สงครามข้อมูลรั่วไหล 2019 เริ่มแล้ว

ยุคโลกออนไลน์ เป็นยุคที่ข้อมูลกลายของมีค่าที่เหล่าวายร้ายไซเบอร์ต่างหมายปอง วายร้ายเหล่านั้นต่างพากันสรรหาวิธีการหรือพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่นับวันยิ่งตรวจจับและป้องกันได้ยากเพื่อโจมตีหารอยรั่วขโมยข้อมูลสำคัญต่างๆ 

วันนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเริ่มสร้างความหวาดหวั่นไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ปีที่แล้วที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกหลายรายต้องการเป็นเหยื่อข้อมูลรั่วไหล ทั้งสายการบิน โรงแรม บริษัทบริการสื่อออนไลน์ชื่อดังต่างๆ 

สำหรับในปีนี้ แม้เพิ่งผ่านพ้นช่วงต้นปีมาได้ไม่นาน แต่เริ่มมีเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลมาไม่ให้เห็นไม่หยุด ทั้งจากองค์กรภาครัฐและเอกชนทั่วโลก โดยเหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากคงหนีไม่พ้น เหตุการณ์ที่นักวิจัยแจ้งว่ามีอีเมลกว่า 773 ล้านแอคเคาท์จากหลากหลายประเทศ หลากหลายผู้บริการทั่วโลกรั่วไหลออกมา 

ไม่ว่าจะเป็น ยาฮู, ฮอทเมล โดยมีนักวิจัยสร้างเครื่องมือช่วยตรวจสอบให้ผู้ใช้งานกรอกอีเมลเพื่อตรวจสอบว่าโดนแฮกหรือไม่ ตามมาด้วยฐานข้อมูลของ “Elasticsearch” หรือเครื่องมือค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลแบบโอเพนซอร์สรั่วไหล 

 อีกกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ พบข้อมูลของนักพนันออนไลน์รั่วไหลจากเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ที่ไม่ระบุชื่อจำนวนกว่า 108 ล้านข้อมูล มากกว่านั้นยังมีข้อมูลผู้สมัครฝึกงานจากกลุ่มเยาวชน AIESEC เยาวชนกว่า 4 ล้านคนรั่วไหล และอีกกว่า 24 ล้านข้อมูลของรายงานการจำนองและสินเชื่อต่างๆ ที่รั่วไหลจากฐานข้อมูลของ Elasticsearch 

และล่าสุดบริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่จากฝรั่งเศสออกมาเปิดเผยว่า มีข้อมูลพนักงานรั่วไหลจากระบบ Commercial Aircraft Business Information ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าระบบมาได้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าในปีนี้ทั่วโลกยังคงต้องเผชิญเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลอีกนับครั้งไม่ถ้วนตลอดทั้งปี

ดังนั้นยังคงเป็นคำถามว่า เหล่าผู้บริหารทั้งหลายพร้อมรับมือแล้วหรือยัง อีกทางหนึ่งผู้ใช้งานอย่างเรามีสติพอที่จะรับมือเหล่าภัยร้ายไซเบอร์หรือไม่ 

เพราะในปีนี้นอกจากความเสียหายทางทรัพย์สินและชื่อเสียงที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากมากกว่าเดิมแล้ว ยังต้องเผชิญกับกฏหมายข้อบังคับต่างๆ ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการออกกฎหมายข้อบังคับใหม่จากหลายส่วนทั่วโลก