มอเตอร์โชว์ 2019 กับการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล

มอเตอร์โชว์ 2019 กับการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล

การจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2522 ที่สวนลุมพินี เป็นงานที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์

ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์อุปกรณ์การตกแต่ง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้การยอมรับ เป็นงานมอเตอร์โชว์เบอร์หนึ่งของอาเซียน ที่ได้รับการรับรองจาก OICA (Organization International des Constructeurs d’Automobiles) บรรจุเข้าอยู่ในปฎิทินงานมอเตอร์โชว์ของโลก มีผู้เข้าร่วมชมงานและจองรถยนต์เป็นจำนวนมาก

งาน Motor Show 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นการจัดงานครั้งที่ 40 อยู่ในช่วงเวลาหลังการเลือกตั้งที่ยังคงมีความสับสนวุ่นวาย ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่แท้จริงไม่ดีนัก แต่ยังมีผู้เข้าชมงานกว่า 1.6 ล้านคน ตัวเลขยอดจองรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ในงานสูงถึง 49,278 คัน เพิ่มจากครั้งก่อน 15% แบ่งเป็น รถยนต์ 43,935 คัน (รถยนต์เครื่องสันดาปภายใน 37,769 คัน และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 6,166คัน) มอเตอร์ไซค์ 5,343 คัน

ผมมีโอกาสได้ไปร่วมชมงานหลายครั้ง ได้มีโอกาสได้สนทนากับ ดร ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล

จำกัด(มหาชน) ประธานจัดงานตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันนานถึง 40 ปี ปัจจุบันอายุ 70 กว่าปีแล้ว แต่ยังคงมีพลังในการขับเคลื่อนงานมอเตอร์โชว์ตลอดมา

ดร.ปราจิน บอกผมว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมากถ้าไม่ปรับตัวก็จะถูก Disruption จนกิจการไม่สามารถอยู่ได้ ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วยการซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น แต่การซื้อรถยนต์ผู้บริโภคยังคงต้องการสัมผัสสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ จึงไม่ห่วงผลกระทบต่อผู้เข้าชมงาน แต่ก็ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี โดยได้ร่วมมือกับบริษัท วายดีเอ็ม(ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในผู้นำการให้บริการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น เก็บรวบรวม Big Data สำรวจเจาะลึกพฤติกรรมผู้เข้าชมงาน ครั้งที่ 40 ในแง่มุมต่าง ๆ นำมาวิเคราะห์พฤติกรรมความต้องการ เป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการยานยนต์ทำตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย นำเสนอบริการทางการตลาดใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในแง่ของการแสวงหาโอกาสทางการตลาดในยุค Digital ได้จัดให้มีการแข่งขัน eRacing Sport เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เป็นการต่อยอดประสบการณ์จากการับจัด

แข่งขันมอเตอร์สปอร์ต โดยร่วมมือกับบริษัท ดูทีวีมีเดีย จำกัด และ บริษัท คอมเมอร์เชียล ซายส์ จำกัด เปิดตัวการแข่งขันเกมส์แข่งรถออนไลน์ Gran Turismo Sport สนามแรกผ่านระบบ Life Streaming ได้รับลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตเกมและรับรองการแข่งขันจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยจะขยายสนามการแข่งขันออกสู่ต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มรายได้จากสปอนเซอร์ ปีแรกคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 12 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย จำหน่ายบัตรเข้าชมงานงานผ่านแอพพลิเคชันพลัส ทำแคมเปญจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าก่อนเริ่มงาน 40 วัน ในราคาพิเศษ

40 บาท จากราคาปกติใบละ 100 บาท ผู้ซื้อบัตรสามารถกรอกแบบสอบถามทางออนไลน์ ด้วยการพิมพ์ QRCode ลงบนบัตร เปิดตัวแอพพลิเคชั่น CAR BUDDY BY GPI ให้ลูกค้าใช้รหัส E-Ticket Code เพื่อสร้างตั๋วเข้าชมงานในสมาร์ทโฟน เป็นการนำ Technology Fintech มาประยุกต์ใช้กับงานมอเตอร์โชวเป็นครั้งแรก

การปรับตัวโดยการยอมรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เป็นวิสัยทัศน์ของ ดร ปราจิน ที่น่าชื่นชมเป็นแบบอย่างที่ท่านผู้ประกอบการควรใช้เป็นกรณีศึกษาในการดำเนินธุรกิจในยุคที่เท็คโนโลยี่มีการเปลียนแปลงอย่างรวดเร็ว

งานมอเตอร์โชว์ 2019 มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในส่วนพื้นที่อุปกรณ์ประดับยนต์ต่าง ๆ ลดลงจากเดิมประมาณ 40% เพราะการหดหายไปของกลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ต้องเผชิญกับปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่ยอดจองรถยนต์หรูราคาแพงที่เป็น Brand ชั้นนำเพิ่มขึ้นมาก แสดงว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ น่าจะกระจุกตัวในกลุ่มคนรวยเท่านั้น

งานมอเตอร์โชว์สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศทุกปีครับ..