รอบรั้ว TFEX 

รอบรั้ว TFEX 

มื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา TFEX ได้ดำเนินงานมาครบ 13 ปีเต็ม ย่างเข้าสู่ปีที่ 14

ถ้าเทียบกับคนเราก็เป็นช่วงที่เริ่มก้าวจากเด็กสู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ยังต้องเรียนรู้  ทดลอง ปรับปรุง และเป็นช่วงที่ต้องเตรียมรับกับความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้นเพื่อจะได้เติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคต

อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไป จะเห็นว่าในช่วง 13 ปีที่ผ่านมาTFEX  มีพัฒนาการในหลายมิติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในปี 2561 ที่อยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดที่ 426,213 สัญญาต่อวัน และมีสถิติการซื้อขายต่อวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,355,331 สัญญาในวันที่ 27 มิถุนายน 2561  และได้รับการจัดอันดับเป็นตลาดอนุพันธ์ที่มีปริมาณซื้อขายสูงเป็นลำดับที่ 26 ของโลก (จากสถิติของ FIA: Futures Industry Association)

ที่ผ่านมาสินค้าที่ซื้อขายใน TFEX เป็นสินค้าที่อ้างอิงกับหุ้นและดัชนีหุ้นประมาณ 94% ของปริมาณการซื้อขาย (Stock Futures, SET50 Index Futures & Options) ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่อ้างอิงกับทองคำ ในปีที่ผ่านมา TFEX ได้เปิดซื้อขาย Gold Online Futures ที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้จากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกได้ โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการให้บริการใหม่ Non-Cash Collateral ที่ให้ผู้ลงทุนสามารถใช้หลักทรัพย์อื่นๆ เช่น พันธบัตรหรือหุ้น มาใช้เป็นหลักประกัน (Margin) แทนเงินสดเพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารเงินลงทุนอีกด้วย

ในด้านโครงสร้างผู้ลงทุน ถ้าเทียบตัวเลขปี 2561 เมื่อช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าในด้านโครงสร้างไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก กล่าวคือ ผู้ลงทุนหลักในตลาด TFEX ยังเป็นผู้ลงทุนทั่วไป มีสัดส่วนการซื้อขายคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของตลาด ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศประมาณ 37% และผู้ลงทุนต่างประเทศประมาณ 13% ตามลำดับ  ในด้านบัญชีซื้อขายมีทั้งสิ้นรวม 168,506 บัญชี ซึ่งนับว่ายังน้อยโดยหากเทียบกับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์นั้นอยู่ที่ประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งในประเด็นนี้ก็คงเป็นความท้าทายในการขยายฐานผู้มีบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ให้มากขึ้น

ทั้งนี้หากพิจารณาเข้าไปถึงพฤติกรรมการซื้อขายของผู้ลงทุนทั่วไปของ TFEX พบว่าผู้ลงทุนได้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น เช่น เมื่อ 5 ปีก่อนกว่า 50% เป็นการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด แต่ปัจจุบันมีเพียง 30% ที่ส่งคำสั่งผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด แต่มีการซื้อขายด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น ซึ่งประเด็นนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสะดวกจากเทคโนโลยี ความรู้และความคุ้นเคยของผู้ลงทุนต่อเทคโนโลยีที่มากขึ้น  Lifestyle ที่เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงลักษณะของสินค้าเองที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็ว รวมถึงต้นทุนที่ต่ำกว่า เหล่านี้ทำให้การซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของ TFEX ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น TFEX ได้มีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่มีบัญชีซื้อขายใน TFEX เป็นระยะ รวมทั้งศึกษาข้อมูลของผู้ซื้อขายใน TFEX และพบว่าส่วนใหญ่ผู้ซื้อขายเป็นผู้ชาย (ประมาณ 67%) และประมาณครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 43 ปี ซึ่งเทียบกับข้อมูลในอดีตพบว่ามีแนวโน้มค่าเฉลี่ยลดลงจากในอดีต

นอกจากนี้ผู้ลงทุนใน TFEX ส่วนใหญ่จะมีการซื้อขายสินค้าของ TFEX มากกว่า 1 ประเภท และประมาณ 77% จะมีการลงทุนในตลาดหุ้นด้วย โดย TFEX มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีบัญชีซื้อขายเพิ่มเติม พบว่าผู้ซื้อขายใน TFEX ที่เป็น Active Trader ประมาณ 90% มีแนวโน้มที่จะศึกษาข้อมูลและส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น TFEX จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงผู้ลงทุนและการให้ความรู้ให้สอดรับกับ Lifestyle และพฤติกรรมการซื้อขายที่เปลี่ยนไป ซึ่งปัจจุบัน TFEX ได้เริ่มใช้สื่อดิจิตอลในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ รวมถึงการจัดสัมมนาออนไลน์ในลักษณะที่เป็นห้องเรียนเพิ่มขึ้น หากแต่ยังคงมีการสัมมนาในแบบ Off-Line อยู่เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะพบและพูดคุยกับบริษัทหลักทรัพย์ในการขอคำปรึกษาและรับทราบถึงบริการใหม่ๆ ของบริษัทหลักทรัพย์

Profile ของผู้ลงทุนทั่วไปใน TFEX (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2561)

 สำหรับในปี 2562 นี้ TFEX วางแผนที่จะพัฒนาตลาดอนุพันธ์ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมครบถ้วนและเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีช่องทางลงทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดย TFEX จะดำเนินการเพิ่มหุ้นอ้างอิงชุดใหม่ของ Stock Futures เปิดบริการแลกเงินดอลลาร์รายวันจากสถานะ USD Futures ศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาการซื้อขายสินค้ากลุ่ม Currency Futures และ Gold Futures รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์/หลักทรัพย์ในต่างประเทศ

นอกจากนี้ TFEX ยังคงให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และพัฒนาความสามารถด้านการลงทุนให้กับผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งในส่วนนี้นอกจากการให้ความรู้ในด้านสินค้าแล้ว TFEX จะร่วมมือกับสมาชิกและผู้พัฒนาระบบเพื่อจัดกิจกรรมให้ผู้ลงทุนได้เขาใจถึงการใช้เครื่องมือลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย หรือทดลองเขียนโปรแกรมเพื่อช่วยส่งคำสั่งซื้อขายตามกลยุทธ์ของตนเอง โดยจะมี workshop และการแข่งขัน Algorithmic Trading Challenge รวมทั้งการพัฒนาเครื่องมือลงทุนใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพการลงทุนในปัจจุบันให้แก่ผู้ลงทุนเป็นการติดอาวุธเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.tfex.co.th