10 ดิจิทัลเด่นปี 2018

และเปิดทางให้บริษัทที่มีความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครเหมือนและให้บริการที่ตรงใจลูกค้าได้มากกว่า ช่วยให้บริษัทต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าจนอาจล้ำสนามข้ามไปยังธุรกิจใหม่ สำหรับปี 2018 มี 10 กลุ่มดิจิทัลไฮไลท์ที่สร้างผลกระทบในธุรกิจและในชีวิตผู้คนไม่น้อย จนอาจกลายเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคยในช่วงปีที่ผ่านไป

 

ดิจิทัลเด่นปี 2018

นวัตกรรมดิจิทัลนำจุดเด่นของการช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้คนสะดวกง่ายอย่างมีไลฟ์สไตล์จนได้สร้างความนิยมแพร่หลายทั่วโลก นวัตกรรม AI, Big Data หรือเทคโนโลยีอวกาศเร่งจุดประกายบทบาทของเทคโนโลยีที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คน โดย 10 ดิจิทัลเด่นปี 2018 ได้แก่

 สังคมไร้เงินสด(Cashless Society) ที่แพร่หลายจากนวัตกรรมทางการเงินที่ทำให้ผู้คนไม่ต้องพกพาเงินสดเพื่อใช้จ่าย แต่อาจใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟน แอพผ่านคิวอาร์โค้ดรวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้อย่างสะดวกสบาย จนเขย่าอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารถ้วนหน้า คาดว่าธนาคารพาณิชย์ต้องเร่งออกบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อปิดช่องโหว่จากเหล่าฟินเทคที่โหมแทรกตัวเข้ายังกลุ่มลูกค้าในเวลานี้

