ยาลดความอ้วน อาจไม่ใช่แค่เรื่องของแพทย์ที่ถูกกล่าวหา***

ยาลดความอ้วน อาจไม่ใช่แค่เรื่องของแพทย์ที่ถูกกล่าวหา***

ประชุมกมธ.สาธารณสุข วันนี้เป็นเรื่องการกระทำความผิดของกลุ่มแพทย์ ที่นำยาลดความอ้วน (Phentermine) ออกนอกระบบโดยขัดต่อกฎหมาย

เป็นการประชุมเพื่อสอบถามกระบวนการขั้นตอนของหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และแพทยสภา ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้มีวิชาชีพแพทย์ เพื่อที่ดูในภาพรวมว่าจะหาทางป้องกันมิให้เกิดปัญหาเช่นว่านี้ในอนาคตอย่างไร ควรแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ วิธีการ กระบวนการในการอนุญาตและติดตามตรวจสอบการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์อันเป็นการขัดต่อกฎหมายอย่างไร

ยาลดความอ้วน อาจไม่ใช่แค่เรื่องของแพทย์ที่ถูกกล่าวหา***

ภาพผลการปฏิบัติงานของ ตำรวจ ป.ป.ส. และ อย. แถลงเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พบพฤติกรรมการรับเงินจากผู้ต้องหา เพื่อเป็นค่าจ้างในการเป็นผู้สั่งจ่ายยาให้กับลูกค้า  

เรื่องนี้เป็นข่าวดังเมื่อไม่กี่วันมานี้เพราะมีแพทย์ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องหลายคนด้วยกัน

จริงๆ ได้มีการเชิญเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาแล้ว แต่ทาง ปปส. ไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลเพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งจริงๆ แล้ว ทาง กมธ.ก็ไม่ได้ต้องการทราบข้อมูลเชิงลึก แต่ต้องการทราบภาพรวมของการดำเนินการเท่านั้น

ที่ประชุมได้ให้ผู้ชี้แจงอธิบายความเป็นมาของเรื่องนี้ ซึ่งโดยหลักๆ ก็คือมีพฤติการณ์ในลักษณะที่สมคบกัน ร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันเพื่อนำยาลดความอ้วน (Phentermine) ออกนอกระบบโดยใช้ใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ของแพทย์เป็นใบเบิกทาง ซึ่งมีความผิดระวางโทษถึงขั้นจำคุกและปรับที่รุนแรงมาก

การซักถามของกรรมาธิการท่านอื่นๆ นั้น เน้นเรื่องกระบวนการอนุญาตและการควบคุมการใช้วัตถุออกฤทธิ์ เพื่อป้องกันการนำวัตถุออกฤทธิ์ไปขายให้ประชาชน ซึ่งทาง อย.ก็ชี้แจงกระบวนการขั้นตอน

แต่สิ่งที่น่าสังเกตุก็คือ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำกันมานานและต่อเนื่อง ซึ่งทาง อย.ก็ทราบ แต่อ้างว่าไม่มีความสามารถในการเข้าจับกุมเพื่อดำเนินคดี จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ปปส.ในการจับกุมครั้งนี้ ผลการจับกุม ไม่พบว่าแพทย์ทั้งหมดมียาลดความอ้วนดังกล่าวไว้ในครอบครอง และให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยกเว้นบางคนที่ให้การภาคเสธคือรับบางส่วนไม่รับบางส่วน

ได้ขออนุญาตท่านประธานว่า ขอซักเช่นเดียวกับการซักพยานในศาลเกี่ยวกับการทำงานของ อย. เพราะดูเหมือนว่า อย.อาจมีส่วนในความผิดที่เกิดขึ้นด้วย เมื่อท่านประธานอนุญาต จึงได้ถามผู้ชี้แจงจาก อย.เป็นข้อๆดังนี้

ถาม... ยาต้องห้ามนี้ออกจาก อย.ใช่หรือไม่

ตอบ... ใช่ เพราะเป็นยาของ อย. ไม่ใช่ยาจากภายนอกที่นำเข้าหรือลักลอบนำเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย

ถาม... อย. เป็นหน่วยงานของรัฐใช่หรือไม่

ตอบ... ใช่ เป็นหน่วยงานของรัฐ

ถาม... เจ้าหน้าที่ อย.จึงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ใช่หรือไม่

ตอบ... ใช่ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

ถาม... เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานก่อนมีการจับกุมครังนี้หรือไม่ 

ตอบ... เกิดขึ้นมานานแล้ว

ถาม...เจ้าหน้า อย. ก็มีความสงสัยในพฤติกรรมการขอออกยานี้มานานแล้วใช่หรือไม่

ตอบ...ใช่ แต่ อย. ไม่มีศักยภาพในการดำเนินการจับกุม

สรุปก็คือว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด เกิดมาก่อนหน้ามีการจับกุมแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ อย. ก็ยังออกยาให้ ทั้งๆที่เป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยมาโดยตลอด

นั่นหมายถึงว่า อย. รู้อยู่แล้วว่ามีการกระทำความผิด แต่ อย. โดยเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ออกยาก็ยังออกยาให้การกระทำของเจ้าหน้าที่ อย. ถือว่าเข้าข่ายกระทำโดยเจตนาออกยาที่เป็นวัตถุมีฤทธิ์ต่อจิตประสาทโดยเล็งเห็นผลว่ายานี้อาจนำไปใช้โดยไม่ชอบและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หรือถ้าไม่ใช่เรื่องเจตนาก็อาจเป็นเรื่องประมาทเลินเล่อ เพราะแม้เป็นเรื่องไม่เจตนา แต่ก็ปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ ซึ่งอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาใช้ให้เพียงพอไม่

เรื่องนี้จึงถือว่า อย.อาจมีส่วนผิดในการออกยาด้วย และอาจจะต้องรับผิดในทางกฎหมาย ถือเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของ อย. (โดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ) และถ้าอัยการเห็นสมควร ก็อาจฟ้อง อย.ได้ เพราะเป็นคดีอาญา ส่วนเรื่องกลุ่มแพทย์ที่ถูกจับกุมเพื่อดำเนินคดีนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็ต้องไปว่ากันตามรูปคดีและความเกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอนของการกระทำความผิด

ในการประชุม จึงไม่ได้จบที่การดำเนินคดีกลุ่มแพทย์ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมีหลักฐานปรากฎเป็นที่แน่ชัด และอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่ปรากฎว่าพบหลักฐานว่าคลีนิกของแพทย์เหล่านี้มียานี้ในครอบครองแม้แต่แห่งเดียว ส่วนแพทยสภาก็คงต้องรอผลของคดีความ คงทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเพียงการกล่าวหา

*** ชื่อเต็มเรื่อง: การนำยาลดความอ้วนออกจาก อย. อาจไม่ใช่แค่เรื่องของแพทย์ที่ถูกกล่าวหา