การยกระดับเมืองท่องเที่ยว

การยกระดับเมืองท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวก็เหมือนกับสินค้าและบริการอื่นๆ ค่ะท่านผู้อ่าน เมื่อขายไปนานๆ แล้วลูกค้าก็เริ่มเบื่อจะต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์

หรือต้องมีการ Promote ด้วยวิธีการใหม่ๆ ถึงจะสามารถดึงดูดลูกค้าขาประจำให้มาซื้อหากันเหมือนเดิม เมืองท่องเที่ยวต่างๆ ที่เรามีอยู่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีการยกระดับหรืออัพเกรดให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามขึ้น มีบริการที่สร้างสรรค์ มีชีวิตชีวามากขึ้น โอกาสที่แหล่งท่องเที่ยวนั้นจะตกกระป๋องไปในสายตาผู้บริโภคที่หันไปหาทางเลือกอื่นๆ ก็จะเป็นไปได้มาก

ในการศึกษาเพื่อวางยุทธศาสตร์เมืองท่องเที่ยว ที่มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ ได้รับมอบหมายจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้เลือกเมืองกรณีศึกษาต่างๆ ร่วมกับ ผศ.ดร.อภิวัฒน์ รัตนวราหะและผศ. คมกริช ธนะเพทย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวคือ 1) ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ แล้วทำอย่างไรถึงจะยกระดับสูงไปกว่าที่เป็นอยู่ 2) เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นต้องอนุรักษ์ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีการตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นเมืองมรดกโลก ดังนั้น จึงต้องมีการกำหนดทิศทางให้การพัฒนาความเจริญกับการอนุรักษ์มรดกดั้งเดิมให้ไปด้วยกันให้เกิดผลที่เรียกว่า win-win ทั้งสองฝ่าย 3) ลำปาง ซึ่งมีศักยภาพในด้านแหล่งท่องเที่ยวสูงแต่มีจำนวนผู้มาเยือนน้อย คำถามก็คือว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แล้วจะยกระดับได้อย่างไร และ 4) พัทลุง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวรองที่มีศักยภาพสูงเช่นเดียวกัน แต่มีนักท่องเที่ยวประเภทนักทัศนาจรจากจังหวัดใกล้เคียงเป็นส่วนใหญ่ จึงมีคำถามว่า ถ้าจะยกระดับขึ้นจะต้องทำอย่างไร

สำหรับภูเก็ตนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองท่องเที่ยวที่เป็นเกาะที่โด่งดังระดับโลกด้วยกันคือ สิงคโปร์กับฮ่องกงก็จะพบว่า มีมาตรฐานหลายตัวที่ยังสู้ 2 กาะนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัย เรื่องสิ่งแวดล้อมและเรื่องสุขภาพอนามัย และการขนส่งภายใน นอกจากนี้ ภูเก็ตยังไม่มีศูนย์ประชุมนานาชาติซึ่งทางโครงการนี้ได้เสนอเอาพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาเพิ่มภาพลักษณ์การให้บริการที่สูงขึ้น

การยกระดับเมืองท่องเที่ยว

สำหรับเชียงใหม่นั้น มีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาพื้นที่ใช้งาน และพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ให้เกื้อกูล ไม่ขัดแย้งและมีความสวยงามมากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาคลองแม่ข่า ซึ่งเป็นคลองที่อยู่กลางเมืองให้เป็นคลองที่มีความสะอาด งดงาม และในที่สุดก็จะเป็นท่องเที่ยวและแหล่งทำมาค้าขายได้เช่นเดียวกับ 2 ข้างลำธาร ที่เมืองลี่เจียง หากเชียงใหม่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกแล้ว เชียงใหม่ในสายตาของชาวโลกก็จะถูกยกระดับขึ้นไปโดยปริยาย

