ความเหลื่อมล้ำในตลาดหุ้นไทย

ความเหลื่อมล้ำในตลาดหุ้นไทย

สิ่งเดียวที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ความสำคัญ คือ 'ความแน่นอน' ตลาดหุ้นไม่ได้มี 'อุดมการณ์'

บทสรุปของการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา กลายเป็นการ 'แพ้ชนะกันไม่ขาด' ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายที่สนับสนุนผู้นำคนเก่า ส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงลงถึง 20.38 จุด ในวันจันทร์ที่ 25 ซึ่งเป็นวันทำการวันแรก

การที่หุ้นตกถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา สิ่งเดียวที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ความสำคัญ คือ 'ความแน่นอน' ตลาดหุ้นไม่ได้มี 'อุดมการณ์' หรือความคิดความเชื่อเหมือนมนุษย์ ใครจะแพ้จะชนะ มันไม่เคยสน หากมีสัญญาณว่าจะได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ก็มักจะมีการตอบรับออกมาในทางบวก

แต่ในเมื่อยังไม่มีความแน่นอน ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล ไม่รู้ว่าจะเกิดความวุ่นวายตามมาอีกแค่ไหน ปฏิกริยาตอบกลับจึงเป็นไปในทางลบเป็นปกติ

หากย้อนมองผลงานของแต่ละพรรคการเมือง ต้องยอมรับตรงกันว่า คงไม่มีพรรคไหนสร้าง 'เซอร์ไพรส์' ได้มากเท่ากับ 'อนาคตใหม่' ที่กวาดที่นั่ง ส.ส. ไปได้ไม่น่าจะต่ำกว่า 80 ที่ ด้วยคะแนนป๊อปปูล่าร์โหวตถึงราวๆ 5.8 ล้านเสียง

ผมจึงอยากชวนทุกท่านคุยถึงแนวทางของพรรคอนาคตใหม่ที่มีต่อตลาดเงินตลาดทุนกันสักหน่อย

ขอเท้าความสักเล็กน้อยว่า อนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวคิดไปในทาง 'สังคมนิยมประชาธิปไตย' มีนโยบายสนับสนุน 'รัฐสวัสดิการ' จนทำให้หลายคนมองว่าค่อนข้างจะ 'ซ้าย'

แม้กระนั้น สิ่งหนึ่งซึ่งผมยืนยันได้ด้วยตัวเองจากการเข้าไปมีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองพรรคนี้มาเกือบหนึ่งปีก็คือ อนค. ไม่ได้ปฏิเสธ 'ตลาดเสรี' แต่มุ่งที่จะทำลาย 'ทุนผูกขาด' ซึ่งเกาะกุมประเทศมายาวนาน โดยมีเป้าหมายหลักคือการ 'ลดความเหลื่อมล้ำ' และกระจายความมั่งคั่งไปยังคนทั้งประเทศ

ในตลาดหลักทรัพย์ไทยเองก็หนีไม่พ้นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ด้วยความที่มูลค่าตลาดกระจุกอยู่กับหุ้นของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่ม ขณะที่หุ้นตัวเล็กๆ จำนวนมากกลายเป็นหุ้นปั่น ถูกลากไปลากมา

การเข้าถึงข้อมูลระหว่างนักลงทุนเงินหนากับคนตัวเล็กๆ ต่างกันราวฟ้ากับเหว

สิ่งเหล่านี้ดำรงอยู่มายาวนานจนเราคุ้นชินและเผลอมองมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มันคือความ 'ไม่ปกติ' ด้วยประการทั้งปวง

แม้จะเป็นความฝันอันแสนห่างไกล แต่หากวันหนึ่ง อนาคตใหม่และพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย สามารถลดความเหลื่อมล้ำในประเทศลงได้จริง มันก็ย่อมจะแผ่ซ่านเข้ามาในทุกๆ องคาพยพของสังคม

รวมทั้ง 'ตลาดหุ้น' ซึ่งเป็น 'สนามแข่งขัน' ของพวกเราด้วยเช่นกัน