รังเกียจ“ระบอบประยุทธ์”?

รังเกียจ“ระบอบประยุทธ์”?

ในที่สุดการเมืองไทย ก็กำลัง “วนลูป” กลับมาสู่วงจรเดิมๆ เมื่อ “หัวหน้า คสช.”

ยอมให้นักการเมืองลากเข้า สู่สมรภูมิเลือกตั้ง เปิดศึกกับพรรคการเมือง 

สถานการณ์โค้งสุดท้าย ถูกลากมาถึงขั้น ฝ่ายสนับสนุนอย่างเป็นทางการอย่าง "ลุงกำนัน" แห่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกโรงเปิดเกม "รุกประชาธิปัตย์ กดดันให้เลือกข้างระหว่าง เอา “นายกฯประยุทธ์” หรือ "เครือข่ายทักษิณ”  

ส่งผลให้ วาทกรรม ต่อต้าน “สืบทอดอำนาจ” จากฝ่ายไม่เอา“ประยุทธ์” (ที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย) ถูกกระพือแรงขึ้นทุกที  

เลือกตั้ง 62 กำลังถูกบีบให้เลือกระหว่าง สองขั้วแต่ ประชาธิปัตย์ที่ฝ่ายหนุนประยุทธ์หวังจะรวบหาง(ไม่เอาหัว) ไม่ยอมจำนน เพราะสมการการเมืองรอบนี้ ซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา โอกาสพรรคพรรค “เบอร์ 2” จะพลิกสถานการณ์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ เป็นไปได้สูง

ส่องเกมจากหลายพรรคแล้ว เห็นตรงกันว่า ไม่ได้รังเกียจ พลังประชารัฐหากจะร่วมผสมพันธุ์กับนักการเมืองด้วยกันล้วนๆ แต่ปฏิเสธเฉพาะ นายกฯประยุทธ์” เพราะคาดว่าหากกลับเข้ามา คงไม่แคล้วต้องลากทีม“บิ๊ก คสช.”เข้ามาพรึ่บ 

นักธุรกิจการเมือง หัวขบวนพรรคหลายราย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยความหนักใจ เพราะไม่อยากเจอ “ทีม คสช.เบื้องหลังนายกฯลุงตู่ทีมนี้!  

สมรภูมิเลือกตั้งเวลานี้ จึงมี “3 ขั้ว” ประจันหน้ากัน โดยล้อมรอบด้วยกองเชียร์อย่าง “พรรคตัวแปร” ที่รอดูฝ่ายชนะ ก่อนจะเลือกหนุนขั้วไหน

โค้งสุดท้าย “ลุงกำนัน” จึงทุ่มหมดหน้าตัก ฟาดหัวฟาดหางใส่ใครที่ปฏิเสธนายกฯลุงตู่ “ผู้นำชาติพ้นภัย” 

แต่แน่ใจหรือว่า มวลชน กปปส. ท่ี่เคยหนุนลุงกำนัน เห็นดีเห็นงามกับวิธีคิดที่ว่า ใครหรือฝ่ายใดปฏิเสธ “นายกฯลุงตู่” แปลว่า ไม่รักชาติบ้านเมือง!

 อย่าลืมว่า เป้าหมายสำคัญของการรัฐประหารของนายกฯลุงตู่ คือ ถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณแต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้คนอยากได้การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารมาแทนระบอบทักษิณ 

กติกาการเมืองที่ี คสช.ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็แทบจะกวาดล้าง “สายตรง” ระบอบทักษิณให้หมดไปจากสนามการเมือง และกระแสความนิยมของทักษิณ ก็ลดน้อยถอยลงไปตามสภาพ (หากมั่นใจในโพลล์ของพลังประชารัฐและสันติบาลในมือ)

 แน่นอนว่า การ"ล้างระบอบทักษิณ" คงไม่หมดไปได้ทันทีทันใด ในการเลือกตั้งรอบนี้ 

 แต่ถ้า นายกฯ ลุงตู่จะใจร้อน ด่วนได้ ก็คงต้องยอมรับชะตากรรม ที่อาจจะพลิกผัน จากการต้านระบอบทักษิณ หันมาต้าน"ระบอบประยุทธ์" เอาไว้ด้วย 

และคงไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง “ปรองดอง” ที่ทำ "เสียของ" ไปไม่รู้กี่พันล้าน!

โดย... นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์