ขายทำกำไรบ้าง เปลี่ยนตัวเล่นบ้าง

ขายทำกำไรบ้าง เปลี่ยนตัวเล่นบ้าง

SET index ในเดือน ก.พ.62 นั้นอาจมีความผันผวนมากขึ้นจากเดือน ม.ค.62

'ผลตอบแทน' จากการลงทุนใน SET index +6.1% ตั้งแต่ต้นปี 2562  (ณ วันที่เขียนบทความนี้ SET index ปิดที่ 1,659 จุด) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นดีตามที่คาดไว้ โดยเราประเมินว่า Valuation ของ SET index เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2562 จะกลับสู่ระดับที่น่าสนใจเข้าซื้อ โดย Forward PE (อัตราส่วน SET index เทียบกับประมาณการกำไรปี 2562) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (5 ปี) ปรับลดลงทั้งคู่ ทำให้ Earnings yield gap ของ SET index กลับสู่ระดับน่าสนใจในช่วงต้นปี 2562 รวมทั้งบรรยากาศการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า SET index ในเดือน ก.พ.62 นั้นอาจมีความผันผวนมากขึ้นจากเดือน ม.ค.62 เนื่องจาก 

i) คาดจะเริ่มเกิด Gap ระหว่าง Trailing PE (อัตราส่วน SET index เทียบกับกำไรย้อนหลัง 4 ไตรมาส) และ Forward PE (อัตราส่วน SET index เทียบกับประมาณการกำไรปี 2562) เนื่องจากเราประเมินว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนใน 4Q61 จะลดลงถึง 25 - 30% YoY ถูกถ่วงโดยผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่คาดว่าจะมีการบันทึกขาดทุนสต๊อก (น้ำมันดิบลงหนักใน 4Q61) ซึ่งอาจจะทำให้ Trailing PE พุ่งขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.62 แม้ว่าดัชนี SET index จะคงที่ก็ตาม ขณะเดียวกันเราเชื่อว่าภายหลังการรายงานผลการดำเนินงาน 4Q61 เสียงส่วนใหญ่ใน Consensus จะไม่ปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานจะพลิกกลับได้ใน 1Q62 (ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์กลับ) แต่ผลดังกล่าวอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นได้ ในระยะสั้น 

ii) ปลายเดือน ก.พ. 62 หากการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐฯ - จีน ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม อาจทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นเกิดความกังวลอีกครั้ง เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่เส้นตายของการเจรจา  

iii) อย่างไรก็ดี เราประเมินว่ากรณีที่ดัชนี SET index มีการปรับตัวลงจากประเด็นที่กล่าวถึงข้างต้น อาจเป็นโอกาสในการช้อนซื้อหุ้นได้เช่นกัน เนื่องจากยังมีประเด็นด้านบวกสำหรับตลาดหุ้นไทย อาทิเช่น การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะช่วยยืดส่วนต่างของ Earnings yield gap ให้ Valuation ตลาดหุ้นไทยยังคงน่าสนใจสำหรับการลงทุนอยู่, การเลือกตั้งที่จะช่วยหนุนทั้งบรรยากาศการลงทุนและเศรษฐกิจ, และแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่จะพลิกกลับมาเด่นใน 1Q62 เช่น กลุ่มพลังงาน  เป็นต้น 

ดังนั้นสำหรับกลยุทธ์การลงทุนสำหรับเดือน ก.พ.62 นั้น เราแนะนำหาจังหวะ 'ขายทำกำไร' หุ้นที่ปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้า และบางตัวที่ Upside เริ่มจำกัด (นักลงทุนสามารถดูราคาเหมาะสมของหุ้นรายตัวที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ได้ในเว็บไซต์ของ KGI: www.kgieworld.co.th) และอาจพิจารณาหุ้นที่ Underperform ตลาดมาก่อนหน้าที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสฟื้นตัว (หุ้น Laggard) และในกรณีที่ดัชนี SET index พักฐาน อาจใช้เป็นจังหวะในการเข้าช้อนซื้อหุ้นพื้นฐานดีอีกครั้ง เนื่องจากเราเชื่อว่าด้วยผลของการเลือกตั้งทั่วไป บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่น และ Earnings yield gap ตลาดหุ้นไทย ชี้ว่า Valuation ตลาดหุ้นไทยยังไม่แพงเกินไป 

ขอทิ้งท้ายมุมมองการลงทุนสำหรับระยะกลาง แม้เราจะมองว่า SET index จะปรับขึ้นขานรับการเลือกตั้ง แต่จากสถิติในอดีตก็ชี้ชัดว่า นักลงทุนควรที่จะขายล๊อกกำไรหลังจากการเลือกตั้งบ้าง และประเด็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงต้องติดตาม เนื่องจากล่าสุดเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังแสดงโอกาสที่จะเกิดการชะลอตัวของเศรษฐฏิจ หรือที่เรียกว่า Recession โดยจากข้อมูลของ Fed สาขานิวยอร์ก ณ วันที่ 4 ก.พ. 62 ความน่าจะเป็นที่จะเกิด Recession ในอีก 12 เดือนข้างหน้าสูงถึง 23.6% สูงสุดตั้งแต่หลังเกิดวิกฤตซับไพรม์ปี 2550 - 2551 ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ดัชนี SET index จะเริ่มการพักฐานหลังข่าวดีของตลาดหุ้นไทยเริ่มหมดนั่นเอง