สงครามดิจิทัล สู่การปฏิวัติ วัฒนธรรมสมัยนิยม

สงครามดิจิทัล สู่การปฏิวัติ วัฒนธรรมสมัยนิยม

สหรัฐ กำลังจะสูญเสียความเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมสมัยนิยม ตั้งแต่จำความกันได้ โลกตะวันตกได้เป็นผู้ครอบงำวัฒนธรรมสมัยนิยมมาช้านานแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮอลลีวูด อุตสาหกรรมภาพยนตร์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลัง ในการกำหนดค่านิยมทางสังคม ที่ถูกเผยแพร่ผ่านกระแสโลกาภิวัตน์

เช่น  อเมริกาเป็นประเทศที่ทันสมัย อเมริกาเป็นฮีโร่ของโลก ชาวอเมริกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขาวเป็นพระเอก ล้วนเป็นเนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ผ่านภาพยนตร์ของฮอลลีวูด และถูกปลูกฝังจนกระทั่งเป็นค่านิยมของชาวโลก

ค่านิยมเหล่านี้ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ และคนขาวชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะในด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และ สังคม โดยเกือบศตวรรษที่ผ่านมา มีเวทีน้อยมากสำหรับผู้ที่บังอาจจะคิดต่าง

ทั้งนี้ได้มีสาเหตุมาจาก การทรงอำนาจในเกือบทุกด้านของสหรัฐ นับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งกว่านั้น หลังจากสิ้นสุดสงครามเย็น และการที่ภาษาของชาวอเมริกัน ได้กลายมาเป็น Lingua Franca ของโลกเสรี

ดังนั้น ไม่เพียงแค่ฮอลลีวูดจะเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังได้มาเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของชาวโลก และจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมสมัยนิยมไปโดยปริยาย

กว่าศตวรรษที่ผ่านมา สตูดิโอในฮอลลีวูดได้อาศัยเพียงการสร้างภาพยนตร์โดยมุ่งเป้าที่สหรัฐเป็นตลาดหลัก แล้วจึงสร้างรายได้ส่วนที่เหลือด้วยการส่งออกไปยังตลาดในต่างประเทศ เพราะเหตุนี้ จึงเป็นการส่งออกค่านิยมของสหรัฐ ไปสู่ส่วนที่เหลือของโลก

แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐกำลังเริ่มที่จะสูญเสียความเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เนื่องมาจากการที่สหรัฐ กำลังเริ่มที่จะสูญเสียความเป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลก

จีน ได้กลายมาเป็นตลาดที่สำคัญของเกือบทุกอุตสาหกรรม แม้แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็ไม่ได้มีความแตกต่าง

ภาพยนตร์ฮอลลีวูดในระยะหลังที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่มีปรากฏการณ์ใหม่ ในการที่สามารถสร้างรายได้ในประเทศจีน ได้มากกว่ารายได้ในสหรัฐเอง ภาพยนตร์เรื่อง Warcraft เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์นี้ที่สร้างรายได้ 47 ล้าน ดอลลาร์ในสหรัฐ แต่ 214 ล้าน ดอลลาร์ในประเทศจีน

จึงเกิดเป็นแนวทางใหม่ ที่สตูดิโอในฮอลลีวูดเริ่มคำนึงถึงค่านิยมของประเทศจีนในการสร้างภาพยนตร์ เช่น ตัวเอกที่เป็นชาวจีน หรือการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของจีน เพราะในบางครั้ง จีน กลับเป็นตลาดที่มีความสำคัญยิ่งกว่าสหรัฐ และค่านิยมเหล่านี้ ได้ถูกเผยแพร่ผ่านภาพยนตร์ของฮอลลีวูด และถูกปลูกฝังเป็นค่านิยมใหม่ของชาวโลก

และยังมีอีกปรากฏการณ์ใหม่อีกประการ ที่ภาพยนตร์ของจีนเอง เริ่มประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม เช่น The Wandering Earth ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ของจีน ที่สร้างรายได้ถึง 603 ล้านดอลลาร์ จากการฉายเพียง 14 วัน ในประเทศจีนเป็นหลัก แม้จะยังไม่ได้ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเช่นสหรัฐมากนัก

แต่เน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งของโลก สัญชาติอเมริกัน ที่มีให้บริการอยู่ใน 190 ประเทศทั่วโลก ได้เข้ามาซื้อสิทธิในการสตรีมมิ่ง The Wandering Earth ไปยังทุกประเทศที่เน็ตฟลิกซ์ให้บริการ รวมทั้งสหรัฐด้วย

The Wandering Earth เป็นเพียงกรณีตัวอย่าง ของเน็ตฟลิกซ์ที่มีแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากธุรกิจในฮอลลีวูดที่จะส่งออกภาพยนตร์ของสหรัฐแต่เพียงอย่างเดียว เพราะเน็ตฟลิกซ์มุ่งเน้นการเผยแพร่เนื้อหาของผู้ผลิตจากทุกประเทศ ไปยังทุกประเทศที่เน็ตฟลิกซ์ให้บริการ

เช่น แม้แต่ในตลาดไทยเอง ลูกค้าของเน็ตฟลิกซ์ ก็จะสามารถรับชมภาพยนตร์จากทุกมุมโลก โดยไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะของฮอลลีวูด

ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ กำลังส่งผลให้วัฒนธรรมสมัยนิยมและค่านิยมต่างๆ ที่สหรัฐต้องเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง กำลังจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเวลากว่าศตรวรษและพวกเรา กำลังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้