จากความคับแค้นใจในฝรั่งเศส

จากความคับแค้นใจในฝรั่งเศส

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเสนอให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในฝรั่งเศส การขึ้นค่าแรงเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลสัญญาว่าจะทำ

หลังจากเกิดการประท้วงอย่างกว้างขวางเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งในบางพื้นที่มีความรุนแรงถึงกับเป็นจลาจลยังผลให้คนเสียชีวิต

ชนวนของการประท้วง ได้แก่ การขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล แม้รัฐบาลจะยุติการขึ้นภาษีนั้น แต่การประท้วงมิได้ยุติลง ตรงข้ามมันกลับลุกลามต่อไป ทั้งนี้เพราะชาวฝรั่งเศสจำนวนมากมองว่า รัฐบาลเอาใจเฉพาะชนชั้นเศรษฐีเท่านั้น เศรษฐีกลุ่มเล็กๆ จึงได้รับผลของการขยายตัวทางเศรษฐกิจและนโยบายต่างๆ ไปเกือบทั้งหมด ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่แทบไม่ได้อะไรเพิ่ม สภาพความเหลื่อมล้ำที่ถูกตอกย้ำให้ปรากฏอย่างเด่นชัดยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความคับแค้นใจจนเป็นเสมือนเชื้อไฟที่ทำให้การประท้วงลุกลามไปทั่วประเทศ

วิกฤติการณ์ในฝรั่งเศสมองได้ว่า เป็นอาการหนึ่งของความคับแค้นใจในระดับเดือดปุดๆ ของประชาชนกลุ่มใหญ่ในหลายประเทศ ความเหลื่อมล้ำเป็นเหตุปัจจัยของความคับแค้นใจซึ่งแสดงออกมาในหลายรูปแบบ เช่น ในสหราชอาณาจักร แสดงออกมาผ่านการลงคะแนนให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรป ผลของการลงคะแนนนั้นกำลังสร้างปัญหา ซึ่งรัฐบาลยังหาทางออกที่นักการเมืองส่วนใหญ่พอใจไม่พบ ในสหรัฐแสดงออกมาโดยการเลือกนายโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเพราะเขามีแนวนโยบายโน้มไปในทางต่อต้านการค้าเสรีซึ่งเป็นเสมือนหัวใจของโลกยุคโลกาภิวัตน์ แนวนโยบายนี้กำลังมีผลกระทบอย่างแพร่หลายและอาจก่อให้เกิดข้อพิพาทร้ายแรงกับจีน

อนึ่ง อาจไม่เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางนักว่า ปัจจัยพื้นฐานของความเหลื่อมล้ำได้แก่เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง ผู้คิดค้นจนได้เทคโนโลยีใหม่และผู้นำมันมาใช้ได้ก่อนมักได้ส่วนแบ่งส่วนใหญ่ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เราจึงเห็นอภิมหาเศรษฐีแอนดรูว์ คาร์เนกีและจอห์น รอคกี้เฟลเลอร์เกิดขึ้นในยุคอุตสาหกรรมและบิล เกตส์และมาร์ค ซักเคอร์เบอร์กเกิดขึ้นในยุคดิจิทัล

ปัจจัยพื้นฐานนั้นเสริมด้วยปัจจัยสำคัญทางการเมือง นั่นคือ ชนชั้นเศรษฐีเข้าถึงและครอบงำอำนาจได้มากกว่าประชาชนทั่วไปส่งผลให้นโยบายของรัฐเอื้อประโยชน์แก่พวกเขามากที่สุด ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยก็หนีไม่พ้นการครอบงำนี้ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความคับแค้นใจซึ่งชาวโลกโดยทั่วไปไม่ค่อยตระหนัก หรือไม่ยอมรับอีกด้วย กล่าวคือ โดยทั่วไปโดยเฉพาะในประเทศที่ใช้แนวคิดเศรษฐกิจกระแสหลัก ประชาชนถูกล้างสมองจนฝังใจว่า ตนต้องมีรายได้ซึ่งเอื้อให้บริโภคเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจึงจะบรรลุเป้าหมายของชีวิต เมื่อผลของการขยายตัวทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดไปตกอยู่ในมือของผู้กำเทคโนโลยีและมหาเศรษฐีกลุ่มเล็กๆ ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่พอใจแม้รายได้ของตนจะอยู่ในระดับที่เลี้ยงชีพได้อย่างเพียงพอแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ออกมาประท้วงในฝรั่งเศสพร้อมทั้งผู้ออกมาลงคะแนนให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปและให้นายโดนัลด์ ทรัมป์โดยทั่วไปจึงมิใช่คนยากจนมาก หากเป็นผู้ไม่พอใจในสภาพความเหลื่อมล้ำ

ปัจจัยทั้งสาม เมื่อนำมารวมกันกำลังสร้างปัญหาซึ่งนับวันจะสาหัสยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะโลกมีทรัพยากรจำกัด ฉะนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะนำมาใช้ หรือบริโภคเพิ่มขึ้นได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดในเมื่อประชากรโลกยังเพิ่มขึ้น จริงอยู่เทคโนโลยีใหม่มีศักยภาพที่อาจนำมาใช้ในการสงวนทรัพยากร แต่ส่วนใหญ่มันถูกใช้ไปในทางกระตุ้นให้ต้องการใช้มันมากขึ้นรวมทั้งเพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้นโดยทั่วไป การสร้างอาวุธใหม่ขึ้นมาใช้แทนอาวุธเก่าและการสนับสนุนให้เศรษฐีมีโอกาสครอบงำอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้น กลุ่มเศรษฐีมักไม่มีใจกว้างพอที่จะปันทรัพย์สินกองมหาศาลของพวกตนเพื่อคนจนในสังคม หรือสนับสนุนนโยบายให้คนส่วนใหญ่ได้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น

ท่ามกลางปัจจัยที่ดูเหมือนว่าจะพาโลกไปพบแต่ทางตันนี้จะมีทางออกบ้างไหม?

ขอตอบว่า มีแน่นอน ทางออกอยู่ไม่ไกล ทว่าชาวโลกและชาวไทยส่วนใหญ่ยังไม่ทำความเข้าใจและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนรัฐบาลไทยก็ได้แต่อ้างถึงโดยไม่เป็นที่ประจักษ์ว่าใส่ใจที่จะนำมาใช้เป็นฐานของการบริหารประเทศอย่างจริงจัง ผู้อ่านส่วนใหญ่คงเดาได้ว่าผมหมายถึงแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง