เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา นับเป็นช่วงความสุขของชาวไทยทุกหมู่เหล่าอย่างแท้จริง เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ผ่านมา
ดังรอยยิ้มและดอกไม้สีเหลืองที่บานสะพรั่งไปทั่วแผ่นดินเป็นตัวชี้วัดเชิงประจักษ์ ที่แม้ต่างชาติยังอัศจรรย์ใจในสายใยรักระหว่างจิตใจชาวไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สืบเนื่องมาอย่างมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ปรากฏราชอาณาจักรไทยสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มาจนถึงราชวงศ์จักรีในรัชกาลปัจจุบัน...
กลับมามองดูบรรยากาศด้านการเมืองในขณะนี้ที่กำลังขับเคลื่อนไปตามระบอบ ผ่านทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ยังออกอาการน่าเป็นห่วงต่อการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยผลพิษทางการเมืองที่แพร่กระจายไปทั่วองคาพยพสังคมไทยสืบมา ตั้งแต่สมัยคณะราษฎร์เร่งรัดเข้ายึดอำนาจการปกครองจากสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่พร้อมในวุฒิภาวะ... ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ จึงดำเนินมาอย่างหกล้มหกลุกตลอดมา..
ความอ่อนแอในด้านการเมืองจึงได้ถ่ายเทสู่การปกครองตามระบอบแบบฝรั่งนิยม ที่ชาวไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่รับ เรื่องของเรื่องจึงกลายเป็นเรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ เกิดขึ้น อันเป็นเหตุให้นำมาเป็นข้ออ้างของกลุ่มอำนาจที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐที่ได้มาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งออกแบบโดยนักกฎหมายไทยหัวใจฝรั่ง ที่ไม่ยอมเข้าใจความรู้สึกของหัวใจชาวไทยว่า แท้จริง... ชาวไทยมีความรู้สึกนึกคิดหรือมีจิตสำนึกเป็นอย่างไร ในวัฒนธรรมแห่งการปกครอง .. เพื่อประชาชน
ความผิดฝาผิดตัว ภาวะความย้อนแย้งสับสน จึงเกิดขึ้น นำมาสู่การจุดประเด็นปัญหาให้พวกมีความรู้เฉลียวฉลาดแต่ขาดคุณความดีใช้เป็นเหตุ เพื่อจุดประกายไปหาผลที่ตนและพวกตนตั้งใจหวังไว้ จึงก่อเกิดภาวะวุ่นวายในสังคม เมื่อมวลชนชาวไทยถูกแบ่งแยกด้วยการตอกย้ำให้แตกต่างในความคิดและหลักการชีวิต จนสายใยรักที่มีต่อกันเริ่มสั่นคลอนอย่างไร้เหตุผล...
ความชุลมุนวุ่นวายในสังคมไทยจึงเกิดปรากฏอย่างไม่เคยมีและยังดำเนินอยู่ต่อไป ดังปรากฏการณ์ในกระแสการเมืองขณะนี้ที่ยังไร้ความเสถียรในทุกด้าน จนเป็นผลให้ขาดความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศต่อสายตานานาชาติ ดังมีการจัดลำดับสังคมไทยอยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง..
ในขณะที่สังคมโลกเคลื่อนไหวไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยกระแสการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีในยุคโลกไร้พรมแดนและกระแสเงินทุนเป็นใหญ่เหนือประชาคมโลก ...ชาวโลกจึงต้องแข่งขันขวนขวายเร่งเพียรเรียนรู้ เพื่อให้ทันภาวะการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน จะได้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ให้กลายเป็นหมู่ชนหรือประเทศที่หลุดกระแส จนไม่สามารถก้าวร่วมไปกับประชาคมโลกในยุคไร้พรมแดนได้
การเมือง เศรษฐกิจ การพัฒนาประเทศ และการศึกษา กำลังถูกพัฒนาการไปอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวไปให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังเข้าสู่ยุค Internet of Things…
แต่อย่างไรก็ตาม .. ถึงแม้ว่าจะต้องพัฒนาเคลื่อนไหวไปตามกระแสโลกที่มีวัตถุนิยมเป็นใหญ่ แต่บนความเป็นจริงของชีวิตที่ต้องดำเนินไปภายใต้กฎธรรมชาติ เราจึงเห็นประชาคมโลกจำนวนมากดังเช่นในประเทศจีน กลับมิได้ทอดทิ้งหลักคุณธรรม .. ความเชื่อมั่นทางจิตวิญญาณที่เป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต การจัดการศึกษาในประเทศเหล่านั้นจึงไม่ได้ทอดทิ้งการพัฒนาทางจิตวิญญาณ เพื่อสร้างคุณธรรมที่จะนำไปสู่การพัฒนาสังคมมนุษยชาติให้ก้าวหน้าและมั่นคงอย่างยั่งยืนในยุคไอที .. ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน ที่ประชาคมในประเทศเราควรศึกษา เพื่อการเตรียมตนเองให้พร้อมต่อการร่วมเดินทางไปกับประชาคมโลกอย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรม อันเป็นสาระธรรมหลักของพุทธศาสนา .. ที่สังคมไทยเราไม่ควรทอดทิ้ง บนการศึกษาเพื่อพัฒนาชีวิตให้ก้าวทันกระแสโลก .. แต่ไม่ควรไร้กระแสคุณธรรม !!
เจริญพร