แนวรบไม่เปลี่ยน สงคราม “2 ขั้ว 3 ก๊ก”

แนวรบไม่เปลี่ยน  สงคราม “2 ขั้ว 3 ก๊ก”

อิทธิฤทธิ์กติกาเลือกตั้งแบบ “มีชัย” ทำให้ 2 พรรคใหญ่คือ “พรรคเพื่อไทย“ และ ”พรรคประชาธิปัตย์” ปั่นป่วน

อันเนื่องมาจากจะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อระดับ “ดาวดัง” จะสอบตก

เมื่อคิดคำนวณสูตร 8 หมื่นคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน ปรากฏว่า พรรคใหญ่ได้ ส.ส.เกิน 150 ที่นั่งขึ้นไป พรรคนั้นอาจจะไม่ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว

ฉะนั้น “หมอเลี้ยบ” น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จึงออกมาเสนอ “โหวตยุทธศาสตร์” เลือกพรรคเพื่อไทยให้ได้เขตละมากกว่า 8 หมื่นคะแนน ถึง 1 แสนคะแนน เพราะเมื่อหักลบ ส.ส.เขตแล้ว จึงจะมีคะแนนเหลือเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงประสานเสียงให้เลือก ส.ส.เขตของพรรคอย่างถล่มทลาย

สถานการณ์การเมืองก่อนวันเลือกตั้ง มีสภาพ “2 ขั้วคือ ขั้วไม่เอาทหาร กับขั้วไม่เอาทักษิณ แต่ในเกมระหว่างหาเสียง พรรคประชาธิปัตย์ วางตัวเองเป็น ก๊กที่สาม

จากการประเมินผลเลือกตั้ง ส.ส.รวมทั้งสองระบบ ก๊กที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทย จะได้เสียงเป็นอันดับหนึ่ง น่าจะได้ 170 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อชาติ, พรรคเพื่อธรรม , พรรคประชาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย รวมแล้วไม่เกิน 30 ที่นั่ง

ส่วน พรรคอนาคตใหม่ ที่มาแรงในสื่อออนไลน์ สื่อโซเชียล ได้หันกลับมาใช้กลยุทธ์ “จัดตั้งมวลชน” ในต่างจังหวัด เพราะกังวลว่า จะไม่ได้คะแนนตามเป้าหมาย พรรคนี้น่าจะได้ประมาณ 20 ที่นั่ง

ก๊กที่สองนำโดย พรรคพลังประชารัฐ ที่มากไปด้วยนักเลือกตั้งอาชีพ ซึ่งชำนาญการเลือกตั้งในพื้นที่ชนบท จะสังเกตเห็นกลยุทธ์ “ปราศรัยย่อย” สลับ “ปราศรัยใหญ่” ถี่มาก แกนนำ พปชร. รู้ดีว่ากติกาเลือกตั้ง “บัตรเดียว” และทุกแต้มถูกนับรวมหมด

การพลิกเกมนำ “ลุงตู่” สู่เวทีปราศรัยได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบมากขึ้น ต้องยอมรับ ลุงตู่มีแฟนคลับระดับหนึ่งในทั่วประเทศ

ประเมินว่า พรรคพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส.รวมสองระบบประมาณ 90-100 ที่นั่ง เพราะพรรคพลังประชารัฐ ให้น้ำหนักกับ อันดับ 2” ที่วางเป้าทำแต้มไว้ที่ 2-3 หมื่นคะแนน

พรรคภูมิใจไทย มีเป้าหมายการเก็บคะแนนอันดับ 2 เหมือนพรรคพลังประชารัฐ ฉะนั้นความคาดหวังว่า จะได้ ส.ส.รวมทั้งหมด 50-60 ที่นั่ง

พรรคชาติไทยพัฒนา และ พรรคชาติพัฒนา ที่มีกลยุทธ์การเก็บแต้มแบบ“ล็อกเป้ายิง”ก็น่าจะได้ ส.ส.รวมสองระบบประมาณพรรคละ 20 ที่นั่ง

ก๊กที่สาม พรรคประชาธิปัตย์ ที่หมายชิงอันดับ 2 กับพรรคพลังประชารัฐ ก็คาดหวังจะได้ ส.ส.รวม 120 ที่นั่ง แต่เอาเข้าจริง ปชป.อาจได้ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง เพราะสนามเลือกภาคใต้ ที่หวังโกยแต้มเป็นกอบเป็นกำ จะโดนตัดแต้มโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่

สภาพการณ์ “3 ก๊กจะสลายเหลือ “2 ก๊กหลังการปิดหีบนับคะแนน เพราะขั้วฝ่ายถืออำนาจ จะชิงธงจัดตั้งรัฐบาลทันที สถานการณ์นับจากวันที่ 24 มี.ค.นี้เป็นต้นไป ระทึกขวัญยิ่ง