อนาคตคนสีส้ม....

อนาคตคนสีส้ม....

“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้นไม่รู้ว่าผูกกรรมอะไรไว้จึงต้องเผชิญโชคกับโลกการเมืองไทยเเบบลุ้นกันเหงื่อหยด

ล่าสุดหัวหน้าพรรคสีส้มจึงรีบกลับจากยุโรปเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อันไม่คาดคิด เพราะกกต.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา ให้มาชี้แจงภายใน7วัน 

"หุ้นสื่อคือหุ้นต้องห้ามที่คนการเมืองต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนลงสนาม เเต่เมื่อมีสิ่งบ่งชี้บางอย่างเเละมันเเคลงใจ เเม้“เอก อนาคตใหม่”ชี้เเจงไปบ้างเเล้ว รวมทั้งเลขาธิการพรรคปิยบุตร เเสงกนกกุลจะกางตำรากฎหมายไขความข้อกล่าวหาต่างๆนานาเพื่อชี้เเจงว่า “เอก อนาคตใหม่”ไม่เข้าเงื่อนไขใดๆที่จะผิดกติกา

จะว่าไปเเล้ว ในช่วง 300 กว่าวันที่เมืองไทยรู้จัก”อนาคตใหม่”ในฐานะพรรคการเมืองนั้น พรรคสีส้มนี้วูบวาบซาบซ่าขึ้นมามีข่าวเเบบไม่หยุด เเละตั้งเเต่สร้างปรากฏการณ์คว้าอันดับสามบนกระดานเลือกตั้งได้ทั้งส.ส.เขตเเละปาร์ตี้ลิสต์กว่าเเปดสิบคน

...เเต่บางคราวพลังคนหนุ่มที่ตะบึงไปข้างหน้าโดยมิเเลเหลียวบางสิ่งบางอย่างบนเวทีการเมืองนั้น พลังคนรุ่นใหม่ก็ควรที่จะนำไปพินิจไว้บ้างกับการกำหนดจังหวะก้าวทางการเมือง

เหตุที่ศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวเเละนักร้องเรียนคนดังของเมืองไทยดำเนินการเอาความกับเอก อนาคตใหม่"นั้น จะมองว่าเลือกปฏิบัติก็ไม่ใช่ เพราะชายคนนี้ร้องเรียนเเทบทุกเรื่องราวหากพอมีประเด็น เเละหลายเรื่องยกคำร้องไปมิใช่น้อย

ฉะนั้นสิ่งที่ศรีสุวรรณกระทำไว้ย่อมมิได้ให้คุณให้โทษกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นการเฉพาะ เเต่ในเมื่อมีสิ่งที่มีเป็นข้อพึงสงสัย นักร้องก็ขยับเป็นปกติวิสัย หากมีมูลก็โอเคไป หากยกคำร้องก็จบไป

บางคนมองว่า หากเกิดก่อนวันที่9พ.ค. เส้นทางอนาคตใหม่อาจจะจบ เพราะคะเเนนที่พรรคสีส้มได้มาเสมือนไร้ผลทางเลือกตั้ง เเต่การที่คนไทยไปกาเเต้มให้พรรคนี้ทั่วไทยจะทำเช่นใด ต้องเลือกตั้งใหม่หรือไม่ หรือหากจะจัดการเเบบเฉพาะตัวกับเอก อนาคตใหม่คนเดียวเเล้วปล่อยลูกพรรคไว้...มันจะเกิดขึ้นจริงได้กระนั้นหรือ...

หาก“เอก อนาคตใหม่”จะต้องหมดเวลาทำงานการเมืองก่อนวัยอันควร ว่าที่ส.ส.พรรคสีส้มจะมีสถานะเเบบใด เพราะเเปดสิบกว่าชีวิตที่สังกัด”อนค.”นั้นคือตัวเเปรหลักบนเวทีการเมืองไทยที่มีค่าอันเเทบประเมินมิได้สำหรับขั้วต้านลุงตู่เเละขั้วหนุนลุงตู่เลยทีเดียว

พรรคสีส้มยามนี้ยุ่งขิงเเละลุ้นเเทบทุกวันไม่น้อยหน้าพรรคไทยรักไทยในยุคที่”อัศวินควายดำ”ต้องสู้คดีซุกหุ้นตั้งเเต่ก่อนหย่อนบัตรจนถึงช่วงพิพากษา โดยยามนั้นทักษิณ ชินวัตร ทำหน้าที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติไปรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเเละหลุดคดีมาเเบบฉิวเฉียดท่ามกลางข้อครหาต่างๆนานาในช่วงนั้น

จากนั้นเสียงวิพากษ์ระบบยุติธรรมในคดีนี้ของชายคนนั้นก็ออกมาเเบบไม่ขาดสาย เพราะนิสัยปากไว คิดเร็ว ทำเร็ว

จนกลายเป็นสิ่งที่หลายคนไม่พอใจกับสิ่งที่อัศวินควายดำเเสดงไว้เเละยามนี้เจ้าของวรรคทองฟ้ารักพ่อก็มีอะไรบางอย่างที่คล้ายอัศวินควายดำไปเเล้ว

โดย... 

นักข่าวหมายเลข 10