1. Robot หรือแขนกลที่เข้าแทนที่งานในอุตสาหกรรม โดยรายงานจาก IFR ระบุว่าในปี 2017 มี Robot ถูกจำหน่ายถึง 381,000 ชุดสร้างรายได้ประมาณ 16,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Robot รุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและ AI ซึ่งเชื่อมการทำงานของมนุษย์กับเครื่องจักรเข้าด้วยกัน โดยอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์มีสัดส่วนการใช้ Robot มากที่สุดถึง 33% จำนวนแรงงานในอุตสาหกรรมที่ลดลงทำให้ Robot เป็นสิ่งจำเป็นในภาคการผลิตมากขึ้น
2. AI และMachine Learning เริ่มมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจและการทำงานในหลากธุรกิจ อาทิ การอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร สั่งการทำงานของแขนกลในโรงงาน การคัดเลือกผู้สมัครเพื่อสอบสัมภาษณ์ การแปลภาษาระหว่างการสนทนาเช่นตัวอย่างจากกูเกิลหรือไมโครซอฟท์ การตรวจสอบข้อมูลจำนวนมากทางการแพทย์เพื่อใช้ในการตัดสินใจ และการเพาะปลูกและกสิกรรม และยังคงทวีบทบาทและความสำคัญในธุรกิจต่างๆ ต่อไปในอนาคต
3. Facial/Voice Recognitionถูกนำใช้ในการพิสูจน์ตัวตนด้วยหน้าหรือเสียงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และมักถูกนำมาใช้ในการให้บริการทางการเงิน การชำระค่าสินค้าหรือการล๊อคอิน โดยนวัตกรรมจากบริษัทสตาร์ทอัพของจีนมีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
4. OmniChannel และอีคอมเมิร์ซที่นำจุดสำคัญในการเชื่อมต่อนักช๊อปออนไลน์เข้ากับหน้าร้านเพื่อให้ปิดการขายได้จากทุกช่องทาง กลายเป็นกลยุทธ์การต่อยอดของอีคอมเมิร์ซชั้นนำไม่ว่าจะเป็นอเมซอนหรืออาลีบาบา ในทางตรงกันข้ามสโตร์ชั้นนำก็ได้เชื่อมต่อหน้าร้านของสโตร์เข้ากับช่องทางออนไลน์เพื่อเสริมการขายให้ครบทุกช่องทางเช่นกัน
5. Voice Assistantคืนธรรมชาติในการเสริช์ข้อมูลให้ผู้คนผ่านการสนทนาโดยไม่ต้องพิมพ์ตัวหนังสือให้เปลืองแรง ตัวอย่างเช่น นวัตกรรมยอดนิยมอย่างอเล็กซ่า (Alexa) จากอเมซอน กูเกิลแอสซิสแทนท์ (Google Assistant) จากกูเกิลที่ให้เสียงสนทนาราวกับคุยอยู่กับมนุษย์ หรือคอร์ทานา (Cortana) จากไมโครซอฟท์ และสิริ (Siri) จากแอปเปิล พร้อมคู่แข่งหน้าใหม่ Tmall Genie จากอาลีบาบา Xiao AI จากเสี่ยวหมี่ และ Duer OS จากไบดู ซึ่งต่างมาพร้อมฟังก์ชั่นมากมาย อาทิ การสั่งซื้อสินค้า การสอบถามข้อมูล การเล่นเพลง หรือการสั่งให้อุปกรณ์ในบ้านหรือในรถยนต์ที่อินทริเกรทกับระบบ IoT ทำงานได้เอง
6. Internet of Things (IoT)ในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในโรงงานที่สื่อสารถึงกันในการคาดการณ์ และควบคุมการทำงานของขบวนการผลิตและการบำรุงรักษาระบบ ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัท Bain & Co คาดว่ารายได้จากอุตสาหกรรมนี้จะสูงถึง 450,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ขณะที่ IoT สำหรับครัวเรือนถูกเน้นที่การใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การประหยัดพลังงานและการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
7. Blockchainซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เป็นกำลังขับเคลื่อนธุรกรรมสำคัญในหลายอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความเชื่อถือและความปลอดภัยข้อมูล โดยธนาคารพาณิชย์มีการปรับเพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้เพื่อสร้างเครือข่ายที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในการทำธุรกรรมและให้บริการ กระแสบล็อกเชนมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่บิทคอย (Bitcoin) แปลเปลี่ยนเร็วเกินแรง
8. Original Streaming Contentเมื่อผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix หันมาเป็นผู้ผลิตภาพยนต์เสียเอง จึงเขย่าอุตสาหกรรมภาพยนต์ด้วยเงินทุนที่คาดว่าอาจสูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 โดย 85% คาดว่าเป็นเงินลงทุนในภาพยนต์ที่สร้างเอง (Originals) จนทำให้คอภาพยนต์และครัวเรือนเปลี่ยนใจจากค่ายหนังและโรงภาพยนต์มาชมภาพยนต์ในโฮมเธียร์เตอร์ที่บ้านตามเวลาที่ต้องการในราคาคุ้มค่าแทน
9. Reusable Rocketและ Spaceship กลายเป็นนิยายไซไฟที่ทำได้จริงและกำลังผลักดันการท่องเที่ยวอวกาศให้กับผู้มีเงินเหลือใช้ ภาพการทดสอบการส่งจรวดฟาวด์คอนเฮวี่และการล่อนกลับสู่พื้นโลกของจรวดขับเคลื่อน 2 ลำได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงโอกาสของการลดค่าใช้จ่ายของการเดินทางในอวกาศ และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเมื่ออีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) และริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ต่างเร่งให้การท่องอวกาศเกิดขึ้นได้จริง

 ส่วนเทคโนโลยีที่มีผู้กล่าวถึงไม่น้อยไปกว่ากันคงรวมถึง Sharing Society รถยนต์ไร้คนขับ (AV), BioTech และ Hyperloop ตลอดจนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Big Data, คลาวด์คอมพิวติ้ง และการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics) ที่เป็นฐานสำคัญของเทคโนโลยีมากมาย อาทิ AI/ML, Facial/Voice Recognition และนวัตกรรมทันสมัยอื่นอีก และสำหรับปี 2019 คงมีนวัตกรรมน่าสนใจให้ติดตามอีกมาก