การติดการพนันเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

การติดการพนันเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

คนส่วนใหญ่ยังมองปัญหาการติดการพนันเป็นปัญหาเล็กกว่าการติดสารเสพติด และบางคนยังคิดว่าเป็นเรื่องเสี่ยงโชค เป็นการเล่นสนุกเพื่อความตื่นเต้น

 แต่ในหลายกรณี อาจนำไปสู่การติดการพนันที่เป็นปัญหาได้ คือเล่นบ่อย เล่นมากขึ้น เลิกไม่ได้ จนเกิดความเสียหายทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน เวลา ประสิทธิภาพการเรียนและการทำงาน ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด สุขภาพทั้งกายและใจ เช่น ปัญหาความกังวล ความเครียด และปัญหาอื่นๆ ได้ แม้คนติดการพนันอาจจะมีสัดส่วนน้อย แต่อาจมีผลกระทบถึงครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงใกล้ชิดอย่างน้อย 10 คน และอื่นๆ ความเสียหายจึงใหญ่กว่าที่เราคาดกัน

การเข้าใจพฤติกรรมติดการเล่นการพนันเกิดจากอะไร จะช่วยให้เราคิดทางป้องกันแก้ไขปัญหาโรคติดการพนันได้ดีขึ้น ทั้งตนเองหรือคนใกล้ชิดนั้น มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งปัจจัยทางความสัมพันธ์ ครอบครัวและชีวิตในวัยเด็ก พัฒนาการด้านความคิด จิตใจ ลักษณะอุปนิสัยบางอย่าง สภาพแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม ประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการเล่นการพนันตั้งแต่วัยรุ่น หรือการเคยผ่านประสบการณ์ทางอารมณ์ที่เจ็บปวด การรู้สึกโดดเดี่ยวจากสังคม ความเครียดสูง การมีความภูมิใจในตัวเองต่ำ การขาดความรู้และทักษะในการจัดการรับปัญหาด้านความคิดจิตใจ

สาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคติดต่อการพนัน มี 4 ปัจจัยใหญ่คือ

1.ปัจจัยด้านชีวภาพมาจากเรื่องกรรมพันธุ์, การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง, พัฒนาการด้านสุขภาพจิตต่ำกว่าคนอื่น ที่ทำให้คนบางคนบางเป็นคนหุนหันพลันแล่น ขาดความยั้งคิด ต้องการการกระตุ้นอยู่เสมอ (วัยรุ่นเป็นวัยที่มีโอกาสเป็นได้มากกว่าวัยอื่น) บางคนสนุก เพลิดเพลินกับการเล่นการพนันในฐานะการพักผ่อนหย่อนใจมากจนอดใจไม่ได้ที่จะเลิกเล่น บางคนมีความสามารถในการใช้ความคิดเชิงเหตุผลควบคุมความปรารถนาแบบหุนหันไม่ยั้งคิดได้น้อยกว่าบางคน ทำให้บางคนเสี่ยงต่อการติดการพนันมากกว่าคนอื่นๆ สารเคมีที่ทำงานในสมองของคนเรามักจะส่งเสริมให้เราทำกิจกรรมที่ทำให้เพลิดเพลินมีความสุขซ้ำอีก ซึ่งในแง่วิวัฒนาการ เช่น เรื่องการกิน การมีเพศสัมพันธ์ ช่วยประกันให้มนุษย์เราอยู่รอด แต่มีผลเสียหายเมื่อบางคนไปติดการพนัน

2.ปัจจัยด้านจิตวิทยาเป็นความบกพร่องหรือความผิดปกติด้านการเรียนรู้ คนบางคนชอบทำพฤติกรรมบางอย่างซ้ำๆ จนติด แม้ว่ามันจะมีผลเสียหายตามมา เพราะว่าพวกเขาเรียนรู้ว่าพวกเขาได้ประโยชน์บางอย่างจากการเสพติด เช่น 1. ลดความเครียด 2. ช่วยปลดปล่อยความน่าเบื่อหน่าย 3. เกิดอารมณ์ความรู้สึกพึงพอใจ 4. เพื่อจัดการกับอารมณ์หรือสถานการณ์ในทางลบ 5. คนแต่ละคนมีทักษะความสามารถในการจัดการ กับอารมณ์หรือสถานการณ์อันไม่น่าพึงปรารถนาแตกต่างกัน คนที่มีทักษะความสามารถในการจัดการเรื่องความเครียดได้น้อย จะขาดความสามารถในการจัดการกับการเสพติดยาเสพติดและการพนัน ซึ่งให้ความพึงพอใจระยะสั้น แต่จะมีผลเสียหายต่อปัญหาของชีวิตในระยะยาว

แรงจูงใจ ที่จะบำบัดตัวเองให้เลิกติดพนัน (หรือสารเสพติดอื่น) เป็นเรื่องสำคัญ การที่คนติดการพนันคนหนึ่งแค่รู้ตัวว่าการเล่นการพนันสร้างปัญหา ยังไม่ใช่แรงจูงใจที่สูงมากพอที่เขาจะหยุดเลิกพฤติกรรมที่ไม่เป็นผลดีนี้ได้ แต่นักจิตวิทยามีวิธีที่จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจผ่านการบำบัดเยียวยาและเทคนิคพิเศษเพื่อการนี้ชนิดต่างๆ

