ส่งศาลรธน.ชี้ขาดส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทางออกจากวิกฤตของกกต.

ที่มุ่งโจมตีกล่าวหาว่าการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองบางพรรค

พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาดักทางขย่ม กกต. ให้เปิดเผยสูตรการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แทบทุกวัน ไม่มีมุกใหม่มาสู้ ทำได้แค่กางสูตรเก่า เพื่อออกมาบลั๊ฟการคำนวณสูตร โอเวอร์แฮงค์ ที่เฉลี่ยเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ให้กับพรรคการเมืองเล็ก ที่มีคะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี

พรรคแนวต้าน กกต. ก่อตัวเป็นแนวร่วม เคลื่อนไหว ใต้ดิน-บนดิน เพื่อดิสเครดิต กกต. ไม่ให้มีความชอบธรรมในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ยิ่งหากยึดการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แบบ โอเวอร์แฮงค์ จะยิ่งต้องเคลื่อนกำลังพลกันอีกครั้ง

เนื่องจาก ส.ส.ปาตี้ลิสต์ แนวร่วมที่ลงสัตยาบันจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยมีพรรคพท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เสียงจะหายจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ หากยึดการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แบบจัดสรรให้พรรคที่ได้เสียงตามจำนวน ส.ส.พึงมี

คาดการณ์ว่า พรรคอนาคตใหม่ จะมีส.ส.อยู่ที่ 87 ที่นั่ง แต่หากคำนวณแบบโอเวอร์แฮงค์ จะเหลือเพียง 80 ที่นั่ง ทำให้คะแนนของพรรคอนาคตใหม่หายไปอย่างน้อย 7 ที่นั่ง ส่งผลสะเทือนไปถึงแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาลทันที เพราะเสียงจะไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่ 251 เสียงทันที

ดังนั้น พรรคแนวร่วมสัตยาบัน ต้องยื้อไม่ให้ กกต. ใช้สูตรโอเวอร์แฮงค์มาคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เช่นนั้นโอกาสที่จะขัดขวางไม่ให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช. กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯคงยากเต็มที

ทว่าช่วงนี้ต้องหลบให้เทศกาลสงกรานต์ไปก่อน เนื่องจาก แฟนคลับ-ฐานเสียง ต้องหลบร้อนการเมืองกลับภูมิลำเนา ทำให้พรรคพท. นัดหมายยื่น กกต. ทบทวนสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ในวันที่ 21 เม.ย. พร้อมนัดประชุมใหญ่พรรคพท. เพื่อเช็ค ว่าที่ส.ส.พท. ว่ายังเกาะกันเหนียวแน่นดีหรือไม่

ภายหลังการบังคับให้ ว่าที่ส.ส. ลงสัตยาบันไม่แปลงร่างเป็น “งูเห่า” ต้องล่มไป แถมกระแสจัดงานรดน้ำสงกรานต์บรรดาแกนนำ ดูจะเป็นมุกจืดที่จับได้ไล่ทันว่าต้องการเช็คชื่อ ว่าที่ส.ส. ค่อยข้างเงียบเหงา

เมื่อทุกองคาพยพพุ่งเป้าโจมตีมาที่ กกต. ขู่กันโจ่งๆว่าจะดำเนินคดี หากดึงดันไปอาจจะ ตายเดี่ยว ได้ ฉะนั้นทางออกคือการส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความเพื่อเป็นเกาะกำบังไม่ให้ กกต. โดนดำเนินคดีในภายหลัง

ที่สำคัญหาก ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมาทางใดทางหนึ่ง ก็สามารถดับกระแสต่อต้าน กกต. ได้ไปมากพอสมควร เพราะอย่างน้อยคำชี้ขาดของ ศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมผูกพันให้ทุกองค์กรยอมรับ

หลังเทศกาลสงกรานต์น่าติดตามว่า การเคลื่อนพลของพรรคพท. ที่เกิดรอยร้าวขึ้นในพรรค แกนนำเดินกันคนละทิศทาง จะสามารถปลุกระดม แนวร่วม ให้มีพลังมากพอที่จะกดดันให้ กกต. คำนวณสูตร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ตามที่ พรรคแนวร่วมสัตยาบัน ได้ตั้งธงไว้หรือไม่

ขณะที่ กกต. มีเวลาไม่มีวันที่จะส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีดังกล่าว เพราะมีเงื่อนตาย 9 พ.ค. ที่ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง การเมืองหลังเทศกาลสงกราต์กลับมาร้อนฉ่าแน่นอน

โดย... หมัดเมา