ความสุข หรือ ความสำเร็จ?

ความสุข หรือ ความสำเร็จ?

ขอชวนมาพักจากเรื่องการเมืองร้อนๆ มาเรื่องใกล้ตัวบ้าง นั่นคือเรื่องของความสุขหรือความสำเร็จว่า สิ่งใดมาก่อนกันหรือมาพร้อมๆ กัน?

 ท่านมีความเชื่ออย่างไร ระหว่างการประสบความสำเร็จจะนำไปสู่ความสุข หรือการมีความสุขจะนำไปสู่ความสำเร็จ? เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงจะคิดว่า ถ้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ในด้านสังคม ในด้านฐานะความเป็นอยู่ และในด้านครอบครัวแล้วจะทำให้มีชีวิตที่มีความสุข อย่างไรก็ดีมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดย Shawn Achor ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Happiness Advantage กลับให้มุมมองในอีกด้านหนึ่ง

งานวิจัยของคุณ Shawn นั้นพบว่าความเชื่อเดิมที่ว่า ถ้าคนๆ หนึ่งประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการเลื่อนขั้น การได้รับคำชมเชยจากงานที่ทำ หรือแม้กระทั่งการลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัม จะทำให้บุคคลดังกล่าวมีความสุขนั้นไม่ถูกต้องทีเดียว การบรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จนั้นทำให้มีความสุขจริง แต่เป็นความสุขระยะสั้น เมื่อความสุขนั้นหมดไป ก็จะต้องแสวงหางานหรือเป้าหมายต่อไป เพื่อให้ตนเองบรรลุ เพื่อให้ตนเองมีความสุขในระยะสั้นต่อไป และแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด เหมือนเป็นโรคเสพติดความสำเร็จและความสุขในระยะสั้น

แต่จากงานวิจัยข้างต้นกลับพบว่า เมื่อพลิกกลับในอีกมุมมองหนึ่ง การเพิ่มความสุขนั้น กลับยิ่งที่ให้ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยความสุขนั้นเกิดขึ้นจากทัศนคติ จิตใจ วิธีคิด และมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆ ถ้าบุคคลใดมีทัศนคติ จิตใจ วิธีคิด และมุมมองในด้านที่ดีและในเชิงบวก อันจะนำไปสู่ความสุขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้มีการนำไปทดลองใช้ที่บริษัทประกันแห่งหนึ่งที่จ้างพนักงานขายประกันโดยดูจากทัศนคติ จิตใจ วิธีคิด และมุมมองมากกว่า ทักษะ ความสามารถ และผลการทดลองพบว่าพนักงานที่มีมุมมองในเชิงบวกเหล่านี้ สามารถขายประกันได้ดีกว่าเพื่อนร่วมอาชีพที่มีมุมมองในเชิงลบภายใต้ช่วงระยะเวลาเดียวกัน

คุณ Shawn ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าในการเพิ่มความสุขนั้น นอกเหนือจากการมีมุมมองในเชิงบวกแล้ว ปัจจัยอีกประการที่สำคัญได้แก่การมองปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทาย ไม่ใช่ภัยคุกคาม นั้นคือในการทำงานต่างๆ เมื่อเผชิญกับปัญหา การเปลี่ยนแปลง หรืออุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น คนเหล่านี้จะมองเป็นความท้าทายที่จะต้องก้าวข้าม ไม่ใช่ภัยคุกคาม ในอีกมุมหนึ่งคือคนเหล่านี้จะมองความเครียดที่เกิดขึ้น (อันมาจากปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลง) เป็นความท้าทาย ซึ่งพอมองด้วยมุมมองดังกล่าว ระดับความเครียดจะลดลง ความสุขจะเพิ่มขึ้น อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น

ปัจจัยประการต่อมา คือการเข้าสังคม ติดต่อ ปฎิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมักจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนทั่วไปกระทำ เนื่องจากเรามักจะคิดว่า การจะประสบความสำเร็จในการทำงานนั้น จะต้องเลือกและให้ความสำคัญกับงานมากกว่าสังคมหรือคนรอบตัว ดังนั้นถ้ามีโอกาสและเลือกได้ก็จะเลือกที่จะทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยละเลยต่อครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ซึ่งจากงานวิจัยนั้นกลับออกมาในทางตรงกันข้าม เพราะการมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับคนรอบข้างที่ดีนั้นจะนำไปสู่ความสุขที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะนำไปสู่ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดีอ ความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงที่จะนำไปสู่ความสุขนั้น ควรจะต้องเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะของการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การพูดคุย การเห็นหน้ากัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในลักษณะออนไลน์ บางท่านอาจจะบอกว่าตนเองเล่นสื่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลา แสดงว่าเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วการเข้าสังคมออนไลน์นั้น ไม่ได้นำไปสู่ความสุขเหมือนกับการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบตัวด้วยวิธีแบบดั้งเดิม

ฝากลองนำเรื่องของการเพิ่มความสุข จะนำไปสู่ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นไปลองพิจารณาดูนะครับ เผื่อจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จในการทำงาน