“8ก.พ.-7มี.ค.”
นับจากวันนี้ไปอีก 2 วัน คือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคำร้องและวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่ง “ยุบพรรค” ไทยรักษาชาติ (ทษช.)
พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พรรคน้องใหม่ในกลุ่มพรรค “ตระกูลเพื่อ” ซึ่งรวบรวมเอาหัวกะทิคนสำคัญจากพรรคเพื่อไทย ผสมกับเครือญาติ และทายาทนักการเมืองในขั้วพรรคเพื่อไทย
แต่แล้ววันที่ 8 ก.พ.2562 เวลา 09 นาฬิกา 10 นาที พรรคไทยรักษาชาติ ก็ทำให้คนไทย “ช็อก” เมื่อได้กระทำการอันไม่บังควร เสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในเวลาต่อมามี “พระราชโองการ” ว่า “มิบังควรอย่างยิ่ง”
ตามมาด้วยการร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคทษช.
กกต.นัดประชุมในวันที่ 12 ก.พ.และ 13 ก.พ.ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคทษช. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ในข้อหากระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
14 ก.พ. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารชี้แจงว่า เลขาธิการ กกต. ได้รับมอบอำนาจจาก กกต.ให้มายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัย เพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นำคำร้องยุบพรรค และมติศาล ไปแจ้งให้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติทราบ เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งพรรคทษช. ส่งคำชี้แจง 3 ประเด็กหลัก 8 ประเด็นย่อย พร้อมแนบบัญชีพยานไป 19 ปาก กลับมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ
27 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคดียุบพรรคทษช.นัดแรก เห็นว่าหลักฐานทั้งผู้ร้อง และผู้ถูกร้องชี้แจงมานั้นครบถ้วนแล้ว จะไม่ไต่สวนคดี ดังนั้น องค์คณะตุลาการ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือกัน และลงมติ พร้อมทั้งจะอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค. นี้ เวลา 15.30 น.
กระบวนวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ คือ ระบบ “ไต่สวน” การที่ศาลไม่ไต่สวนคู่ความ นั่นแสดงว่าศาลน่าจะเห็นประเด็นข้อกฎหมายให้สามารถตัดสินคดีได้แล้ว
ดังนั้น หากพรรคไทยรักษาชาติ โดนยุบพรรคจริง ก็จะเป็นพรรคลำดับที่ 3 ในเครือข่าว “ทักษิณ” ที่โดนยุบ ต่อจากพรรคไทยรักไทย (จ้างพรรคเล็กลงแข่ง) พรรคพลังประชาชน (กรรมการบริหารพรรคได้ใบแดง)
การยุบพรรคยังหมายถึงการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ 5 ปี แต่เป็น 10 ปี หรือต้องโดนตัดสิทธิ์ตลาดชีวิต 7 มี.ค.นี้มาลุ้นกัน