เปลี่ยนแนวคิด ให้ธุรกิจก้าวทันยุคสมัย

 เปลี่ยนแนวคิด ให้ธุรกิจก้าวทันยุคสมัย

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 Langdon Morris ได้กลายเป็นผู้นำในการให้คำปรึกษาแนะนำด้านนวัตกรรมของ InnovationLabs LLC

ที่นี่เขามีตำแหน่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและพันธมิตรทางธุรกิจอาวุโส นอกจากนั้นเขายังร่วมกับบริษัท FutureLab Consulting ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักคิดชั้นนำของโลกและที่ปรึกษาด้านนวัตกรรม ผลงานที่เขาคิดค้นขึ้นได้รับการยอมรับและนำไปปรับใช้ในองค์กรและมหาวิทยาลัยต่างๆมากมายในการยกระดับกระบวนการนวัตกรรมและบรรลุผลตามที่องค์กรต่างๆกำหนดไว้ หนังสือ 3 เล่มที่เป็นผลงานล่าสุดของเขา Agile Innovation, The Innovation Master Plan และ Permanent Innovation ได้รับการยกย่องให้เป็นหนังสือชั้นนำด้านนวัตกรรมในทศวรรษที่ผ่านมา

 

ปีที่แล้วเขาได้รับเชิญมาบรรยายในหัวข้อ “Be the Innovation Champion Transforming Food and Retail with innovation” เพื่อจุดประกายและปรับแนวคิดให้กับผู้ประกอบการและผู้บริหารองค์กรธุรกิจของสิงคโปร์ ให้เห็นถึงความสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของโลกธุรกิจในยุคนี้ และการแสวงหาโอกาสใหม่ๆจากความคิดที่ก้าวกระโดด โดยวันแรกเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (group session) กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และโน้มน้าวให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของรูปแบบธุรกิจใหม่ (Business Model Innovation) ที่แตกต่างไปจากเดิม การระบุถึงสภาพปัญหาและแรงผลักดันสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนวันที่สองเป็นการลงมือปฏิบัติ (field work) เพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ที่ยิ่งใหญ่และก้าวกระโดด โดยนำผลลัพธ์ที่ได้จากวันแรกมาใช้ระดมสมองและคิดแนวทางที่ดีกว่าเดิม และวันสุดท้ายพูดถึงโอกาสและการสร้างประโยชน์จากมัน โดยคัดเลือกแนวทางที่จะทำให้ได้โอกาสใหม่ในธุรกิจที่ดีที่สุด

 

ความจริงแล้วนวัตกรรมมีความสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไม่ต่างจากบริษัทขนาดใหญ่ แต่หนังสือส่วนใหญ่และบทความต่างๆมักมุ่งเน้นไปที่องค์กรขนาดใหญ่ ในหนังสือ The Innovation Formula ของ Langdon Morris ได้ให้มุมมองเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการและผู้บริหารธุรกิจขนาดเล็กถึงการสร้างนวัตกรรมอย่างไรให้ประสบความสำเร็จแม้ว่าจะมีเวลาจำกัดและเงินลงทุนไม่มากก็ตาม

 

เขากล่าวว่า มีหนังสือดีๆมากมายที่เขียนเกี่ยวกับนวัตกรรม แต่ส่วนใหญ่จะเขียนสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ บริษัทชั้นนำ และองค์กรข้ามชาติ และเนื้อหายังมุ่งเน้นไปที่จะช่วยองค์กรใหญ่เหล่านั้นจัดการหรือรับมือกับปัญหาและแนวโน้มใหญ่ของโลกได้อย่างไร ยังมีหนังสือที่ดีอีกมากที่เขียนเกี่ยวกับธุรกิจเริ่มต้นใหม่ โดยเฉพาะหนังสือแนวแนะนำวิธีปฏิบัติ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหนังสือมากมายนักเกี่ยวกับนวัตกรรมและกลยุทธ์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเขียนมันและหวังว่าจะมีคนสนใจอ่านมัน

