จาก หมา.. ถึง คน !!!!

จาก หมา.. ถึง  คน  !!!!

เจริญพรสาธุชน... เห็นข่าวเด็กชายถูกฝูงหมาจรจัดเกือบ ๑๐ ตัวรุมสกรัม กัดร่างพรุนไปทั้งตัว

ลำคอฉีกขาดรอบ  ศีรษะมีแผลฉีกขาด ใบหูสองข้างขาด อาการสาหัส เมื่อ ๒๗ ม.ค. ๒๕๖๒ นับเป็นเรื่องสะเทือนใจพอสมควร.. ซึ่งเป็นฝูงหมาใต้สะพานสารสิน.. แม้ทราบว่าขณะนี้น้องได้รับการส่งตัวเข้ารับการรักษาเรียบร้อยแล้วที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต...

จริงๆ เรื่องราวแบบนี้มีเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย... จนดูเหมือนเป็นข่าวธรรมดาชิ้นหนึ่ง .. ที่ไม่นานก็ลืมเลือนกันไป

แต่บุคคลที่จะไม่สามารถลืมเลือนได้เลย คือ ตัวผู้ถูกกระทำและครอบครัว ที่จะจดจำฝังใจไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเห็นร่องรอยบาดแผลและอวัยวะที่ชำรุดบนร่างกาย.. ดังที่เกิดขึ้นกับเด็กชายผู้น่าสงสารดังกล่าว…

อาตมาไม่ทราบว่า เรื่องราวในลักษณะดังกล่าวนี้เป็นหน้าที่ของบุคคลหรือองค์กรใดในการเข้าไปดูแลช่วยเหลือในระยะสั้น ในระยะยาวบ้าง... และหากมี..เป็นการช่วยลักษณะใด ให้ผลเป็นอย่างไร ..เพราะตั้งแต่เกิดปรากฏเรื่องขึ้นมาในหน้าข่าว .. ยังไม่เห็นผู้มีหน้าที่ดูแลประชาชนหน่วยงานใดๆ ปรากฏตัวแสดงบทบาท คงมีแต่ทางโรงพยาบาลที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

จริงๆ แล้ว .. ในเรื่องที่เกิดกับเด็กเยาวชนหรือบุคคลที่อ่อนแอ ในเพศ วัย ฐานะ..องค์กรที่รับผิดชอบควรแสดงความรับผิดชอบเข้าไปช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วนด้วยความจริงใจ... อันเป็นไปตามหลักสังคหวัตถุธรรม .. ควรกระทำ...ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยให้เป็นไปตามยถากรรมเช่นนี้

การขาดน้ำใสใจจริงในการเกื้อกูลต่อกันของคนเราในสังคม โดยเฉพาะฝ่ายปกครองท้องถิ่นทุกระดับ .. ไม่ตั้งตนร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน จึงไม่ได้ใจซึ่งกันและกัน... การร่วมจิตร่วมใจกันในสังคมจึงไม่เกิดขึ้น..

เรื่องหมาจรจัดฝูงเดียวที่ถูกปล่อยปละละเลย ไร้ความใส่ใจ จึงทำให้เกิดโทษภัยต่อคนในสังคม... แม้คนๆ นั้นคือเด็กลูกชาวบ้านคนหนึ่ง แต่มีสภาพความเป็นบุคคลเสมอกันกับทุกคนในสังคมที่ควรได้รับการดูแล...

เรื่องราวที่เกิดกับชาวบ้านในทำนองแบบนี้ มากมายหลายเรื่องที่ถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแลจากภาครัฐอย่างจริงใจ จนเกิดการสั่งสมเป็นมวลความรู้สึกที่ก่อเกิดเป็นสภาวะเก็บกดในสังคม ที่พร้อมจะจุดเป็นประกายปัญหากลับคืนสู่สังคมโดยรวม และสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมได้อย่างฉับพลัน เมื่อมวลรวมของกระแสได้เคลื่อนจากฐานไหลรวมไปสู่ยอดพีระมิด และพลิกโครงสร้างพีระมิดให้ยอดกลับไปเป็นฐาน และให้ฐานกลับคืนมาเป็นยอด ปัญหาทั้งหมดจึงรวมลงสู่ยอดอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้… และนั่นคือ พลวัตแห่งการปฏิวัติสังคมที่รุนแรง ที่ยากที่จะต้านทานได้ไม่ว่าอำนาจใด... ทั้งนี้ เพราะความไร้วุฒิภาวะของบุคลากรในโครงสร้างภาครัฐ ที่นับวันยิ่งเสื่อมถอยจากคำว่า “จริยธรรม”... และนั่นคือ ... มหากาพย์แห่งปัญหาของสังคมไทย ที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพื่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ คืนกลับสู่สังคมประเทศชาติ เพื่อก้าวออกจากปัญหาทั้งปวงที่รุมเร้าอยู่ในขณะนี้ ...

เจริญพร

[email protected]