สู่ครอบครัวร้อยปี

สู่ครอบครัวร้อยปี

ต้องมีทั้งวิสัยทัศน์ที่เป็นเลิศและทักษะทางการบริหารชั้นยอด

ประเมินกันว่าองค์กรธุรกิจของไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าความท้าทายในการบริหารธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในทุกวันนี้ย่อมส่งผลกระทบถึงธุรกิจเหล่านี้อย่างรุนแรง

แม้ว่าโลกจะหมุนเร็วขึ้นด้วยอัตราเร่งจากเทคโนโลยีและกระแสดิจิทัลที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ธุรกิจครอบครัวหลายๆ แห่งยังคงใช้ผู้บริหารที่เป็นคนในยุคบุกเบิกกุมบังเหียนอยู่ มีเพียงส่วนน้อยที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานก้าวขึ้นมาแทนที่

ลองดูผู้บริหารสูงสุดในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบ้านเราจำนวนมาก จึงมีอายุเกินกว่า 60 ปีเพราะบริษัทเหล่านี้ยังไม่มีแผนในการเปิดให้คนรุ่นใหม่รับช่วงบริหารงาน ขาดการวางแผนเพื่อสานต่อ หรือแย่ไปกว่านั้นคือคนรุ่นเก่ายังไม่คิดจะวางมือจากธุรกิจเลย

ความคาดหวังว่าธุรกิจครอบครัวเหล่านี้จะขยายตัวและเติบโตสู่ความเป็นองค์กรร้อยปีจึงทำได้ยากยิ่งนัก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วมีปัจจัยเพียงไม่กี่ประการเท่านั้นที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจครอบครัวไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้สำเร็จ

เริ่มตั้งแต่ประการแรกคือการวางแผนให้มีผู้สืบทอดกิจการอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องมีความโปร่งใสและชัดเจน เอื้อให้คนมีฝีมือและความสามารถได้โอกาสทำงานโดยการวางระบบที่ดีต้องทำให้คนทั้งสองรุ่นเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อลดช่องว่างในทุกๆ ด้านลงให้มากที่สุด

การที่คนในรุ่นถัดมาต้องทำงานโดยไม่รู้เป้าหมาย หรือมองไม่เห็นว่าคนรุ่นก่อนจะเปิดโอกาสให้เมื่อไร จะทำให้องค์กรขาดความชัดเจนและส่งผลเสียต่อการวางแผนในระยะยาวอย่างมหาศาล รวมถึงไม่มีแผนรับมือหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดกับคนรุ่นก่อนเพราะมีความไม่แน่นอนอยู่เต็มไปหมด

ประการที่สองคือต้องมีธรรมนูญของกิจการในครอบครัว เช่นเดียวกับที่เคยยกตัวอย่างใน Think out of The Box ฉบับที่แล้วคือคิคโคแมนที่ยังคงขยายธุรกิจให้เติบโตสู่ระดับโลกได้แม้จะก่อตั้งมากว่า 400 ปีและมีผู้สืบทอดกิจการมาถึง 15 รุ่นแล้วก็ตามเพราะเขามีธรรมนูญในการบริหารกิจการที่ชัดเจน โปร่งใส

ธรรมนูญที่ดีจะทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมกับธุรกิจ เพราะมีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรของตัวเอง มีสมดุลของการเป็นธุรกิจที่ดีและรักษาเจตนารมณ์ดังเดิมของผู้ก่อตั้งสร้างความศรัทธาให้คนทำงานทุกคน

ประการที่สาม เน้นคนที่มีความสามารถไม่ใช่เน้นว่าเป็นคนของใคร เพราะการแข่งขันในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ผันผวนรุนแรงเช่นนี้คนที่จะนำให้ธุรกิจครอบครัวอยู่รอดไปได้ต้องมีทั้งวิสัยทัศน์ที่เป็นเลิศและทักษะทางการบริหารชั้นยอดเท่านั้น

เพราะทุกวันนี้เราจะเห็นแต่ข่าวการล่มสลายของธุรกิจที่ก่อตั้งมาเป็นร้อยๆ ปีต้องเพลี่ยงพล้ำพลาดท่าให้กับการแข่งขันทางธุรกิจ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รวมไปถึงระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิม ความสำเร็จที่เคยสั่งสมมาในอดีตจึงไม่อาจช่วยอะไรได้เลยในทุกวันนี้

ประการสุดท้ายจึงเป็นเรื่องของการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ต้องมีเรดาร์ที่รวดเร็วพอในการมองหาวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นแล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นโอกาสของตัวเองให้เร็วที่สุด เพราะเราไม่อาจหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึงได้ การเรียนรู้และยอมรับมัน รวมถึงหาโอกาสจากมันให้ได้มากที่สุดจะช่วยให้เราฝ่าฟันไปได้สำเร็จ

นับจากนี้ไปจึงเป็นทั้งโอกาสและวิกฤติที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจครอบครัว ซึ่งขึ้นอยู่กับทายาทผู้สืบทอดกิจการว่า การขึ้นมาบริหารงานเป็นไปด้วยความเหมาะสม และมีความสามารถเพียงพอ ก็อาจจะนำพาธุรกิจครอบครัวนี้ให้ขยายใหญ่เติบโตต่อไปได้สำเร็จ