โพลล์ลับ! “ทักษิณ” ยังเหนือกว่า?

โพลล์ลับ!  “ทักษิณ” ยังเหนือกว่า?

ย่างเข้าสู่ปีแห่งการเลือกตั้ง ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ก็เป็นปีที่เริ่มมองเห็นเค้าลางความแตกแยก

แม้รังสิตโพลล์ ครั้งที่ 5 จะระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับคะแนนนิยมสูงสุด ที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง 2562 และ พรรคพลังประชารัฐ จะได้รับคะแนนนิยมเหนือพรรคเพื่อไทย แต่ความเป็นจริงในสมรภูมิเลือกตั้ง ยังไม่มีใครกล้าการันตีผลการสำรวจของรังสิตโพลล์ว่าแม่นยำแค่ไหน?

สำหรับแกนนำพรรคเพื่อไทย มั่นใจในการทำโพลล์ของพรรคเอง และเชื่อถือข้อมูลดิบจาก สันติบาลหรือที่เรียกกันว่า สันติบาลโพลล์

แวดวงนักเสี่ยงโชครายใหญ่แถวเยาวราช ได้ให้น้ำหนักกับ “สันติบาลโพลล์” ว่ามีการประเมินผลการเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นที่ยอมรับว่าใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด เพียงแต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นการทำข้อมูลข่าวกรองในทางลับ

นับแต่คาราวานหาเสียงของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ลงไปในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ ปรากฏว่า เกิดความคึกคักในกลุ่มฐานเสียง

นักสังเกตการณ์การเมืองในอีสาน เปรียบเทียบเหมือนฝนแรกมาถึง กบเขียดก็ออกมาจากรู ส่งเสียงร้องระงมทุ่ง

4 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายออนไลน์ของฝ่ายไม่เอารัฐประหาร ไม่เคยหยุดการเคลื่อนไหว ฉะนั้น คนรากหญ้าจึงได้รับข้อมูลข่าวสารเชิงลบต่อ คสช.ตลอดเวลา

ถ้ายังจำกันได้ “คนแดนไกล” สั่งให้ยุติการออกอากาศของทีวีดาวเทียมช่อง TV24 หรือจอแดงตัั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพราะประเมินว่า ชาวบ้านเสพติดสื่อโซเชียล และไม่นิยมดูทีวีกันแล้ว

แม้ในทางกายภาพ กลุ่มคนเสื้อแดงจะอยู่สายตาของฝ่ายความมั่นคง แต่โลกออนไลน์นั้น คุมยากยิ่ง “วิทยุใต้ดิน” ผ่านยูทูบจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงแพร่กระจายมาทั่วเมืองไทย

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในภาคชนบทก็จริง แต่สถานการณ์เศรษฐกิจปากท้องย่ำแย่ยาวนาน บัตรคนจนจึงไม่ได้แปรเป็นผลทางการเมืองมากนัก

การนำ “โฉนด” มาคืนชาวบ้าน ก็เป็นเรื่องดีมาก แต่นักสังเกตการณ์จอมเก๋าบอกว่า ผลที่ได้รับเป็นเรื่องปัจเจก เรื่องของคนบางกลุ่ม ไม่สร้างผลสะเทือนเท่ากับกองทุนหมู่บ้านในอดีต

บังเอิญ “นักเลือกตั้ง” ที่ย้ายมาจากพรรคต่างๆ เหมือนรวมมิตรการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เกิดปัญหา “สะดุดขาตัวเอง” กลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายเพื่อไทยโจมตี

ฝ่ายต้าน คสช. จึงฉวยจังหวะนี้ ขยายแผล และลามไปถึงการตั้งธง “โกงเลือกตั้ง” ไว้ล่วงหน้า

จึงเชื่อได้ว่า ถ้าฝ่ายคนแดนไกลชนะเป็นที่หนึ่ง แต่รวมเสียงตั้งรัฐบาลไม่ได้ ฝ่ายต้าน คสช. จะปลุกกระแสโกงเลือกตั้ง อันจะนำไปสู่การล้มกระดาน และล้มทั้งโครงสร้างเป็นเป้าหมายใหญ่