ผู้จัดการรัฐบาล?

แต่นาทีนี้ นักเลือกตั้งมองข้ามชอต วิเคราะห์ไปไกล ถึงขั้น“จับขั้วการเมือง”กันแล้ว 

และผู้ที่มีบทบาทในการชี้ชะตาการเมืองไทย คือ “ผู้จัดการรัฐบาล” ที่มีอำนาจเต็ม 

ในอดีต อาจจะมองเห็นบทบาทผู้จัดการรัฐบาลได้ชัดเจน ตั้งแต่ยุค ป๋าเหนาะ เสนาะ เทียนทอง ยุคไทยรักไทย เสธ.หนั่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ หรือ ลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งประชาธิปัตย์ 

บุคคลเหล่านี้ มีทั้งตำแหน่งสำคัญ อยู่แถวหน้าการเมือง มีบทบาทในการวางสูตรการเมือง ทั้งตั้งเงื่อนไข และต่อรอง ตำแหน่งทางการเมือง กับพรรคต่างๆ อย่างชัดเจน และเปิดเผยถึงบารมี

ทว่า ยุคนี้ ผู้จัดการรัฐบาล กลับไม่ได้เป็นเช่นในอดีต

ว่าที่ผู้จัดการรัฐบาล ที่มีอำนาจ บทบาทเหนือพรรคในยุคนี้ ต่างซุ่มซ่อน เงียบเชียบ อยู่เบื้องหลัง ทำภารกิจอย่างไร้ร่องรอย

เบื้องหลังพลังประชารัฐ มีทั้ง บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่ง คสช. ที่ว่ากันว่า ทุกอย่างทั้งในรัฐบาล คสช.และพรรคพลังประชารัฐ จะต้องผ่านมือ “บิ๊กป้อม” แทบทิ้งสิ้น ขณะที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” หนึ่งในผู้จัดการเบอร์รอง กลับมีบทบาทไม่มากนัก 

ขณะที่ ผู้จัดการน้อยอย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" จะเสียงดัง ฟังได้ ก็ต่อเมื่อผลงานหลังวันที่ 24 มี.ค.เป็นที่ประจักษ์

ส่วนเพื่อไทย และพรรคตระกูลเพื่อ แน่นอนว่า “ผู้จัดการตัวจริง” ไม่ได้อยู่ในประเทศ

ขณะที่ประชาธิปัตย์ ที่อดีตผู้จัดการใหญ่ อย่าง กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ผันตัวไปทำพรรครวมพลังประชาชาติไทย แม้จะยังมีเส้นสาย อดีต ส.ส.ในพรรคจำนวนไม่น้อยในประชาธิปัตย์ แต่เที่ยวนี้ สุเทพ ก็ยากที่จะสอดแทรกเข้าไปล้วงลูกประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์ได้ง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมา

ภูมิใจไทย พรรคที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และคาดหวังว่าจะได้ราวๆ ครึ่งร้อยที่นั่ง ผู้จัดการตัวจริง ไม่ใช่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค หรือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค แต่อย่างใด แต่ตัวจริง อำนาจจริง อยู่ที่ ที่ปรึกษาใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ทุกสรรพสิ่งในพรรคต้องผ่านด่านพี่ใหญ่รายนี้

ส่วสองพรรคเล็กอย่าง ชาติไทยพัฒนา ยุคนี้อำนาจถูกยึดไปไว้ที่ ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคแต่เพียงผู้เดียว เช่นเดียวกับ ชาติพัฒนา ที่ปรึกษาใหญ่อย่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็มีอำนาจเหนือหัวหน้าพรรคที่เป็นน้องชายอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด  

บุคคลเบื้องหลังและเบื้องหน้าเหล่านี้ คือว่าที่ “ผู้จัดการ”ตั้งรัฐบาล คงต้องย้อนไปดูผลงานในอดีต ก็พอจะวัด “ความเขี้ยว” กันได้ไม่ยาก และน่าจะพอมองออกว่า หน้าตารัฐบาลผสมจะอยู่ในมือใคร