การรุกฆาตของธาตุ 4

การรุกฆาตของธาตุ 4

กรุงเทพฯ กำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากอากาศพิษ สำหรับผู้ติดตามดูความเป็นไปในด้านการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

ปรากฏการณ์แนวนี้ไม่เป็นที่น่าแปลกใจเพราะคาดการณ์ได้นานแล้ว จำนวนคนในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งอากาศเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ดี คงไม่ค่อยมีใครเอะใจว่า การใช้อากาศแบบไม่ปรานีปราศรัยเพราะได้มาเปล่าๆ ของชาวไทย เป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาสาหัสนี้

เราสูดอากาศหายใจแบบได้เปล่าสำหรับดำรงชีวิต พร้อมกันนั้นเราใช้มันเป็นปัจจัยในการผลิตสินค้าและบริการสำหรับการดำเนินชีวิตด้วย ตามธรรมดา เราต้องจ่ายเมื่อเราใช้วัตถุดิบ หรือปัจจัยในการผลิต แต่เราไม่จ่ายเมื่อเราใช้อากาศเป็นแหล่งดูดซับควันอันโสโครก ด้วยสิ่งเจือปนจากยานยนต์ โรงงานและการปิ้งย่าง อากาศสามารถดูดซับและฟอกสิ่งเจือปนได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อจำนวนคนมากขึ้น ซึ่งพร้อมกันใช้อากาศแบบไม่ปรานีปราศรัยในภาวะที่แออัดเพิ่มขึ้น อากาศไม่สามารถดูดซับและฟอกความโสโครกนั้นได้ทัน มันจึงเป็นพิษ

การเป็นพิษเป็นเสมือนการตอบโต้ด้วยความอาฆาตของอากาศที่ถูกใช้อย่างไม่ปรานีปราศรัยมานาน ปรากฏการณ์ในกรุงเทพฯ มิใช่ของใหม่ มันเกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ นานแล้วจากกระบวนการพัฒนา หรือการสร้างความก้าวหน้าโดยความเข้าใจผิด ในบางกรณี ถึงกับมีการตายหมู่เกิดขึ้นจากภาวะอากาศพิษอย่างร้ายแรง ในกรณีเช่นนี้ มองได้ว่าอากาศตอบโต้รุนแรงถึงขั้นรุกฆาต เมื่อประเทศเหล่านั้นเข้าใจ มาตรการป้องกันสำคัญที่เขาใช้เพื่อมิให้มันเกิดขึ้นอีกได้แก่การกรองสิ่งเจือปน หรือฟอกอากาศจากยานยนต์และโรงงานก่อนปลอยมันออกไป การกรอง หรือฟอกต้องใช้เงินซึ่งมีค่าเท่ากับการใช้อากาศแบบมิใช่ได้มาเปล่า ๆ หากมนุษย์เราเริ่มทำมาตั้งแต่ต้น มลพิษในอากาศแบบที่เห็นอยู่ย่อมไม่เกิดขึ้น

อากาศเป็น 1 ในธาตุ ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในชีวิตของเรา ในปัจจุบันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ธาตุทั้ง 4 ตอบโต้เราแบบอาฆาตมาดร้ายเพราะถูกใช้อย่างไม่ปรานีปราศรัยมานาน เพื่อหวังจะให้ชาวไทยมองปรากฏการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมจากมุมมองนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2551 พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร ร่วมกับผมเขียนหนังสือชื่อ ธาตุ 4 พิโรธ  หนังสือยังไม่ล้าสมัยและอาจดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา (www.bannareader.com) เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของอากาศซึ่งเราขาดเพียงไม่กี่นาทีก็ตาย อีก 3 ปีต่อมาผมพยายามส่งสารถึงคนไทยให้ตระหนักด้วยการเขียนหนังสือขนาดจิ๋วเรื่อง เมื่ออากาศเป็นฆาตกร ซึ่งอาจดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์เดียวกัน

วิกฤติจากอากาศเป็นพิษนี้มีคำถามตามมาว่าจะทำอย่างไร คำตอบแบ่งได้เป็นหลายส่วนและในหลายระดับ เช่น สำหรับบุคคล การแสวงหาหน้ากากกรองอากาศมาสวมใส่เมื่อออกไปนอกอาคารและการแสวงหาเครื่องกรอง หรือฟอกอากาศมาใช้เมื่ออยู่ในอาคารเป็นมาตรการระยะสั้นที่อาจทำได้ ส่วนการใช้น้ำฉีด หรือทำฝนเทียมของรัฐอาจช่วยได้บ้าง แต่ต้องระวังเรื่องน้ำที่ชะล้างสารพิษออกจากอากาศอาจไปทำให้แหล่งน้ำเป็นพิษได้ มาตรการระยะยาวมีมากและยากขึ้น มาตรการจำนวนมากมักเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว เช่น รัฐออกกฎหมายบังคับให้ยานยนต์และโรงงานฟอกควันก่อนปล่อยออกไป แต่ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ ปัญหานี้มีอยู่กับกฎหมายสำหรับใช้ในกรณีของธาตุอื่นด้วย

มาตรการบางอย่างยากกว่านั้น เช่น การป้องกันและลดความแออัดในเมืองด้วยการบังคับให้มีอัตราระหว่างพื้นที่สีเขียวกับจำนวนที่อยู่อาศัยในระดับสูงมาก ๆ หากทำไม่ได้ จะต้องไม่ให้สร้างที่อยู่อาศัยใหม่ หรือต้องโยกย้ายบางส่วนของเมือง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเคยมีส่วนร่วมเสนอเมื่อกว่า 50 ปีแล้วให้สร้างเมืองสำหรับสำนักงานราชการจำพวกกระทรวง ทบวง กรมขึ้นใหม่ ในแนวที่รัฐบาลในยุคนายกฯ ทักษิณจะทำ แต่มาถึงวันนี้ ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ นั่นหมายนความว่า ต่อไปนี้มีความเป็นไปได้สูงว่ากรุงเทพฯ จะถูกรุกฆาตด้วยอากาศพิษในช่วงหน้าแล้งและจากธาตุน้ำในช่วงหน้าฝน กาอาศพิษที่เกิดขึ้นในขณะนี้และภาวะน้ำท่วมเมื่อปี 2554 เป็นเพียงสัญญาณเตือน