ๆ บนนั้นไป แล้วเราก็เริ่มมองหาที่ใหม่เพื่อออกไปอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งความโหดมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไปแล้วค่ะ (หัวเราะ)"

Adventure = Amazing

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มสร้างเพจ PakaPrich Adventure การเดินทางท่องเที่ยวของพวกเขาได้สร้างความประทับใจให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก โบ๊ทได้เล่าให้ฟังด้วยเสียงอันนุ่มนวลถึงความประทับใจที่เกิดจากคนปากีสถาน ประเทศที่ดูน่ากลัวในสายตาของใครหลายๆ คนว่า

ภูเขา K2 ประเทศปากีสถาน (2)

"ประเทศปากีสถาน หลายคนคิดว่ามันดูน่ากลัวใช่ไหมครับ แต่จริงๆ แล้วคนที่นั่นน่ารัก ต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวมากๆ ล่าสุดที่ผมไปก็ได้ขับรถเที่ยวกัน ซึ่งมีจังหวะหนึ่งผมต้องการเข้าห้องน้ำมาก ก็จอดรถถามหาห้องน้ำ ซึ่งคนที่อยู่แถวนั้นเขาก็บอกผมว่า มีบ้านอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง ไปเข้าห้องน้ำที่บ้านฉันไหม แต่ว่าบ้านของเขาที่ว่าใกล้ๆ ก็ต้องปีนเขาขึ้นไปนะครับ ก็เลยไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำตรงนั้น (หัวเราะ) จากการเดินทางบ่อย ๆ คนในประเทศที่ได้ไปส่วนใหญ่เป็นคนดีครับ เขาอยากต้อนรับนักท่องเที่ยวนะ"

Lençois Maranhenses, Brazil (1)

ด้านฝ้ายก็เสริมถึงสถานที่ ที่ประทับใจในความสวยงามทางภูมิประเทศ "สถานที่ที่ชอบอีก ก็มีทะเลทรายอาตากาม่า (Desierto de Atacama) ที่ประเทศชิลี สถานที่นี้แลนด์สเคปไม่เหมือนที่ไหนเลย เพราะว่ามันมีความตะปุ่มตะป่ำเหมือนดาวอังคาร ใหญ่และกว้างมากๆ แม้จะมีแต่ทราย แห้ง ๆ แต่ว่ามันสวยมากค่ะ"

Huayna Potosí, Bolivia

"พวกเราชอบทั้งทะเล และภูเขา แต่ช่วงที่ผ่านมาก็จะไปภูเขาซะเยอะหน่อย อย่างประเทศปากีสถาน ภูเขาที่เราไปคือภูเขา K2 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งการเดินทางไปมันยากลำบากมาก เพราะต้องนั่งรถจากสนามบิน 30 ชั่วโมง แล้วเดินเท้าต่อไปอีก 5 วันถึงจะไปเห็นภูเขาลูกนี้ แต่มันมหัศจรรย์มาก เราไม่เคยเห็นภูเขาไหนที่มันใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไปเห็นเอเวอเรสต์มาแล้วก็ตามครับ” โบ๊ทเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและกระตือรือร้น จนฉันที่เป็นผู้ฟังนั้น อยากลางานเก็บเสื้อผ้าออกไปเที่ยวทันที ซึ่งเรื่องราวความมหัศจรรย์ของธรรมชาติยังไม่จบ เพราะโบ๊ทเล่าต่อถึงความงดงามอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

"ที่ทะเลเกลือ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย ที่นี่กว้างสุดลูกหูลูกตา พื้นที่กว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ตอนที่พวกเราไปนั้น เพื่อไปดูทางช้างเผือก จริงๆ ผมกับฝ้ายเราเห็นทางช้างเผือกกันบ่อยมาก แต่จังหวะที่ไปเห็นทางช้างเผือกที่ทะเลเกลือนั้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เพราะว่าพื้นผิวมันเรียบไปหมด และมีน้ำขังอยู่ในทะเลเกลือด้วย ก็คือเราจะเห็นทางช้างเผือกทั้งด้านบน และสะท้อนลงมาบนน้ำด้านล่าง เหมือนหลุดไปอยู่ในอวกาศจริงๆ ครับ"

01 (9)

ประสบการณ์คือสิ่งที่ PakaPrich ได้กลับมาจากการท่องเที่ยวของพวกเขาเสมอ “ด้วยความที่พอเราเที่ยวก็จะได้เจอคนหลายคน ทั้งคนท้องถิ่นหรือเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ พอได้ไปสัมผัส ได้ไปคุย ก็จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนหลาย ๆ คนเยอะมาก จนทำให้ความคิดของเรามันตกตะกอน สมัยก่อนฝ้ายเป็นคนที่เพอร์เฟ็คชั่นนิสมาก ๆ ทุกอย่างต้องเป๊ะตามที่เราคิดไว้ แต่พอฝ้ายเดินทางเยอะ ๆ การเดินทางทำให้รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ทำให้ฝ้ายเป็นคนที่ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น มีความสุขกับชีวิตมากขึ้นค่ะ"

โบ๊ทกล่าวต่อว่า "ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างหนึ่งก็คือ การเดินทางทำให้เราตัดสินใจอะไรต่าง ๆ เร็วขึ้น เมื่อก่อนอาจจะเป็นคนคิดเยอะ วางแผนเยอะแล้วไม่ได้ลงมือทำสักที แต่เวลาที่เราเดินทางบ่อยๆ เราจะรู้ว่าเราต้องตัดสินใจอะไรตลอดเวลา และมันก็ไม่ีมีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องรอ

“เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดจะทำอะไร เราก็จะลงมือทำไปเลยครับ"