24 มีนา..เข้าคูหา พา “ทักษิณ” กลับบ้าน

24 มีนา..เข้าคูหา  พา “ทักษิณ” กลับบ้าน

กลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดงได้แชร์ข่าว “ทักษิณกราบแผ่นดิน” วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551

พร้อมเรียกร้องให้คนเสื้อแดงเข้าคูหา 24 มีนาคม 2562 เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย

ถ้ายังจำกันได้ ปี 2550 มีการแจกแผ่นซีดีกลอนลำ คิดฮอดทักษิณ ขับลำโดยบรมครูหมอลำกลอน ชาวบ้านได้ฟัง น้ำตาไหลพราก อยากให้อดีตนายกฯ ขวัญใจคนรากหญ้ากลับบ้าน

ปี 2554 ทักษิณ ร้องเพลง คิดฮอดบ้านแฮง ส่งผ่านช่องยูทูบมาจากดูไบ กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตทีวี-วิทยุชุมชนเสื้อแดง มนต์เพลงทักษิณหนุนกระแสนารีขี่ม้าขาว โกยเก้าอี้ ส.ส.มากว่าครึ่งสภาฯ

ฤดูเลือกตั้ง พ.ศ.นี้ พรรคตระกูลเพื่อ” ในสมรภูมิภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบน ไม่มีการชูสโลแกน “พาทักษิณกลับบ้าน อาจเพราะ กกต.ออกกฎเข้มเกี่ยวกับการหาเสียง เลยไม่กล้าเอ่ยถึงคนแดนไกล แต่ในสื่อโซเชียลกองเชียร์เสื้อแดง ยังถวิลหาสองพี่น้อง “สองนายกรัฐมนตรีในดวงใจ”

 การออกแบบ พรรคพี่-พรรคน้องให้สอดคล้องกับกติกาใหม่ โดยคนแดนไกลเล่นเกมที่หลายคนคาดคิดไม่ถึง โดยหวังจะให้ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคน้อง เป็นจุดชี้ขาดชัยชนะ แต่สถานการณ์พลิกผันชั่วคืนเดียว กลายเป็นพรรคน้องเผชิญหน้ากับการถูกยุบพรรค

หากคำตัดสินวันนั้น ออกมาเป็นลบต่อพรรคน้อง ปัญหาที่ตามมา พรรคพี่จะหาคะแนนมาเพิ่มยังไง เมื่อมีจำนวน “150 เขต” ที่ไม่ได้ส่ง ส.ส.เขต เนื่องจากเปิดทางให้พรรคน้องส่ง 175 เขต โดยมี 25 เขตที่สองพรรคต้องแข่งกันเอง

พรรคฝ่ายเดียวกัน พรรคไหนจะได้อานิสงส์จากกรณีดังกล่าวข้างต้นลองมาไล่เรียงดูทีละพรรค

เริ่มจาก พรรคอนาคตใหม่ ที่เกิดจากคนหนุ่มสองคน “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่ได้เป็นเครือข่ายของ “พรรคตระกูลเพื่อ” แต่โดยแนวทางการล้มล้างมรดก คสช. จึงโดนใจฝ่ายพลพรรคคนรักนายใหญ่ไปโดยปริยาย

พรรคเพื่อชาติ เหมือนจะใช่ แต่ก็ไม่ถูกนับเป็น “พรรคพี่-พรรคน้อง” สถานการณ์ภายในพรรคช่วงหลังวาเลนไทน์ “จตุพร-ยงยุทธ-สงคราม” ต่างแยกกันหาเสียง ทางใครทางมัน

พรรคพลังปวงชนไทย ที่ชูภาพ “พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พยายามเกาะเกี่ยวขบวนการคนเสื้อแดงในชนบท แต่ก็ยังไม่มีกระแสมากนัก

พรรคพลังไทยรักไทย มาแปลกๆ เสนอชื่อ “พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

พรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก็เป็นอีกพรรคหนึ่งที่คนไม่ชอบ คสช.ให้ความสนใจ แต่องค์ประกอบของพรรคนี้ ก็ยังอยู่ห่างจากเครือข่ายพรรคตระกูลเพื่อ

หากมองภาพรวมของการหาเสียง พรรคอนาคตใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์ครั้งแรก น่าจะได้รับอานิสงส์ หาก 7 มีนาคม มีคำตอบให้กับพรรคน้องไปในทางลบ

เมื่อถึงวันเลือกตั้ง ถ้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ ส.ส.เข้าสภาฯ มากกว่า 50 ที่นั่ง จะระทึกขวัญยิ่งกว่าหนังสยองขวัญเสียอีก