คนที่มีปัญหาความผิดปกติทางความคิด จิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล บ่อยครั้งที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการเสพติด คนบางคนเล่นการพนันจนติดเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราวให้กับโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลของตน

3.ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรมอิทธิพลทางสังคมที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เมื่อเด็กเห็นคนในครอบครัวสนุกสนานเพลิดเพลินจากการเล่นพนันบางอย่าง พวกเขาก็มองว่าการเล่นการพนันนี้คือการช่วยผ่อนคลายความเครียดที่ดีที่สนุกสำหรับครอบครัวของเขา ในสังคมที่ผู้คนในชุมชนมีวัฒนธรรมชอบเล่นการพนันบางอย่าง ทำให้เด็กเยาวชนรวมทั้งผู้ใหญ่เรียนรู้ว่าการพนันนั้นๆ เป็นที่ยอมรับในทางสังคมวัฒนธรรมของพวกตน และความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ การยอมรับจากคนอื่นๆ ในสังคมสูง กิจกรรมการพนันบางอย่าง สถานคาสิโน สนามม้าแข่ง ฯลฯ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าสมาคมและบรรยากาศในการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ความเชื่อว่าการพนันคือความบันเทิง การผ่อนคลายความเครียด เชื่อว่าตนเองมีทางหาเงินจากการเล่นการพนันได้คือความเชื่อที่ผิดพลาด ในระยะยาวคนเล่นการพนันจะเป็นฝ่ายแพ้ สูญเสียมากกว่าได้ การพนันจะออกแบบมาให้เจ้ามือชนะเสมอ นักพนันมืออาชีพที่เก่งในบางเรื่องที่ต้องใช้ทักษธนั้นมีน้อยมาก และการพนันเป็นเรื่องเกี่ยวกับโอกาสความเป็นไปได้ที่มีความไม่แน่นอนสูง

4.ปัจจัยด้านความเชื่อว่าชีวิตมีความหมายและเป้าประสงค์บางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าการดำรงอยู่ของตัวเราในฐานะปัจเจกชน(Spirituality) (การแปลคำนี้ว่า จิตวิญญาณ ออกจะเน้นไปทางศาสนามากไปหน่อย) คนแต่ละคนได้ความหมายและเป้าประสงค์ในชีวิตจากคุณค่าและเป้าหมายที่ตัวเขาเองเป็นคนตั้ง ที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่คือความเชื่อทางศาสนาหรือคติความเชื่อแนวใดแนวหนึ่ง (เช่น สังคมนิยม ระบบนิเวศนิยม) แต่มีคนบางคนที่ขาดหรือมองไม่ค่อยเห็นความหมายและเป้าประสงค์ในชีวิตของเขา ซึ่งทำให้เขาแปลกแยกกับคนอื่นๆ หรือแม้กับตัวเอง ทำให้เขาล้มเหลวที่จะใช้ชีวิตให้ประสานกลมกลืนกับกฎและหลักการสากล และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาหันไปพึ่งการเสพติด ไม่ว่าสารเสพติดหรือการพนัน

การเลี้ยงดูเด็ก การกล่อมเกลาทางสังคม ระบบการศึกษาและชุมชน จึงควรส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้ พัฒนา ความเข้าใจ ความฉลาดทางอารมณ์ และความฉลาดทางสังคมด้วย ไม่ใช่แค่สอนแต่เรื่องวิชาการ วิชาชีพ สิ่งที่สำคัยที่สุดสำหรับชีวิตที่มีความสุขหลีกเลี่ยงการเสพติดทุกชนิดได้คือการมองเห็นความหมายและเป้าประสงค์ในชีวิต มองชีวิตและสังคมในแง่บวก สร้างสรรค์ มีความหมายและมีความสุขที่จะใช้ชีวิตอย่างพลเมืองผู้รับผิดชอบในสังคม

กล่าวโดยสรุปคือ การพยายามหลีกเลี่ยงจากปัจจัยทั้ง 4 ที่กล่าวมา หรือสร้างปัจจัยในทางบวกแทน คือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะป้องกันและหรือแก้ไขปัญหาการเสพติดการพนันได้ แม้แต่คนที่เคยได้รับอิทธิพลของปัจจัยดังกล่าวมาแล้วในอดีต ถ้ารู้สาเหตุที่มา ก็ต้องหาวิธีแก้ไขทางใดทางหนึ่งจนได้ เพราะมนุษย์เราสามารถเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ Maia Szalavitz นักเขียนผู้เคยติดยาเสพติดสมัยเป็นวัยรุ่น และศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้จากทั้งงานวิจัยและประสบการณ์ตัวเอง สรุปว่าปัญหาการเสพติดทุกเรื่องรวมทั้งการพนันเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ผิดพลาดของคนบางคน โดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าวัยอื่น (เช่น เรียนรู้ว่าเมื่อเสพติดแล้วทำให้มีความสุข) สังคมต้องหาทางช่วยให้วัยรุ่นและคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องการเสพติดเรียนรู้ใหม่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้ ว่าการเสพติดทุกชนิดหลอกลวงเราว่าทำให้เรามีความสุข ความพอใจได้ชั่วคราว แต่ความจริงแล้วมีผลเสียหายร้ายแรงตามมา และเราสามารถจะมีความสุขและมีชีวิตที่มีความพอใจได้โดยไม่ต้องพึ่งการเสพติดใดๆ ที่มีผลลบมากกว่าผลบวก