 

พวกเราทุกคนรู้ว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถจะอยู่ในสภาพซบเซาและคาดหวังว่าจะอยู่รอดได้เป็นเวลานานในสภาพการแข่งขันในทุกวันนี้ เทคโนโลยีมากมาย โครงสร้างตลาด และความชื่นชอบของลูกค้ากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นแนวโน้มใหม่ ผู้นำต่างรู้ว่าทุกธุรกิจจะต้องตอบสนองโดยการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ด้วยนวัตกรรม

 

แต่นวัตกรรมเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้สำเร็จ บางครั้งดูมันจะเป็นศิลปะมากกว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์เสียด้วยซ้ำ สิ่งหนึ่งคือมันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน (uncertainty) มากมายหลายเท่าทวีคูณ สิ่งแรกคือแรงผลักดันจากภายนอกที่มีความไม่แน่นอนโดยตัวมันเองอยู่แล้ว สิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีหนทางใดเลยที่เราสามารถคาดการณ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงต้องเตรียมการสำหรับอนาคตที่ไม่มีใครรู้หรือคาดเดาได้ โดยการศึกษาทางเลือกหลากหลายต่างๆในอนาคตไว้ก่อน ไม่ใช่รอมารู้จนนาทีสุดท้ายที่เราจะต้องกระทำอะไรบางอย่างแล้ว หรือจะต้องตัดสินใจหยุดดำเนินการมัน เมื่อการเปลี่ยนแปลงแผ่ขยายออกไปและอนาคตจะมาถึงในแต่ละวัน สิ่งที่สองของความไม่แน่นอนคือมันอยู่ในกระบวนการสร้างนวัตกรรมอยู่แล้วโดยธรรมชาติ เมื่อใดที่กระบวนการนี้เริ่มต้นนั่นหมายความว่าเรากำลังทำอะไรบางอย่างที่เราไม่แคยทำมาก่อนเพื่อสร้างบางสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อน

 

เคยมีรายงานว่าไอน์สไตน์ได้กล่าวว่า “ที่เรียกว่าวิจัย (Research) เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร” และคำกล่าวที่หยิบยกมานี้แสดงถึงจิตวิญญาณของคนที่มีความมุ่งมั่น ค้นคว้า คิดหาคำตอบ

 

3M บริษัทนวัตกรรมชั้นนำของโลก มีปรัชญาหรือแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญซึ่งผมเคยอ่านเจอในเอกสารฉบับหนึ่งว่า “นวัตกรรมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นผลผลิตจากความมุ่งมั่น ตั้งใจ และกล้าริเริ่มสิ่งใหม่ โดยมุ่งหวังให้เกิด 2 สิ่งสำคัญคือ (1) สร้างความพึงพอใจและประทับใจอย่างที่สุดแก่ลูกค้า (Delight your customer) และ (2) ทำให้พนักงานของเรากล้าแข็ง มีความรู้ความสามารถมากขึ้น (Enable your workforce)

 

โดยมี Bottom Line หรือบรรทัดสุดท้ายของการดำเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างจากองค์กรทั่วไปที่มุ่งกำไรสุทธิในแต่ละปี หากแต่ 3M ได้ระบุไว้ว่า “Research is the transformation of money into knowledge.” และ “Innovation is the transformation knowledge into money.”  

 

ซึ่ง Langdon Morris ยังเขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า ผู้นำทางธุรกิจมากมายไม่ชอบความไม่แน่นอน และเกลียดมันด้วยซ้ำไป พวกเขาต่างรู้ดีว่าเมื่อจะเข้าสู่นวัตกรรม พวกเขาจะต้องเจอมัน มีน้อยคนที่จะกล้า ดังนั้นจึงมีไม่กี่องค์กรที่สามารถเป็นองค์กรนวัตกรรมได้