ตรรกะธนาธร

ตรรกะธนาธร

ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นว่า กกต.ไม่มีช่องทางกฎหมายแจก “ใบส้ม” ให้กับคุณธนาธรได้ และการตรวจสอบคุณสมบัติขณะนี้น่าจะพ้นเวลาตามกฎหมายเลือกตั้งไปแล้ว

ต้องกระทำด้วยการ สอย” เมื่อรับรองเป็น ส.ส.ไปก่อนแล้วเท่านั้น

ผมอยากให้ กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยดำเนินการเท่าที่กฎหมายให้อำนาจ ไม่ควรกระทำในลักษณะรุมยำหรือผสมโรงข้อหาอื่นๆ ที่เกินกว่าข้อเท็จจริงและบทบัญญัติของกฎหมาย เพราะมิฉะนั้นปัญหาจะบานปลายไม่จบ

แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากให้คุณธนาธรหยุดสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้กับสังคมผ่านวาทกรรมสวยหรูดูดีมีความหวังด้วย อย่างเช่นที่โอดครวญในเฟซบุ๊คทำนองไม่เข้าใจว่าทำไมหน้าที่การหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าวันที่ 8 ม.ค.ตนเองอยู่ที่ไหน กลับกลายเป็นหน้าที่ของตัวคุณธนาธรเอง โดยที่คนกล่าวหาไม่เห็นมีหลักฐานอะไร

ก็ใช่สิ...คุณมีหน้าที่ดีแคลร์ แสดงความโปร่งใส เพราะเป็นเงื่อนไขการเข้าสู่อำนาจรัฐ เหมือนตอนที่คุณแถลงข่าวใหญ่โตว่าโอนหุ้นให้ blind trust จริงๆ กฎหมายไม่ได้บังคับขนาดนั้น แต่คุณก็อาศัยสื่อช่วยกระพือข่าวให้สังคมเห็นว่าตัวเองมาตรฐานสูงกว่านักการเมืองคนอื่น แต่พออีกวันถูกตรวจสอบบ้าง กลับรับไม่ได้ อ้างว่าถูกป้ายสี และยังอ้างว่าคนที่พยายามตรวจสอบ (คุณธนาธรตีตราว่าเป็นพวกโจมตี) ไม่เคยแสดงหลักฐานว่าคุณธนาธรอยู่ที่ไหนในวันที่ 8

เรื่องนี้เปรียบเทียบง่ายๆ นึกถึงเวลาเรากลับบ้านดึก เมียถาม เมียต้องมีหลักฐานไหมว่าคุณอยู่ที่ไหน แต่คุณต่างหากที่ต้องตอบ และหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ให้ได้ สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะคนเป็นสามีกำลังทำสิ่งที่โดยปกติแล้วไม่ทำ หรือไม่ควรทำ เช่น หายไปไม่โทรบอก หรืออ้างว่านัดลูกค้า แต่เมียเช็คแล้วไม่ได้นัด อะไรแบบนี้

เรื่องหุ้นก็เหมือนกัน คุณเริ่มเอง แถลงเอง และทำให้คนสงสัยเอง ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องชี้แจง และถ้าข้อเท็จจริงมันไม่มีอะไรในกอไผ่ ทำไมมันถึงมีคำพูดผิดๆ ถูกๆ ออกมา (แบบนี้ถ้าเป็นชี้แจงกับเมียเขาเรียกมีพิรุธ โดนบ้องหูก่อนแล้ว) และเหตุใดถึงนำความจริงออกมาชี้แจงล่าช้า และเป็นความจริงแบบพิสดารที่แม้แต่บริษัทอื่นของคุณยังไม่ทำแบบนี้

จริงๆ สถานที่อยู่ของคุณในวันที่ 8 ม.ค. ก็เป็นเพียงพยานแวดล้อมที่ทำให้คุณดูไม่น่าเชื่อถือ และอาจเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพราะสาระสำคัญอยู่ที่คุณโอนหุ้นและลงเล่มทะเบียนแจ้งกระทรวงพาณิชย์วันไหน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำ เพื่อยืนยันคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย ถ้า กกต.ไม่ตรวจเทียบกับเอกสารราชการ แล้วจะตรวจจากอะไร ไม่อย่างนั้นก็โอนหุ้นย้อนหลังกันได้ทุกกรณี กฎหมายก็ไม่ต้องบัญญัติคุณสมบัติข้อนี้ เพราะสร้างย้อนหลังได้

ถ้าคุณไม่ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย แล้วยอมรับ ก็แพ้ฟาวล์ ออกจากสนามไปก่อน รอบหน้ามาเล่นใหม่ (ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไม่นาน) และอาจได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าคุณไม่ยอมรับ ดึงดันสร้างหลักฐานเท็จเพราะไม่ยอมแพ้ แบบนั้นคุณคงต้องออกจากสนามถาวร