สำหรับลำปาง เมืองที่มีศักยภาพสูงก็จริง แต่มีความจำเป็นต้องพัฒนาการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันต้องยกระดับความเป็นเมืองลำปางซึ่งเป็นเมืองที่โดดเด่นที่สุดในภาคเหนือ ด้านการมีแหล่งท่องเที่ยวภายในเมือง คิดเป็นสัดส่วนแล้วสูงกว่าในเชียงใหม่เสียอีก ขณะนี้ทางจังหวัดลำปาง ได้พยายามที่จะสื่อสารภาพลักษณ์ของลำปางออกไปมากขึ้น แต่ที่จะต้องทำยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ จะต้องสร้างเมืองลำปางให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าจังหวัดอื่นในประเทศไทย เพราะลำปางมีของดีที่คนอื่นไม่มี คือรถม้าลำปางและเซรามิก  ดังนั้นจึงควรจะต้องมีการพัฒนาลำปางให้เป็นเซรามิก ซิตี้ ซึ่งต้องมีองค์ประกอบของแลนด์มาร์คต่างๆ รวมทั้งสตรีทอาร์ต ในเมืองลำปางก็ควรเป็นสตรีทอาร์ตที่เป็นเซรามิกไม่ใช่ภาพวาดเหมือนเมืองอื่นๆ

อีกกลยุทธ์ที่สำคัญ คือลำปางควรมุ่งที่จะเสนอวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นมรดกโลก เพราะวัดพระธาตุลำปางหลวงนั้น มีคุณสมบัติครบถ้วน หากวัดพระธาตุลำปางหลวงได้เป็นมรดกโลกก็จะยกระดับลำปางขึ้นไป ไม่เพียงแต่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวระดับชาติแต่เป็นระดับนานาชาติด้วย และยังเป็นวิธีการที่รับประกันการอนุรักษ์วัดพระธาตุลำปางหลวงให้จีรังยังยืนอีกด้วย

พัทลุงนั้น เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยค้างคืน ดังนั้นจึงควรมีกิจกรรมและไฮไลท์ตอนกลางคืนให้คนมาค้างคืน ทั้งนี้จะต้องมีการลงทุนเรื่องการส่องไฟที่เขาทะลุให้เกิดสกายไลน์ใหม่ที่สวยงาม ดังภาพ

การยกระดับเมืองท่องเที่ยว

แต่อย่างไรก็ดีในทุกจังหวัดนั้นจุดอ่อนใหญ่ก็จะเหมือนกันคือ การคมนาคมภายในจังหวัดที่ยังไม่มีความสะดวกเท่าที่ควร จำนวนรถสาธารณะก็น้อย รัฐบาลก็ยังไม่ยอมรับ Grab car ซึ่งที่จริงแล้วเป็นวิธีการที่จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนรถสาธารณะโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเมื่อใช้แอพลิเคชันก็จะสะดวกมากขึ้นโดยรัฐไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

การศึกษาของมูลนิธิฯ ยังพบว่า การที่รัฐบาลลงทุนกับชุมชนท่องเที่ยวนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ผลกระทบของการลงทุนของชุมชนท่องเที่ยวนั้น ย่อมจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีการส่งต่อนักท่องเที่ยวจากเมือง หากรัฐบาลละเว้นการดูแลเมืองแล้วการส่งต่อนักท่องเที่ยวไปยังชุมชนท่องเที่ยวต่างๆ ก็เป็นไปได้ยาก

การท่องเที่ยวในยุคที่นักท่องเที่ยวจีนกำลังจะกลับมาใหม่นั้นเป็นยุคที่ต้องเอาเมืองเป็นหลัก นักท่องเที่ยวจีนนั้นมีวิสัยเคยชินกับการอยู่ในเมือง สำหรับเมืองเชียงใหม่นั้นนักท่องเที่ยวจีนนิยมพักในเขตเมืองเก่าด้วยซ้ำ เพราะสามารถมาเดินดูเมืองในเวลากลางคืนและมีกิจกรรมในเวลากลางคืนด้วย หากเมืองรองอื่นๆ มีกิจกรรมนันทนาการในเวลาค่ำคืนที่เป็นอารยะ (ไม่ใช่มีแต่บาร์เบียร์) โอกาสที่จะได้นักท่องเที่ยวที่ดีมาค้างคืนในจังหวัดเมืองรองก็จะมีมากขึ้น

โอกาสของการยกระดับเมืองท่องเที่ยวไทยก็ขึ้นอยู่กับการบูรณาการการท่องเที่ยวกับการพัฒนาเมืองให้ไปในทิศทางที่สอดรับกันค่ะ!