ในที่สุดหนีไม่พ้น “กฎแห่งกรรม” !!

ในที่สุดหนีไม่พ้น “กฎแห่งกรรม” !!

เจริญพรสาธุชนผู้เคารพธรรม...วิกฤติการณ์ดินฟ้าอากาศกำลังคลี่คลายไปตามเหตุปัจจัย ทั้งที่เป็นไปตามความเป็นธรรมชาติ ที่อยู่ภายใต้ธรรมนิยาม

และเป็นไปตามเหตุปัจจัยเสริมสนับสนุนของมนุษย์ที่เป็นไปตามกรรมนิยาม (กฎแห่งกรรม)

สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในทุกกาลสมัย ภายใต้ความสัมพันธ์ของกรรมนิยามและธรรมนิยาม ที่สืบสานผ่านความเป็นจิตนิยาม

เมื่อไรที่จิตแสดงเจตนาหรือเจตจำนง (Intention) ความจงใจที่จะกระทำสิ่งใด กฎเกณฑ์กรรมก็จะเข้ามาควบคุมดูแลหรือบริหารจัดการ เพื่อให้อยู่ภายใต้ “ธรรมนิยาม” หรือความเป็นจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ ที่เรียกว่า ธรรม (ธัมมะ) ..

สัตว์มนุษย์จึงต้องศึกษาให้เข้าใจในตัวธรรม (ธัมมะ) ที่ปรากฏมีอยู่เป็นปกติในธรรมชาติ เพื่อความเข้าใจ เชื่อมั่นในกรรม วิบาก และกัมมัสสกา ที่เรียกว่า ศรัทธา ๓ อันเป็นความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติที่จะนำมาบริหารชีวิตเพื่อให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ อย่างมีประโยชน์สูงสุดที่ควรจะได้รับจากธรรมชาติ ซึ่งจักต้องสัมพันธ์กันไปอย่างยากที่จะปฏิเสธ ก่อนจะก้าวไปสู่ความเข้าใจเชื่อมั่นในธรรมขั้นสูงสุดที่ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง ที่เรียกว่า อริยสัจธรรม มี ๔ ประการ (อริยสัจสี่) เพื่อการบรรลุถึงประโยชน์และความสุขอันเป็นที่สุดของความสิ้นทุกข์หรือพระนิพพานนั่นเอง

การศึกษาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา จึงมุ่งสู่การสร้างปัญญาให้เกิดขึ้นในจิตใจ เพื่อการดำเนินชีวิตไปอย่างมีสัมมัปปัญญา รู้จักใช้ประโยชน์จากหลักธรรมที่มีอยู่ในธรรมชาติ ด้วยความเข้าใจอย่างเป็นปกติว่า ธรรมชาติดำเนินไปตามเหตุปัจจัยเป็นหน้าที่โดยธรรม เพื่อการสร้างสมดุลในธรรมชาติ

ธรรมชาติไม่มีจิตใจ ..ไม่แสดงเจตนาคิดร้ายป้ายสีหรือชื่นชมยินดีกับใครๆ มุ่งดำเนินไปตามวิถีธรรม บางคราวก็นุ่มนวลละมุนละไม แต่ในบางคราวกลับดุดันรุนแรง ทั้งนี้ ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้นๆ...

ต่างกับมนุษย์เราที่มีจิตใจ มีเจตนาในการมุ่งเข้าไปกระทำ หวังผลตามความยินดี-ยินร้าย จึงมีการอบรมสั่งสอนให้มนุษย์เราเข้าใจกฎธรรมชาติ คือ เข้าใจหลักธรรม เพื่อนำความรู้ความเข้าใจที่ตรงธรรม มาควบคุมพฤติจิตของมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย ให้ดำเนินไปตามกระแสธรรมอย่างไม่วิบัติไปจากธรรม

วันนี้ หลากหลายเรื่องราวในสังคมบ้านเรา กำลังเข้าสู่กระบวนการของธรรมชาติ ที่กำกับดูแลด้วยความยุติธรรมอย่างเป็นสากล.. อย่างยากนักที่ใครๆ จะปฏิเสธได้ จึงควรอย่างยิ่งที่สาธุชนจะดำเนินชีวิตไปอย่างมีสติปัญญา เคารพธรรมและเคารพกฎหมายบ้านเมืองที่มีมาตรฐานตรงตามธรรม .. เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศในยุคโลกไร้พรมแดน ที่ยากจะปกปิดได้อย่างแต่ก่อน ... คนรุ่นใหม่ .. มีความคิดก้าวหน้า สร้างสรรค์ จึงอย่าได้ไปหวาดวิตกกับกระบวนการยุติธรรม ที่กำกับดูแลด้วยกฎแห่งกรรมอีกชั้นหนึ่ง หากเราถูกต้องชอบตรงโดยธรรม ไม่ต้องกลัวเลย เพราะไม่ว่าบิ๊กไหนๆ หรือใครๆ ในที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม – อำนาจแห่งธรรม ที่ปรากฏมีอยู่อย่างเป็นปกติในธรรมชาติสักราย .....

นี่คือสัจธรรมที่กำกับดูแลโลกใบนี้มาในทุกสมัย !!